“สมเกียรติ” ระบุทำงานรับใช้ชาติจนมีคดีติดตัวมากมาย ยังไม่ท้อใจเท่ากระบวนยุติธรรมพึ่งไม่ได้ ชี้หากสังคมไทยไร้ความยุติธรรมแล้ว ไม่ว่าสถาบันไหนก็ไปไม่รอด ลั่นไม่ยอมให้นักการเมืองแค่หยิบเมือ แก้ธรน. หากผ่านประชามติเจอขบวนเคลื่อนไหวแน่ พร้อมอ้อนพี่น้องพันธมิตรฯ จัดคอนเสิร์ตใหญ่ บ้านบางระจัน เพื่อสดุดีคนกู้ชาติ
วานนี้ ที่เวที “ฝันให้ไกล ไปให้ถึง การเมืองใหม่” บริเวณลานโรงสี บี.พี.ไร้ซ์ อำเภอหนองแค จังหวัดสระบุรี นายสมเกียรติ พงษ์ไพบูลย์ แกนนำพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย กล่าวว่าวันที่ศาลพิพากษายกฟ้องจำเลยคดีทุจริตจัดซื้อกล้ายาง ตนถึงกับขาอ่อนทรุดลงกับพื้น เพราะหมดกำลังใจ หากสังคมไทยไร้ความยุติธรรมแล้ว ไม่ว่าสถาบันไหนก็ไปไม่รอด ขนาดพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ ยังทรงมีพระราชดำรัส เมื่อวันที่ 25 เม.ย.2549 ทรงขอร้องศาลฎีกากับศาลปกครองสูงสุด ให้กลับไปคิด ทบทวน เพื่อกู้วิกฤติชาติ
“ตนจัดรายการพบพี่น้องประชาชน ชื่อรายการ“แผ่นดินนี้มีความหวัง” แทบอยากจะทุบรายการทิ้ง เพราะว่าปัจจุบันแผนดินนี้ไม่มีความหวัง ความยุติธรรมของชาติพึ่งไม่ได้แล้ว ตนต่อสู้เพื่อความถูกต้อง เพื่อบ้านเมืองมาทุกอย่าง ยอมใช้ชีวิตที่ลำบากขึ้น แต่ดันมีคดีติดมากมาย หมดสินแรงใจอยากเปลี่ยนไปเป็นสัญชาติพม่า แล้วเร่รอนไปทำงานเรื่อยๆ ไม่รับรู้ถึงความเป็นไปในบ้านเมือง เพราะชาติไร้ความหวัง” นายสมเกียรติ กล่าว
นายสมเกียรติ กล่าวต่อว่าเวทีนี้เป็นเวทีที่อยู่ในซอยลึก หายากที่สุดเท่าที่ตนเคยขึ้นเวทีปราศรัยมา กว่าจะผ่านมาได้ก็เจออุปสรรค์มากมายขับรกวกไปวนมา เพราะพวกเสื้อแดงไปเปลี่ยนหัวลูกศร ที่พี่น้องทำสัญลักษณ์ไว้ อย่างไรก็ตาม ในใจแม้จะสิ้นหวังกับกระบวนการยุติธรรม สินหวังกับการเมืองปัจจุบัน แต่ตนยังดั้นด้นมา มาเพื่อพบพ่อแม่พี่น้อง เมื่อได้มาเห็นมวลชนเข้ารับฟังการปราศรัยจำนวนมาก ถึงกับน้ำตาไหล เกิดกำลังใจรู้สึกว่าแผ่นดินนี้ยังมีความหวัง และเชื่อว่าคนที่มาคือคนที่ค้นพบตัวเองต้องการ ผดุงไว้ซึ่ง ชาติ ศาสน์ กษัตริย์ สังคมแบบนี้ เป็นสังคมที่ตนอยากเข้าไปร่วมด้วย
นายสมเกียรติ กล่าวถึงนักการเมืองชั่วที่อยู่ในสภาหลายท่าน เป็นนักการเมืองที่ไร้ค่า เพราะกำลังปล้นชาติ ใช้คำว่าประชาธิปไตยและรัฐสภา เป็นทางผ่าน ตั้งงบประมาณฯ ตั้งนโยบายโครงการต่างๆ ซ้อนเร้นไปด้วยผลประโยชน์ การประชุมสภาฯ ก็เต็มไปด้วยสัตว์เลื้อยคลาน แล้วยังมีหน้ามาลงมติให้ บังคับให้ข้าราชการ กราบไหว้ ส.ส.อีก ในเมื่อเขาไม่ศรัทธาที่จะกราบไหว้ แล้วจะไปบังคับเขาทำไม แล้วอย่างนี้พี่น้องพันธมิตรฯยังจะปล่อยตนทุกข์ทรมานไปอยู่กับคนพวกนั้นอีกหรือ ต่อแต่นี้ไปไม่ต้องถามว่า นายสมเกียรติ จะไปไหนในอนาคต ในอนาคต ตน มาสู้อ้อมกอดประชาชนล้านเปอร์เซ็นต์
“เราจะไม่ยอมให้นักการเมืองเพียงหยิบเมือเดียว มาแก้ไขรัฐธรรมนูญและทำลายเจตนารมณ์วีรชน 7 ต.ค. อย่างเด็ดขาด หากมีการแก้ไขโดยไม่ฟังเสียงประชามติจากประชาชนทั้งประเทศ เราจะยกกองทัพประชาชนบุกทันที” นายสมเกียรติ กล่าว
นายสมเกียติ กล่าวว่าเมื่อสี่วันก่อน ตนไปปราศรัย ที่ศูนย์การค้าเสรี จ.ลำปาง มีคนฟังกว่า 400 แล้วเสื้อแดงมาล้อมประมาณ 50 คน เอาล่ะในเมื่อเสื้อแดงอยากจะล้อมก็ไม่ว่ากัน เรายังคงปราศรัยต่อไป เมื่อปราศรัยเสร็จก็สั่งอาการนั่งกินอย่างสบายใจ จนเสื้อแดงทนไม่ไหวหนีกลับไปเอง จากนั้นตนไปปราศรัย ที่ จ.ลำปาง อีกนับเป็นครั้งที่สอง ก็โดนล้อมอีกคราวนี้มากันประมาณ 500 คน ตนก็ปล่อยให้ล้อม แต่พวกมันล้อมเราไม่สำเร็จ เพราะเรานอนในโรงแรมนั้นเลย
“ตนขึ้นเวทีปราศรัย ให้ความรู้ทางการเมืองกับพ่อแม่พี่น้องประชาชน ผ่านมาแล้วทุกที่ แต่ยังไม่เคยปราศรัยที่ จังหวัดสิงห์บุรี เป็นกิจจะลักษณะเลย เพราะคนเสื้อแดงคอยขัดขวาง ทั้งที่ตนก็เป็นคนดั้งเดิมในภาคนี้ สำนึกรักแผ่นดินอยากทำประโยชน์ให้กับแผ่นดินเกิดบ้าง อีกทั้งห้าแกนนำพันธมิตรฯ ก็อยากให้จังหวัดสิงห์บุรีเป็นแกนกลาง ของภาคที่คอยผสานพี่น้องพันธมิตรฯเข้าด้วยกัน ด้วยเหตุนี้ตนจึงอยากขอร้องให้พี่น้องประชาชน ผู้รักชาติ ร่วมกันจัดคอนเสิร์ตขนาดใหญ่ ที่หมู่บ้านบางระจัน เพื่อสดุดีคนกู้ชาติ ที่ครั้งหนึ่งเคยสูญเสียชีวิตเพื่อแผ่นดิน” นายสมเกียรติ กล่าว