“นายกรัฐมนตรี” กล่าวสุนทรพจน์ให้นักศึกษามหาวิทยาลัยโคลัมเบีย ถึงการพัฒนาประชาธิปไตยแบบยั่งยืน โดยเน้นย้ำว่าจะต้องให้ความสำคัญกับภาคประชาชน ชี้หมดสมัยการเมืองอยู่ในกลุ่มคนผู้มีอำนาจไม่กี่กลุ่ม ระบุวิกฤตการเมืองที่เกิดขึ้นเพราะขาดธรรมาภิบาล รัฐบาลในอดีตทำตัวอยู่เหนือกฎหมาย
วันนี้ (27 ก.ย.) นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ได้กล่าวในการบันทึกเทปจากมหานครนิวยอร์ก สหรัฐอเมริกา ผ่านรายการ “เชื่อมั่นประเทศไทยกับนายกฯ อภิสิทธิ์” ทางสถานีโทรทัศน์แห่งประเทศไทย กรมประชาสัมพันธ์ ว่าหลังจากบันทึกรายการนี้แล้วในเวลาตี 1 ตามเวลาท้องถิ่น ก่อนปฏิบัติภารกิจเป็นวันสุดท้ายและเดินทางกลับถึงประเทศไทยในวันอาทิตย์ สำหรับการเดินทางมาประชุมสหประชาชาติ ในฐานะประเทศสมาชิกเพื่อยืนยันที่จะให้ความร่วมมือในการแก้ไขปัญหาร่วมกัน ในช่วงที่สองนายกรัฐมนตรีได้ไปกล่าวสุนทรพจน์ที่มหาวิทยาลัยโคลัมเบีย ในหัวข้อการสร้างสรรค์ประชาธิปไตยกับการพัฒนาที่ยั่งยืน ว่าตลอดเวลา 9 เดือนที่ผ่านมาได้บริหารบ้านเมืองค่อนข้างที่จะลำบากมากทั้งวิกฤตเศรษฐกิจและต้องสร้างความสมานฉันท์ ปีที่แล้วประทศไทยมีนายกรัฐนตรีถึง 4 คนมีรัฐธรรมนูญมาแล้วถึง 18 ฉบับ ไม่ได้สะท้อนว่าเป็นความล้มเหลวทางประชาธิไตย แต่เป็นการพัฒนาที่ยั่งยืนในอนาคต ที่เน้นในเรื่องสาระมากกว่ารูปแบบ
“หมดสมัยแล้วการเมืองอยู่ในมือของผู้มีอำนาจไม่กี่คน ประชาชนต้องมาก่อน เมื่อมารับตำแหน่งนายกรัฐมนตรีต้องตอบสนองความต้องการของประชาชน ต้องหามาตรการที่ช่วยกระตุ้นค่าครองชีพถือเป็นกลุ่มผู้มีรายได้น้อยแต่เป็นคนกลุ่มใหญ่ของประเทศ ถึงเวลาแล้วที่ชาวนาไทยต้องทราบถึงการเคลื่อนไหวของราคาสินค้าที่ผันผวนตามตลาดโลก ไม่ใช่รัฐบาลเป็นผู้กำหนดราคา
ปัญหาการเมืองที่เกิดขึ้นเพราะขาดธรรมาภิบาล รัฐบาลที่ผ่านมาล้มเหลวเพราะลุ่มหลงอำนาจทำตัวเองอยู่เหนือกฎหมาย สิทธิที่ชอบธรรมต้องอยู่ภายใต้กฎหมาย สังคมประชาธิปไตยแบบใหม่ควรจะอยู่ภายใต้เศรษฐกิจที่ยั่งยืน” นายกรัฐมนตรีกล่าว
นายกฯอัญเชิญแนวพระราชดำริ ศก.พอเพียงฝ่าวิกฤตโลก
นายกรัฐมนตรี ยังได้กล่าวผ่านทางโทรศัพท์ ระหว่างเดินทางจากสหรัฐฯ กลับประเทศไทย เรื่องผลสำเร็จในการร่วมประชุม จี-20 ที่แสดงความมั่นใจว่า นักลงทุนชาวต่างชาติยังมั่นใจกับภาพลักษณ์ประเทศไทย และตลอดช่วง 9 เดือนที่ผ่านมา สามารถสร้างเสถียรภาพได้มากขึ้น ขณะที่การเติบโตด้านเศรษฐกิจก็เดินหน้าไปตามกรอบเวลาที่ดี ส่วนตัวเชื่อว่า ภายในเวลาไม่เกิน 2 เดือนนี้ เม็ดเงินลงทุนต่างๆ จะเข้ามาในประเทศมากขึ้น
ภารกิจสุดท้ายของนายกรัฐมนตรีที่สหรัฐฯ คือ การกล่าวสุนทรพจน์ที่ห้องประชุมใหญ่ สหประชาชาติ โดยใช้เวลาประมาณ 15 นาที ซึ่งมีการอัญเชิญแนวพระราชดำริเศรษฐกิจพอเพียง ในพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ ถึงประชาคมโลก ให้นำไปใช้แก้ปัญหาฝ่าวิกฤตต่างๆ ที่เกิดขึ้นในโลก
นอกจากนี้ รัฐบาลไทยยังยืนยันสนับสนุนช่วยเหลือประชาคมโลก แก้ปัญหาการขาดแคลนอาหาร เพราะไทยคือชาติผู้ส่งออกอาหารรายใหญ่แห่งหนึ่งของโลก ขณะเดียวกัน รัฐบาลไทยยังพร้อมให้ความร่วมมือสหประชาชาติ ทั้งด้านภารกิจเพื่อสันติภาพและมนุษยธรรม