xs
xsm
sm
md
lg

“วีระ”เผยขบวนทวงคืนเขาวิหาร ทำฮุนเซ็น คลั่งหวั่นเสียผลประโยชน์-ตกเก้าอี้นายกฯ

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


“วีระ”เปิดโปง รบ.“หมัก”รับลูก“นช.แม้ว”สานผลประโยชน์บนพื้นที่รอบเขาวิหาร ซึ่งจะสำเร็จต้องดัน ฮุน เซน เป็นายกฯ และจะเป็นนายกฯได้ ต้องชนะการเลือกตั้ง โดยประเด็นที่เรียกคะแนนนิยมให้ ฮุน เซน คือเขาวิหาร ดังนั้นเมื่อชาวไทยตื่นตัวทวงคืนอธิปไตยรอบเขาวิหาร ทำให้ ฮุน เซน คลั่งสั่งยิงดะ หากเข้าพื้นที่ 4.6 เหตุหวั่นเสียผลประโยชน์ ขณะที่ “ร.ต.แซมดิน”ระบุไทยหน่อมแน้ม ทำเขมรเหิมเกริม จี้ รบ. ชัดเจนตาต่อตา ฟันต่อฟัน



คลิกที่นี่ เพื่อฟัง รายการ “คนในข่าว”

รายการ “คนในข่าว”ออกอากาศทางสถานีโทรทัศน์เอเอสทีวี-ทีวีของประชาชน ช่วงเวลา 20.30-21.30 น. วันที่ 29 กันยายน 2552 โดยมีนายเติมศักดิ์ จารุปราณ เป็นผู้ดำเนินรายการ ซึ่งได้รับเกียรติจาก นายวีระ สมความคิด ภาคีเครือข่ายติดตามสถานการณ์กรณีเขาพระวิหาร และ ร.ต.แซมดิน เลิศบุศย์ ผู้ประสานงานกองทัพธรรม มาร่วมพูดคุยถึงท่าทีของรัฐบาลไทย กับการแข็งกร้าวของกัมพูชา

นายวีระ มองท่าทีที่เข็งกร้าวของกัมพูชา ว่า เป็นอาการของคนที่รู้ว่าตัวเองกำลังฝันสลาย หลังชาวไทยตื่นตัวรุกคืบทวงคืนเขาวิหาร เพราะหากมีการผลักดันให้ชาวกัมพูชาออกไป โอกาสที่เขาจะนำปราสาทเขาพระวิหารไปจดทะเบียนคงเป็นไปไม่ได้อีกแล้ว อีกอย่างในทางการเมือง สมเด็จ ฮุน เซน นายกรัฐมนตรีกัมพูชา ได้ใช้เรื่อง มรดกโลก ในการหาเสียง ซึ่งก็ได้คะแนนนิยมอย่างมาก ดังนั้นหากมรดกโลกถูกถอน เขาจะถูกการเมืองภายในกดดันอย่างหนัก และข้อมูลความลับทั้งหลายจะถูกเปิดเผย ว่า คนที่ได้ประโยชน์มากที่สุดก็คือตัว ฮุน เซน ไม่ใช่ชาวกัมพูชา

“ฮุน เซน กำลังเป็นบ้าเพราะรู้ดีว่า กัมพูชาไม่สามารถสร้างกระเช้าไฟฟ้าขึ้นทางช่องบันไดหักได้ เนื่องจากเป็นหน้าฝาชัน หากจะขึ้นต้องสร้างเสาตอหม้อด้วยความชัน 90 องศา อีกอย่างหากสร้างกระเช้าไฟฟ้า จะหมดจากความเป็นมรดกโลกทันที ดังนั้นวิธีเดียวที่กัมพูชาสามารถขึ้นชมเขาวิหารได้ ก็แต่โดยขึ้นทางบ้านโกมุย ผ่านวัดแก้วสิขาคีรีศวร พื้นที่ ที่รุกล้ำเข้ามาในแผ่นดินไทยเท่านั้น” นายวีระ กล่าว

