นายเทพไท เสนพงศ์ โฆษกประจำตัวหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกรณีที่มีข่าวบุคคลใกล้ชิดนายกรัฐมนตรีเข้าไปแทรกแซงการโยกย้ายนายตำรวจในสำนักงงานตำรวจแห่งชาติ (สตช.) เพื่อขอตำแหน่งให้พรรคพวกว่า ได้สอบถามเรื่องนี้กับนายกรัฐมนตรีและคนใกล้ชิดหลายคนแล้ว ซึ่งไม่มีใครเข้าไปเกี่ยวข้อง เพราะทุกคนตระหนักดีว่า หน้าที่ ส.ส. ตามรัฐธรรมนูญมีข้อห้ามอะไรบ้าง อย่างไรก็ตาม ที่ผ่านมาเมื่อมีการเปลี่ยนแปลงอะไรใน สตช. มักจะอ้างว่า ฝ่ายบริหารไม่พอใจที่ไม่สามารถโยกย้ายแต่งตั้งคนของตัวเองได้
ส่วนกรณีที่พรรคเพื่อไทย ระบุในทำนองว่า มีสัดส่วนการแต่งตั้งตำรวจในลักษณะ 70-30 นั้นนายเทพไท กล่าวว่า พรรคเพื่อไทยคงเอามาตรฐานความรู้สึกเดิมของตัวเอง ที่เคยแทรกแซงหน่วยงานราชการในยุคของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี แต่รัฐบาลชุดนี้ไม่มีเรื่องดังกล่าว แม้ทราบกันดีว่า มีนายตำรวจใน สตช.บางคนไม่สนองนโยบายรัฐบาลเท่าที่ควร แต่รัฐบาลก็เคารพการทำงาน โดยเชื่อมั่นว่าเจ้าหน้าที่ตำรวจทุกคนเป็นนายตำรวจในพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ จึงไม่มีการกีดกันคนใดที่จะรับตำแหน่ง และไม่มีการปูนบำเหน็จหรือสนับสนุนบุคคลใดขึ้นมาดำรงตำแหน่ง เพราะใน สตช.ไม่มีคนของพรรคประชาธิปัตย์ แต่ทุกคนเป็นกลไกและเป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐบาลทั้งสิ้น
ส่วนกรณีที่พรรคเพื่อไทย ระบุในทำนองว่า มีสัดส่วนการแต่งตั้งตำรวจในลักษณะ 70-30 นั้นนายเทพไท กล่าวว่า พรรคเพื่อไทยคงเอามาตรฐานความรู้สึกเดิมของตัวเอง ที่เคยแทรกแซงหน่วยงานราชการในยุคของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี แต่รัฐบาลชุดนี้ไม่มีเรื่องดังกล่าว แม้ทราบกันดีว่า มีนายตำรวจใน สตช.บางคนไม่สนองนโยบายรัฐบาลเท่าที่ควร แต่รัฐบาลก็เคารพการทำงาน โดยเชื่อมั่นว่าเจ้าหน้าที่ตำรวจทุกคนเป็นนายตำรวจในพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ จึงไม่มีการกีดกันคนใดที่จะรับตำแหน่ง และไม่มีการปูนบำเหน็จหรือสนับสนุนบุคคลใดขึ้นมาดำรงตำแหน่ง เพราะใน สตช.ไม่มีคนของพรรคประชาธิปัตย์ แต่ทุกคนเป็นกลไกและเป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐบาลทั้งสิ้น