กาฬสินธุ์- ญาติผู้ต้องหากว่า 30 คนบุกโรงพักขอความเป็นธรรม หลังถูกจับคดีแปรรูปไม้โดยไม่ได้รับอนุญาต ฝากขังเรือนจำกาฬสินธุ์ 3 วันกลายเป็นศพ ระบุถูกทำลายร่างกายจนเสียชีวิตเพราะมีบาดแผลเต็มตัว สงสัยเป็นใบสั่งฆ่าของผู้มีอิทธพล เนื่องจากผู้ตายเป็นช่างทำไม้เฟอร์นิเจอร์ ขู่หากไม่ได้รับความเป็นธรรมจะนำโลงศพมาประท้วงแน่นอน
วันนี้ (9 มิ.ย.) ชาวบ้านโนนสวรรค์ ม.2 ต.โนนสะอาด อ.ห้วยเม็ก จ.กาฬสินธุ์ กว่า 30 คน เดินทางเข้าสอบถามความคืบหน้ากับพนักงานสอบสวน สภ.เมืองกาฬสินธุ์ ในคดีนายนิคม มาพล อายุ 41 ปี อยู่บ้านเลขที่ 94 ม.2 ต.โนนสะอาด อ.ห้วยเม็ก ผู้ต้องหา ที่ถูกฝากขังภายในเรือนจำ จ.กาฬสินธุ์ในคดีแปรรูปไม้โดยไม่ได้รับอนุญาต และเสียชีวิตโดยไม่ทราบสาเหตุภายในเรือนจำ จ.กาฬสินธุ์ซึ่งมีบาดแผลตามร่างกายหลายแห่ง โดยญาติๆ เชื่อว่า นายนิคม ถูกทำร้ายจนเสียชีวิต ไม่ได้ป่วยตายตามที่เจ้าหน้าที่เรือนจำ จ.กาฬสินธุ์ แจ้งมา
นางสาคร มาพล อายุ 39 ปี ภรรยา นายนิคม กล่าวว่า สามีถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ห้วยเม็ก จ.กาฬสินธุ์จับกุมข้อหาแปรรูปไม้โดยไม่ได้รับอนุญาต และอยู่ระหว่างการตัดสินของศาล แต่เจ้าหน้าที่ได้ควบคุมตัวเข้าฝากขังภายในเรือนจำ จ.กาฬสินธุ์ เมื่อวันที่ 2 มิถุนายน ที่ผ่านมา หลังเข้าไปอยู่เพียง 3 วัน กระทั่งเมื่อวันที่ 6 มิถุนายน ได้รับแจ้งจากเจ้าหน้าที่เรือนจำ จ.กาฬสินธุ์ว่านายนิคมป่วยเสียชีวิตภายในเรือนจำ
ตนและญาติจึงเดินทางไปขอรับศพ แต่ก็ต้องแปลกใจ เพราะศพของสามีบอบช้ำตามร่างกายหลายแห่ง และมีบาดแผลฉกรรจ์ที่ปลายคาง คล้ายถูกของแข็งทุบตี จึงขอให้เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงส่งศพไปชันสูตรที่โรงพยาบาล เพราะเชื่อว่า นายนิคมน่าจะถูกทำร่ายร่างกายจนเสียชีวิต ไม่ได้ป่วยตายตามที่เจ้าหน้าที่อ้างมา
นางสาคร กล่าวต่อว่า ปกติสามีของตนเป็นสุขุม เยือกเย็น ไม่เคยทำตัวเป็นนักเลงหัวไม้และ ที่ผ่านมาก็ตั้งหน้า ตั้งตาทำมาหากินเลี้ยงครอบครัว โดยมีอาชีพทำนาเป็นหลัก และเนื่องจากเคยเป็นช่างไม้มาก่อน เมื่อมีเวลาว่างก็นำเศษไม้มาทำเฟอร์นิเจอร์ขาย ต่อมาเพื่อนบ้านเห็นฝีมือดีจึงนำไม้มาว่าจ้างให้นายนิคมทำเฟอร์นิเจอร์ให้
