“โฆษกส่วนตัวมาร์ค” ย้ำจุดยืนรัฐพร้อมแก้ รธน. แต่ต้องทำประชามติถามประชาชนก่อนอยากแก้มาตราไหน เย้ย “เพื่อแม้ว” ไปคุยกันให้ชัดจะเอายังไง ซัดมัวแตกคอหาข้อสรุปไม่ได้ ทั้งยังโยนปาบให้ ปชป. ย้อนถามใครกันแน่เล่นเกม
วันนี้ (25 ก.ย.) นายเทพไท เสนพงศ์ โฆษกประจำตัวหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกรณีที่ประชุมวิป 3 ฝ่ายมีมติเห็นด้วยกับแนวทางข้อเสนอของคณะกรรมการสมานฉันท์ 6 ประเด็น โดยให้มีการร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญแยกเป็น 6 ร่างเพื่อทำประชามติสอบถามความเห็นของประชาชนเจ้าของอำนาจส่วนใหญ่ว่า ส่วนตัวเห็นว่าข้อเสนอดังกล่าวยังไม่มีผลในทางปฏิบัติเพราะยังมีหลายฝ่ายที่มีความเห็นต่างกันทั้งในส่วนของ ส.ว.และพรรคฝ่ายค้านที่ออกมาแสดงความเห็นในลักษณะที่หลายกหลาย ซึ่งสุดท้ายอาจจะเป็นประเด็นความขัดแย้งของแต่ละฝ่ายได้ เช่นในกรณีของพรรคเพื่อไทยที่ยังมี ส.ส.ออกมาปฏิเสธการแก้ไขรัฐธรรมนูญและการเสนอทางออกโดยการทำประชามติ ซึ่ง ส.ส.บางคนไม่ต้องการแก้ไขรัฐธรรมนูญแต่ต้องการทำประชามติระหว่างรัฐธรรมนูญปี 2540 กับปี 2550 บางกลุ่มก็ต้องการที่จะแก้เฉพาะประเด็นเขตเลือกตั้งให้เปลี่ยนมาใช้เป็นเขตเล็กหรือเขตเดียวเบอร์เดียว ขณะที่บางกลุ่มในพรรคเพื่อไทยก็ต้องการใช้แบบเขตใหญ่เช่นเดิม (แบ่งเขตเรียงเบอร์) และยังมีประเภทความเห็นสุดขั้วที่ต้องการยกเลิกมาตรา 309 เพื่อที่ต้องการช่วยเหลือ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯให้พ้นจากความผิดทั้งหมด หนำซ้ำยังมีความเห็นแตกต่างระหว่าง ส.ส.พรรคเพื่อไทย กับแกนนำ นปช.อีกด้วย ทั้งที่เป็นพวกเดียวกัน
นายเทพไทกล่าวต่อว่า ซึ่งในที่สุดแล้วความแตกแยกทางความคิดเช่นนี้ก็จะไม่สามารถหาข้อสรุปใดๆ ได้ เหมือนกับหลายครั้งที่ผ่านมา ที่มติพรรคเพื่อไทยไม่สามารถนำมาใช้ในทางปฏิบัติ ทั้งในสภาและนอกสภาได้ มติของวิปฝ่ายค้านก็ยังสร้างปัญหาและความขัดแย้งในหมู่ส.ส.พรรคเพื่อไทยกันเองบ่อยครั้งในการทำงานในสภาหลายครั้งมาแล้ว ซึ่งจะเห็นว่าไม่มีการรักษาสัจจะหรือการเคารพมติของกันและกัน ดังนั้น ในประเด็นเกี่ยวกับการแก้ไขรัฐธรรมนูญจะเห็นได้ว่าในส่วนของพรรคเพื่อไทยคงไม่มีข้อยุติแน่นอน และก็จะมีความพยายามโยนความผิดมาให้รัฐบาลโดยเฉพาะพรรคประชาธิปัตย์ที่เป็นแกนนำรัฐบาลว่าไม่มีความจริงใจหรือซื้อเวลาในการแก้ไขรัฐธรรมนูญ
โฆษกประจำตัวหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์กล่าวอีกว่า ทั้งที่จุดยืนของรัฐบาลนี้ที่นายกฯได้ประกาศชัดเจนว่าจะต้องมีร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญเพียงฉบับเดียวและมี ส.ส.ทุกพรรคการเมือง รวมถึง ส.ว.ทุกคนร่วมลงชื่อเห็นพ้องต้องกันโดยต้องมีขั้นตอนการทำประชามติเพื่อที่จะสอบถามความเห็นของประชาชนผู้เป็นเจ้าของอำนาจอธิปไตยที่แท้จริงเสียก่อนว่า คนไทยส่วนใหญ่อยากให้แก้ไขรัฐธรรมนูญในประเด็นใดบ้าง เพราะฉะนั้นจึงขอให้สังคมไทยได้จับตากรณีการเสนอแก้ไขรัฐธรรมนูญครั้งนี้ว่า ฝ่ายใดกันแน่ที่มีการวางแผนเล่นเกมและป้ายสีโยนความผิดให้คนอื่น และเพื่อให้เรื่องนี้สามารถเดินหน้าต่อไปได้โดยเร็วจึงอยากให้แต่ละฝ่ายไปหาข้อสรุป โดยเฉพาะอย่างยิ่งพรรคเพื่อไทยและแกนนำ นปช.ที่เป็นพวกเดียวกัน กรุณาช่วยไปหาข้อสรุปร่วมกันให้ตกผลึกเสียก่อนว่าต้องการให้แก้รัฐธรรมนูญไปในทิศทางใด ประเด็นใดบ้าง