ศูนย์ข่าวเชียงใหม่ – ททท.แม่ฮ่องสอนจับมือผู้ประกอบการท่องเที่ยวกว่า 80 แห่ง จัดโครงการ “มหัศจรรย์สีเขียว” ลดราคากระหน่ำ 10-60% ดึงดูดคนเที่ยวเมืองสามหมอกตลอด 4 เดือนช่วงหน้าฝน ตั้งเป้าจำนวนนักท่องเที่ยวเพิ่ม 5-10 % พร้อมโกยรายได้ 500 ล้านบาท
นายวิสูตร บัวชุม ผู้อำนวยการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย(ททท.) สำนักงานแม่ฮ่องสอน เปิดเผยว่า ขณะนี้ ททท.สำนักงานแม่ฮ่องสอน ได้ร่วมกับจังหวัดแม่ฮ่องสอน ผู้ประกอบการธุรกิจท่องเที่ยว ทั้งที่พัก ร้านค้า ร้านอาหารและบริการ ต่างๆ กว่า 80 แห่ง รวมทั้งหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง จัดทำโครงการส่งเสริมการท่องเที่ยวจังหวัดแม่ฮ่องสอน ในช่วงนอกฤดูการท่องเที่ยวหรือกรีนซีซัน(Green Season) ภายใต้ชื่อ “มหัศจรรย์สีเขียว เที่ยวแม่ฮ่องสอน” ระหว่าง มิ.ย.-ก.ย.52 ด้วยการให้ส่วนลด 10-60% และสิทธิพิเศษอื่นๆ ซึ่งผู้สนใจสามารถสอบถามรายละเอียดได้ที่ ททท.สำนักงานแม่ฮ่องสอน โทรศัพท์ 053-612982-3
การจัดทำโครงการนี้มีขึ้นเพื่อกระตุ้นการท่องเที่ยวของจังหวัดแม่ฮ่องสอน ให้มีความคึกคัก ด้วยการเชิญชวนและดึงดูดใจให้นักท่องเที่ยวเดินทางท่องเที่ยวแม่ฮ่องสอนในช่วงกรีนซีซั่นมากขึ้น แทนที่จะเดินทางมามากเฉพาะในช่วงฤดูหนาวเท่านั้น โดยตั้งเป้าหมายว่าตลอดช่วง 4 เดือน จะมีนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างประเทศเดินทางท่องเที่ยวจังหวัดแม่ฮ่องสอนเพิ่มขึ้น 5-10% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน และมีรายได้สะพัดในพื้นที่ไม่ต่ำกว่า 500 ล้านบาท
สำหรับจุดขายที่ใช้ดึงดูดใจให้นักท่องเที่ยวเดินทางสู่แม่ฮ่องสอน ในช่วงนี้นอกจากการลดราคาแล้วนั้น ผู้อำนวยการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย สำนักงานแม่ฮ่องสอน กล่าวว่า ปกตินักท่องเที่ยวจะนิยมท่องเที่ยวแม่ฮ่องสอนในช่วงฤดูหนาว แต่แท้จริงแล้วในช่วงกรีนซีซั่นก็มีความงดงามและน่าท่องเที่ยวไม่แพ้กัน เช่น ผืนป่าที่เขียวขจี หรือ สภาพหมอกที่แตกต่างกันไป เป็นต้น
ขณะเดียวกันยังมีกิจกรรมบางอย่างที่มีเฉพาะช่วงกรีนซีซัน เช่น ล่องแก่งลำน้ำปาย ซึ่งได้รับความนิยมจากนักท่องเที่ยวต่างประเทศมาก เป็นต้น และการท่องเที่ยวในช่วงนี้ยังจะทำให้นักท่องเที่ยวได้รับความสะดวกสบายมากกว่าด้วยเพราะผู้คนไม่หนาแน่น
นอกจากนี้นายวิสูตร กล่าวถึงความคืบหน้าโครงการก่อสร้างกระเช้าไฟฟ้าเชื่อมต่อเชียงใหม่-แม่ฮ่องสอน เพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยวว่า เป็นโครงการที่อดีตผู้ว่าราชการจังหวัดแม่ฮ่องสอนได้ริเริ่มไว้ อย่างไรก็ตามจากสถานการณ์ปัจจุบันยอมรับว่า โครงการนี้ยังไม่มีความคืบหน้าและคงจะต้องล่าช้าออกไป เพราะต้องใช้เงินลงทุนสูงเป็นหลักหมื่นล้านบาทและต้องมีการศึกษาผลกระทบด้านต่างๆ โดยเฉพาะผลกระทบสิ่งแวดล้อมอย่างละเอียดด้วย ในเบื้องต้นจึงยังไม่สามารถบอกได้แนวโน้มของโครงการจะเป็นอย่างไรต่อไป
ทั้งนี้ยอมรับว่าหากมีกระเช้าไฟฟ้าที่เชื่อมต่อเชียงใหม่-แม่ฮ่องสอน เริ่มจากอำเภอแม่แตง จังหวัดเชียงใหม่ ผ่านอำเภอปาย และเข้าสู่เมืองแม่ฮ่องสอน น่าจะส่งผลดีต่อเศรษฐกิจและการท่องเที่ยวของจังหวัดเชียงใหม่และจังหวัดแม่ฮ่องสอนเป็นอย่างมาก เพราะจะกลยเป็นกิจกรรมใหม่ทางการท่องเที่ยวที่ช่วยดึงดูดผู้คนและนักท่องเที่ยว ขณะเดียวกันยังจะกลายเป็นทางเลือกใหม่ในการเดินทางสู่จังหวัดแม่ฮ่องสอน นอกเหนือจากเส้นทางรถยนต์และเครื่องบิน ที่ค่อนข้างจะเป็นปัญหาอุปสรรคพอสมควร
