ดีเอสไอรับ 3 คดี เป็นคดีพิเศษ พบผู้มีอิทธิพลรุกป่าหัวหิน แปลงสภาพสนามกอล์ฟ ขรก.กระทรวงทรัพย์สมคบผู้มีอิทธพล ทุจริตจัดซื้อจัดจ้าง ยักยอกเรือรัฐทำประโยชน์ส่วนตัว ขณะที่ลพบุรี เจอนายหน้าหลอกเอาที่ดินประชาชน ไปประกันตัวผู้ต้องหา
วันนี้ (25 ก.ย.) ภายหลังการประชุมคณะกรรมการคดีพิเศษ(ดีเอสไอ) ที่มีนายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรีด้านความมั่นคง ที่ประชุมมีมติเห็นชอบให้รับคดีความผิดทางอาญาไว้เป็นคดีพิเศษ 3 คดี เพื่อดำเนินการสอบสวน ดังนี้ 1.คดีกรณีประชาชนในพื้นที่ อ.โคกสำโรง จ.ลพบุรี ถูกหลอกลวงในนำหลักฐานทางที่ดินไปค้ำประกันผู้ต้องหา ซึ่งนายอำนวย คลังผา ส.ส.สัดส่วนพรรคเพื่อไทย จ.ลพบุรี มีหนังสือถึงดีเอสไอให้ตรวจสอบเรื่องดังกล่าว โดยระบุว่าโดยมีนายหน้าแสดงข้อความเป็นเท็จหลอกลวง ให้นำหลักฐานทางที่ดิน เช่น โฉนดที่ดิน น.ส.3 ก.ไปประกันตัวผู้ต้องหาในคดีอาญาที่อยู่ในอำนาจศาล แต่ภายหลังผู้ต้องหาในคดีหลบหนี เป็นเหตุให้ที่ดินถูกยึดไปขายทอดตลาด ซึ่งพบว่าเป็นความผิดฉ้อโกงประชาชน และอาจเป็นความผิดฐานช่วยเหลือผู้ต้องหา ให้รอดจากการคุมขัง
2.คดีกรณีกระทำที่มีพฤติการณ์ เป็นการกระทำลักษณะองค์กรอาชญากรรม เป็นผู้ทรงอิทธิพลทุจริตซื้อเรือและทุ่นจอดเรือตรวจการณ์และทุจริตนำทรัพย์ของทางราชการไปเป็นประโยชน์ส่วนตัวและหรือฟอกเงิน ซึ่งมีการร้องเรียนจากกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม โดยพบว่ามีการสมคบกัน ระหว่างข้าราชการระดับสูงของกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมกับกลุ่มผู้มีอิทธิพล จัดตั้งบริษัทเพื่อทุจริตจัดซื้อจัดจ้างเรือตรวจการณ์และทุ่นจอดเรือตรวจการณ์โดย ไม่ถูกต้องตามกฎหมายและระเบียบที่เกี่ยวข้อง และทุจริตยักยอกเรือยนต์ตรวจการของทางราชการ ไปเป็นประโยชน์ส่วนตน ทำให้มีมูลน่าเชื่อว่ามีการกระทำความผิดอันเป็นความผิดต่อตำแหน่งหน้าที่ราชการ
และ 3.คดีกรณีการก่นสร้างแผ้วถางหรือเผาป่า หรือกระทำการใดๆ อันเป็นการทำลายป่า หรือเข้ายึดถือครอบครองป่าเพื่อตนเองหรือผู้อื่น ในพื้นที่ อ.หัวหิน จ.ประจวบคีรีขันธ์ ด้วยการนำมาทำเป็นสนามกอล์ฟ ซึ่งอาจมีการออกเอกสารสิทธิโดยมิชอบ ทับซ้อนเขตปริมณฑลเขา ทับลำห้วยตามธรรมชาติ และมีการเปลี่ยนแปลงทางน้ำไหล ทั้งนี้ มีการวิเคราะห์จากภาพถ่ายทางอากาศพบว่ามีมูลความผิด ดังนั้น ดีเอสไอเห็นว่าเป็นเรื่องที่อาจกระทบรุนแรงต่อทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมของประเทศ และเข้าข่ายผู้ทรงอิทธิพลเป็นตัวการจึงรับเป็นคดีพิเศษ