จึงพอมีรายได้เสริม ก่อนที่จะถูกจับกุมในข้อทำแปรรูปไม้โดยไม่ได้รับอนุญาตอย่างรู้เท่าไม่ถึงการณ์ และไม่คาดคิดว่าจะมีความผิดร้ายแรงจน จนถึงขั้นติดคุก และที่น่าเสียใจที่สุดคือถูกทำร้ายจนเสียชีวิตในเรือนจำอย่างนี้
“พอสามีตาย ครอบครัวก็ขาดผู้นำ ขาดเสาหลัก ฉันกับลูกอีก 3 คน ซึ่งกำลังเรียนอยู่ ต่อไปคงลำบากแน่นอน ดังนั้นจึงต้องมาเรียกร้องให้เจ้าหน้าที่ตำรวจ สืบหาคนลงมือทำร้ายสามีมารับโทษให้เร็วที่สุด เพื่อสังคมได้ตะหนักว่า ยังมีความยุติธรรมอยู่ และชาวบ้านตาดำๆก็ต้องการความยุติธรรมเหมือนคนทั่วไป” นางสาคร กล่าว
นายหลัด มาพล อายุ 59 ปี พี่ชายผู้เสียชีวิต กล่าวว่า ตนและญาติไม่เชื่อเด็ดขาดว่าน้องชายจะป่วยตาย เพราะศพของน้องชายมีรอยฟกช้ำตามร่างกายหลายแห่ง มีบาดแผลถูกของแข็งตีเข้าที่คาง ซึ่งคาดว่าจะเป็นสาเหตุของการเสียชีวิต และที่สำคัญน้องชายมีร่างกายแข็งแรงและไม่มีโรคประจำตัวแต่อย่างใด อย่างไรก็ตาม ที่ผ่านมา น้องชายได้รับทำงานเฟอร์นิเจอร์ โดยมีชาวบ้านและผู้มีฐานะและอิทธิพลนำไม้โดยเฉพาะไม้สัก ไม้ประดู่ มาให้นายนิคมแปรรูปเป็นเฟอร์นิเจอร์จำนวนมาก
แต่พอ นายนิคม ถูกตำรวจจับ และถูกสอบสวน จนกระทั่งเข้าไปอยู่ในเรือนจำ จึงสงสัยว่ากลุ่มผู้ที่นำไม้มาให้นายนิคมแปรรูปจะเป็นผู้ที่อยู่เบื้องหลังการเสียชีวิตครั้งนี้ เพราะนายนิคมเป็นคนที่พูดตรง และเกรงว่านายนิคมจะซัดทอดไปถึง จึงได้สั่งฆ่าปิดปาก ดังนั้นจึงได้มาร้องขอความเป็นธรรม เพื่อให้ผู้ที่เกี่ยวข้องตรวจสอบและเอาผิดกับผู้ที่ลงมือทำร้ายน้องชายจนถึงแก่ความตายให้ถึงที่สุด เพื่อไม่ให้เป็นเยี่ยงอย่างต่อไป แต่หากยังไม่ได้รับความเป็นธรรมอีกญาติก็จะนำโลงศพมาประท้วงอีกครั้ง
ขณะที่ พ.ต.อ.ณัฐพล มิ่งพันธ์ ผกก.สภ.เมืองกาฬสินธุ์ กล่าวว่า คดีดังกล่าว อยู่ระหว่างการสืบสวน สอบสวนของพนักงานสอบสวน ซึ่งขณะนี้ผลการชันสูตรศพของนายนิคมก็ยังไม่ออกมา อย่างไรก็ตามทางเจ้าหน้าที่ตำรวจยืนยันว่า จะให้ความเป็นธรรมกับทั้งสองฝ่ายอย่างแน่นอน