นายวีระ กล่าวถึงกรณีที่ ฮุน เซน ประกาศว่า“พื้นที่ 4.6 ตร.กม.เป็นของเขา พร้อมให้ทหารสริมกกำลังแต้มที่ หากใครรุกล้ำเขาให้ยิงตอบโต้ทันที” ตรงนี้มีการถ่ายทอดสด มีประชาชน ทหารกัมพูชาอยู่จำนวนมาก ส่อให้เห็นเจตนาว่าพูดจริง ดังนั้นหากนายกและนายกษิต บอกว่าไทยยังไม่เสียดินแดน และยังจะใช้แนวทางสันติวิธีในการเจรจาอีก ในขณะที่ ฮุน เซน ประกาศใช้ความรุนแรง อย่างนี้หากท่านมั่นใจว่า ฮุน เซน พูดขู่ไปอย่างนั้นเอง ก็อยากให้นายกฯกับนายสุเทพ กอดคอกันเดินเข้าไปในพื้นที่ 4.6 ตร.กม. แล้วดูว่าทหารกัมพูชาจะยิงไหม

นายวีระ กล่าวต่อว่าที่หลายคนมองว่าต่างชาติหนุนหลังกัมพูชา ทำให้กัมพูชามีท่าทีแข็งกร้าวนั้น ต่อให้ทฤษฎีนี้เป็นจริง แต่ตามกฏบัตรสหประชาชาติ ข้อ 51 ไม่มีข้อห้ามให้ประเทศไม่ให้ใช้กำลังในการป้องกันอธิปไตยของตัวเอง และรัฐภาคีก็ไม่มีสิทธิเข้าแทรกแซงด้วย ที่จริงรัฐภาคีควรจะเข้าไปปรามกัมพูชาถึงจะถูก ที่เข้ายึดแผ่นดินไทย แล้วยังจะมาขู่ยิง คนไทยอีกต่างหาก

“หากเรามาแบ่งผลประโยชน์ของทั้งสองประเทศเท่าๆกัน แล้วเอาผลประโยชน์นั้นเข้าประเทศโดยตรง ตนเชื่อว่าจะไม่มีใครค้านเลย แต่หากผลประโยชน์เข้าไปอยู่ในอุ้งมือ นักการเมืองหรือผู้ใหญ่บางคน ก็จะเป็นปัญหาอย่างนี้ตลอดไป จะไม่มีใครยอมใคร” นายวีระ กล่าว

นายวีระ กล่าวว่าการไปลงนามแถลงการณ์ร่วมไทย-กัมพูชา มีผลประโยชน์แอบแฝงอยู่ตั้งแต่สมัยพ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร เป็นนายกฯ แล้วตกทอดมายังนายสมัคร สุนทรเวช ที่เป็นนอมินี ซึ่งจะต้องสานต่อ ต้องทำทุกวิถีทางที่จะให้ สมเด็จ ฮุน เซน เป็นนายกฯต่อ เพราะหาก ฮุน เซน แพ้เลือกตั้ง ผลประโยชน์ต่างๆ ที่ตกลงกันมาต้องชะงักทันที อย่างไรก็ตามต้องยอมรับว่ากัมพูชา ฉลาดที่ไปดึงเอาประเทศมหาอำนาจเข้ามาร่วมด้วย โดยแลกกับผลประโยชน์ เพราะประเทศเหล่านั้นล้วนเป็นประเทศหลักของทูตยูเนสโกทั้งสิ้น ที่พยายามรับรองให้เป็นมรดกโลก ทั้งๆที่ขัดต่อระเบียบที่ตัวเองร่างมาทั้งสิ้น ตรงนี้ต้องขอประณามยูเนสโก ที่หลับหูหลับตาขึ้นทะเบียนเขาวิหาร เพราะบริเวณนั้นเต็มไปด้วยกับระเบิด มีทหารทั้งสองฝ่ายตรึงกำลังกันอยู่

นายวีระ กล่าวว่าการกระทำของนายนพดล ปัทมะ กับนายสมัคร สุนทรเวช ที่พยายามผลักดันให้กัมพูชาขึ้นทะเบียนเขาวิหารเป็นมรดกโลกแต่เพียงผู้เดียง ตรงนี้ ป.ป.ช. มีอำนาจลงโทษตามมาตรา 157 นอกจากนี้ยังเข้าข่ายความผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 119 ที่กำหนดไว้สองสถาน คือ จำคุกตลอดชีวิตหรือประหารชีวิตเท่านั้น ดังนั้นหากศาลฎีกาตัดสิน ว่านายสมัคร กับนายนพดล เป็นการกระทำโดยมิชอบ ศาลจะต้องขยายความต่อ ว่า แล้วการกระทำของ นายสมัคร กับ นายนพดล เข้าข่ายทำให้ไทยต้องเสียอธิปไตยด้วยหรือไม่

