“นายกฯ อภิสิทธิ์” ระบุพร้อมคุยวิป 3 ฝ่าย หลังปล่อยให้คุยกันเองก่อน พร้อมมอบคณะกรรมการกฤษฎีกาดูข้อกฎหมายหาช่อง แนะทำประชามติแก้รัฐธรรมนูญควรทำช่วงไหน ย้ำยึด 6 ประเด็น กก.สมานฉันท์ฯ ถามครั้งเดียว ไม่ถามแก้ทั้งฉบับ อ้างเดี๋ยวสภาแก้ไม่ตรงเจตนารมณ์
วันนี้ (30 ก.ย.) ที่ทำเนียบรัฐบาล นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ถึงความคืบหน้าในการนัดคุยวิป 3 ฝ่ายในการแก้ไขรัฐธรรมนูญว่า ประธานวิปรัฐบาลบอกกับตนว่าได้นัดวิปอีก 2 ฝ่ายในวันที่ 1 ต.ค.นี้ ตอนกลางวัน และจะนัดพบตนอีกครั้งอาจจะเป็นวันศุกร์หรือสัปดาห์หน้า ซึ่งสำหรับตนจะเป็นวันไหนก็ได้ ตอนนี้วิปขอคุยกันเองก่อน
ผู้สื่อข่าวถามถึงกรณีที่พรรคภูมิใจไทยเสนอว่าการแก้ไขรัฐธรรมนูญหากจบวรรค 1 ให้ทำประชามติ นายอภิสิทธิ์กล่าวว่า ตนได้ให้คณะกรรมการกฤษฎีกาดูข้อกฎหมายอยู่ในขณะนี้ว่าวิธีการขั้นตอนจะทำชั้นไหนอย่างไร ในเรื่องการทำประชามติ หากจะทำประชามติแบบผูกมัดกฎหมายเลย ยังมีข้อถกเถียงว่าต้องแก้มาตรา 291 ก่อนหรือไม่ หากเป็นว่าการแก้มาตรา 291 ก่อน แล้วจะเป็นปัญหาอุปสรรคและทำให้เสียเวลาอาจจะต้องตัดช่องทางนั้นไป ทั้งนี้จะอยู่ที่ว่าก่อนร่างหรือจะทำระหว่างชั้นกรรมาธิการ โดยถือว่าเป็นส่วนหนึ่งของการรับฟังความคิดเห็น อันนี้ทำได้ทั้ง 2 ทาง
เมื่อถามว่าคณะกรรมการกฤษฎีกาจะให้คำตอบเมื่อไหร่ นายอภิสิทธิ์กล่าวว่า ตอบมาเบื้องต้นแล้ว แต่ยังไม่ชัดเจนทั้งหมด เพียงแต่บอกว่ามีช่องทางเหมือนกัน แต่ต้องดูอีกทีว่าเหมาะสมหรือไม่ ซึ่งรัฐบาลจะอาศัยรัฐธรรมนูญในมาตราว่าด้วยประชามติ และทำประชามติ ซึ่งความเห็นนั้นจะส่งไปให้กรรมาธิการ เมื่อถามว่าในเมื่อจะเสียเงิน 2 พันล้านบาทแล้วทำไมไม่ถามประชาชนไปทั้งฉบับเลย นายอภิสิทธิ์กล่าวว่า ถ้าสมมติว่ารับไปแล้วทั้งฉบับ ถามว่าแก้ไม่แก้ เราไม่อยากถามอย่างนั้น เพราะคนตอบว่าแก้จะไม่สามารถตอบได้ว่าแก้เรื่องไหน หากเขาอยากให้แก้เรื่องวุฒิสภา แต่สภาไปแก้เรื่องกฎหมายเลือกตั้ง ก็จะไม่เป็นไปตามเจตนารมณ์ของประชาชน ฉะนั้นอยากทำให้ลักษณะที่ว่าสมมติขณะนี้ยึดตามหลักของกรรมการสมานฉันท์ฯ ที่เสนอมา 6 ประเด็น โดยถามประชาชนทั้ง 6 ประเด็นว่าเอาหรือไม่ เพื่อให้เกิดความชัดเจน ว่าประชาชนต้องการแก้ไม่แก้ประเด็นไหน และที่มีการพูดกันว่า 6 ประเด็น 2พันล้าน รวมเป็น 1หมื่น 2 พันล้านบาทนั้นไม่ใช่ เราทำพร้อมกัน ไม่ได้ 6 ครั้ง