“อภิสิทธิ์” ยืนยันไม่ได้ปล่อยกัมพูชาล้ำเส้นเข้ามาสร้างถนน แจงเกิดขึ้นก่อนมาเป็นรัฐบาล พร้อมมั่นใจนโยบายแก้ปัญหา “ปราสาทพระวิหาร” ได้ บอกไม่รู้สึกกดดัน ย้ำแนวทางเจรจาอย่างสันติวิธีระบุ “แดง-เหลือง” หวังรักษาอธิปไตย เหมือนรัฐบาล อย่ามาขัดแย้งกันเอง
วันนี้ (24 ก.ย.) เมื่อเวลา 07.50 น. นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ด้วยระบบการประชุมทางไกลผ่านเครือข่ายอินเทอร์เน็ต (เว็บคอนเฟอเรนซ์) ระหว่างการปฏิบัติภารกิจเข้าร่วมการประชุมสมัชชาสหประชาชาติ สมัยสามัญ ครั้งที่ 64 ที่นครนิวยอร์ก และการประชุมกลุ่มประเทศอุตสาหกรรม จี-20 พิตส์เบิร์ก ซัมมิต ที่นครพิตส์เบิร์ก ระหว่างวันที่ 21-27 ก.ย.นี้ ให้สัมภาษณ์จากประเทศสหรัฐอเมริกามายังรายการข่าว “เรื่องเล่าเช้านี้” ของสถานีโทรทัศน์ช่อง 3 โดยตอบคำถามของพิธีกร กรณีที่คนเสื้อแดงออกมากล่าวหาว่าระยะเวลา 9 เดือนที่ผ่านมารัฐบาลปล่อยให้กัมพูชาสร้างถนนเข้ามา 2 เส้น โดยอ้างว่ามีหนังสือเตือนจากกองทัพ 9 ครั้งแต่รัฐบาลไม่ทำอะไรและเป็นประเด็นที่คนเสื้อแดงจะอ้างเพื่อชุมนุมแตกหักในเดือนตุลาคมนี้ว่า ขอให้ไว้วางใจไม่น่าจะมีปัญหา อย่างไรก็ตาม ตัวถนนนั้นก่อสร้างกันมาตั้งแต่ก่อนที่ตนจะเข้ามารับตำแหน่งและมีการรายงานจากพื้นที่ขึ้นมา จากนั้นก็มีการประท้วง จนถึงขณะนี้ก็มีการนำไปสู่กรอบของการจรจา ซึ่งรัฐบาลกำลังเสนอต่อสภาฯในเรื่องที่จะให้ทุกฝ่ายออกจากพื้นที่และกลับไปสู่ข้อตกลงเมื่อปี 2543 ฉะนั้นคิดว่าไม่มีอะไรต้องวิตกกังวล เรื่องนี้เดินต่อตามแนวทางซึ่งเราจะรักษาสิทธิดินแดนอธิปไตยทุกประการ เพียงแต่วิธีการที่รัฐบาลทำนั้นไม่ต้องการให้เกิดการปะทะ การสูญเสียเท่านั้นเอง
เมื่อถามย้ำว่า การเข้ามาในพื้นที่ของกัมพูชาไม่ได้เข้ามาในช่วงที่ท่านเป็นรัฐบาลใช่หรือไม่ นายอภิสิทธิ์กล่าวย้ำว่า ตั้งแต่เรายังไม่ได้เป็นรัฐบาล จริงๆ แล้วคงจะจำได้ว่ามันมีการปะทันตั้งแต่เดือนกรกฎาคมปีที่แล้ว เรื่องการมีกองกำลังต่างๆ ก็เป็นผลสืบเนื่องมาจากที่มีการออกแถลงการณ์ร่วมเรื่องของมรดกโลก ซึ่งเป็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นก่อนหน้านี้ทั้งสิ้นและมีปัญหาในขณะนี้ว่าคนที่ไปทำขณะนั้นมีความผิดหรือเปล่าในเรื่องของการกระทำที่ขัดต่อรัฐธรรมนูญ ส่วนกรณีชุมชน การค้าขายต่างๆ ย้อนกลับไปไกลกว่านั้นอีก คือเกิดขึ้นหลังจากที่เหตุการณ์ในกัมพูชาสงบก็มีการเปิดให้มีการท่องเที่ยวในพื้นที่ดังกล่าว โดยมีทั้งคนไทย และกัมพูชาเข้าไปขายของและมีชุมชนขึ้นมา ตอนนี้เราพยายามที่จะช่วยกันจัดระเบียบอยู่
เมื่อถามว่า ดูเหมือนรัฐบาลอยู่ท่ามกลางแรงกดดันของกลุ่มเสื้อแดงและเสื้อเหลือง เนื่องจากกลุ่มคนเสื้อแดงก็กดดันทางหนึ่ง ทางเสื้อเหลืองต้องการให้รัฐบาลผลักดันชาวกัมพูชาออกจากพื้นที่ทันที นายอภิสิทธิ์กล่าวว่า หากความมุ่งหมายเราตรงกัน เราก็อย่าขัดแย้งกันเอง ไม่มีคนไทยคนไหนที่ต้องการให้ประเทศไทยเสียสิทธิ เสียอธิปไตย เสียดินแดน เพียงแต่แนวทางในการแก้ปัญหาตกลงกับทางกัมพูชากัน ซึ่งเป็นแนวทางที่ถูกต้องในฐานะเพื่อนบ้าน เป็นสมาชิกอาเซียนด้วยกัน คือ แก้ปัญหากันด้วยสันติวิธี ส่วนความได้เปรียบเสียเปรียบในทางกฎหมายตนยืนยันไม่มีปัญหา เพราะแถลงการณ์ร่วมเราก็แจ้งยกเลิกไปแล้ว รัฐบาลก็ทำงานเต็มที่ เรื่องการไปคัดค้าน ซึ่งอาจเป็นกระบวนการที่ไม่ถูกต้องนักในส่วนของมรดกโลกก็เป็นการแสดงออกชัดเจนถึงความเปลี่ยนแปลงในเชิงนโยบายจากปีที่แล้ว ซึ่งในส่วนทางพื้นที่ทางทหารก็ยืนยันแล้วว่าเรามีการตึงกำลังของเราอยู่