“มาตการแรกที่รัฐบาลไทยต้องทำ คือ เรียกทูตกัมพูชาเข้าพบแล้วบอก ว่า นายกฯของคุณพูดอย่างนี้หมายความว่าอย่างไร ทางกัมพูชาต้องการรบกับไทยใช่หรือไม่ หากใช่ก็ไล่ทูตกัมพูชากลับไปทันทีเลย เพราะอย่างน้อยก็เป็นการตอบโต้เชิงสัญลักษณ์ ให้รัฐบาลเขารับรู้ว่าเราก็ไม่ยอม” นายวีระ กล่าว

นายวีระ กล่าวว่ารัฐบาลนี้ เป็นรัฐบาลทรราชเต็มตัว ที่ปล่อยให้อันธพาลจัดตั้ง มาทำร้ายประชาชนชาวไทยที่ทวงอธิปไตยรอบเขาวิหาร โดยก่อนหน้าที่ตนจะนำประชาชนเคลื่อนขบวน ได้ประกาศออกสื่อว่า มีผู้ว่าฯ สั่งปิดปั๊มน้ำมัน ปิดโรงแรม กีดกันขบวนที่จะขึ้นไปทวงอธิปไตยรอบเขาวิหารคืน ตรงนี้รัฐบาล สามารถสั่งผู้ว่าฯ สั่งตำรวจให้รักษาความปลอดภัยได้ แต่ไม่ทำ หากรัฐบาลทำจะไม่มีเหตุการณ์อย่างนี้เกิดขึ้นเลย และจะมาอ้างว่าไม่รู้ไม่เห็นไม่ได้ เพราะคุณเป็นนายกฯ ต้องรู้ความเป็นไปในบ้านเมืองอยู่แล้ว

นายวีระ กล่าวต่อว่ากลุ่มอันธพาลจัดตั้งมีส่วนเกี่ยวข้องกับรัฐ เพราะจากที่สังเกตระหว่างทางตำรวจจะค้นอาวุธขบวนผู้รักชาติตลอดเส้นทาง อย่างระเอียด แค่ฝ่ายตรงข้ามถือ มีดสปาตาร์ ยืนข้างตำรวจ โดยตำรวจนิ่งเฉยไม่ได้เข้าไปจับกุมแต่อย่างใด ทั้งนี้ตนมั่นใจว่า ลำพังคนพวกนี้ไม่มีศักยภาพพอที่จะก่อเหตุอย่างโจ่งแจ้ง ถ้าไม่ได้มีการยกไฟเขียวจากรัฐ จึงทำให้เห็นภาพ ถืออาวุธ มีด ปีน กลางวันแสกๆ กลางถนนสาธารณะ อีกอย่างขณะนั้นตำรวจที่อยู่ในเหตุการณ์ ก็มีมากกว่าคนพวกนี้ตั้งเยอะ แต่ปล่อยให้มาทำร้ายประชาชนมือเปล่า แล้วอย่างนี้จะบอกไม่รู้เห็นเป็นใจได้อย่างไร

“มีนายตำรวจคนหนึ่ง โทรศัพท์มาเล่าให้ตนฟัง ว่า มีทหารบางคนเอารถไปรับชาวกัมพูชาจากพื้นที่ 4.6 ตร.กม. มาอยู่ที่บ้านภูมิซรอล วันที่ 18 เพื่อรอดักรอทำร้ายชาวไทยที่จะไปทวงคืนอธิปไตย” นายวีระ กล่าว

ร.ต.แซมดิน กล่าวถึงกรณีที่ สมเด็จ ฮุน เซน นายกรัฐมนตรีกัมพูชา สั่งให้ยิงผู้ที่รุกล้ำเข้าไปในพื้นที่ 4.6 ตร.กม. รอบเขาวิหาร ว่า เป็นการตกใจกลัวอะไรบางอย่าง จึงได้พูดออกมาอย่างนั้น และการกระทำอย่างนี้ แสดงว่า ไม่เห็นประเทศไทยอยู่ในสายตา ตรงนี้ทหารไทยยังไม่รู้ร้อนรู้หนาว ถือว่า เราหมดศักดิ์ศรีแล้ว และต่อไปทหารคงไม่ต้องเองงบประมาณไปซื้ออาวุธให้เปลื่องภาษีประชาชน ปล่อยให้คนมือเปล่าไปเจรจาดีกว่า ส่วนที่บอกว่ามีการการฉีกแผนที่ ตรงนี้ถือเป็นการเหยี่ยดหยาม การเจรจาของไทยตกต่ำที่สุด

ร.ต.แซมดิน กล่าวว่ารัฐบาลไทย อ่อนกับกัมพูชามากเกินไป ที่คิดแต่จะเจรจาอย่างเดียว ทำให้เขมรย่ามใจ หากกัมพูชาบอกจะใช้กำลัง เราก็ต้องใช้กำลังตอบโต้ เพราะตามที่ศาลโลกตัดสิน เป็นการตัดสินเฉพาะตัวปราสาท ไม่เกี่ยวกับพื้นที่ 4.6 ตร.กม เมื่อเรายึดเขตุแดนตามหลักสันปันน้ำ ดังนั้นพื้นที่ดังกล่าวมันต้องเป็นของเรา ดังนั้น รัฐบาลต้องชัดเจน หากกัมพูชาไม่ออก เราต้องผลักดันให้ออกไป และให้รื้อสิ่งปลูกสร้างที่เขาเอามาสร้างออกไปด้วย

ร.ต.แซมดิน กล่าวว่าที่ฮุน เซน สั่งทหารให้ทหารยิงคนที่รุกล้ำเข้าพื้นที่ 4.6 ตร.กม. เป็นเพราะข่าวกรณีเขาวิหารจะปิดหูปิดตาใครไม่ได้อีกแล้ว หลังขบวนทวงคืนอธิปไตยรอบเขาวิหารขึ้นไปแถลงการณ์ที่ผามออีแดง โดยมีนักข่าวต่างประเทศไปทำข่าวจำนวนมาก ทำให้ทั่วโลกรู้ถึงความไม่ชอบธรรมดังกล่าว

ร.ต.แซมดิน กล่าวถึงพวกที่ชอบพูดว่าคนที่ไปทวงอธิปไตย เป็นคนคลั่งชาติ ว่า เป็นพวกที่พูดพล่อย ไม่ดูความจริง คนที่ไป ไปด้วยสุภาพ ด้วยความเสียสละ ทั้งเงิน ความสุขส่วนตัว แค่ต้องการไปอ่านแถลงการณ์เท่านั้น และที่เขาไปเสียงเพราะเขากลัวว่าจะเสียดินแดนไปจริงๆ ที่ปะทะกันนั้นเป็นเพราะเราต้องการป้องกันตัวเพื่อไม่ให้ตกเป็นเป้านิ่ง ซึ่งถ้าหากคลั่งจริง ต้องทำรุนแรงมากกว่านี้

ร.ต.แซมดิน กล่าวอีกว่าสื่อต่างชาติตีความเหตุการณ์วันที่ 19 ว่าขบวนผู้รักชาติ รับงานมาสร้างความวุ่นวาย ตรงนี้ต้องดูว่าความรุนแรงเกิดจากใคร การกล่าวหาอย่านี้เป็นการใส่ร้ายไม่เป็นธรรม ไม่ต่างจากการใส่ร้าย โยนผิด เอาคนเดินบนถนน แล้วถูกยิงตาย แล้วคุณมาบอกว่าทำไมมาเดินเพ่นพ่านให้ถูกยิงไม่ได้ ทั้งนี้ปัญหาตอนนี้อยู่ที่รัฐบาลไทย ที่ยังไม่สามัคคีเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกัน ที่จะร่วมกันรักษาอธิปไตย เอาแต่วุ่นกับเรื่องผลประโยชน์ ตำแหน่งหน้าที่ของตัวเอง จึงทำให้ไม่สามารถตัดสินใจไปในทิศทางที่ถูกต้องที่จะรักษาอธิปไตยของชาติไว้ได้ อยู่ไปวันๆ ไม่คิดทำอะไรให้ประเทศชาติ ก็ลาออกไปเสีย

นายวีระ กล่าวเสริมว่า ปัญหานี้แก้ง่ายนิดเดียว คือ รัฐบาลไทยต้องทำหนังสือยืนยันไปยังคณะกรรมการมรดกโลก ว่า ตอนนี้เดินหน้าเจรจาไม่ได้แล้ว ต้องถอนออกไปก่อน เพราะ 1. เราประกาศกฎอัยการศึก 2.พื้นที่นี้ไม่เหมาะที่จะเป็นมรดกโลกเพราะมีแต่กองกำลังทหาร อีกอย่างตอนนี้กัมพูชา ประกาศว่าจะยิงทุกคนที่เข้าไป ดังนั้นจึงไม่สมควรขึ้นเป็นมรดกโลก
นายวีระ สมความคิด
ร.ต.แซมดิน เลิศบุศย์
นายเติมศักดิ์ จารุปราณ
กำลังโหลดความคิดเห็น