ไบรอัน รอบสัน โค้ชย้อมแมว ตกถังข้าวสารที่กรุงเทพ

ดีใจด้วยกับ ไบรอัน รอบสัน หนึ่งในตำนานลูกหนังแห่งทีมผีแดงแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด และอดีตกัปตันทีมชาติอังกฤษ ที่จะไม่ต้องตกงานอีกต่อไป หลังจากเตะฝุ่นมาปีกว่า เมื่อโดนปลดจากตำแหน่งผู้จัดการทีมเชฟฟิลด์ ยูไนเต็ด ตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์ปีที่แล้ว

ด้วยฝีมือการย้อมแมวของ นายวรวีร์ มะกูร์ดี นายกสมาคมฟุตบอลแห่งประเทศไทย โค้ชตกงานเกาะอังกฤษก็ได้มาเป็นผู้จัดการทีมชาติไทย ด้วยค่าเหนื่อยปีละ 5 แสนปอนด์ หรือ ประมาณ 25 ล้านบาท มากกว่าโค้ชคนไทยถึง 25 เท่า เพื่อมาทำหน้าที่พาทีมฟุตบอลไทยไปเล่นฟุตบอลโลก ปี 2014 แทน นายปีเตอร์ รีด ที่หนีกลับบ้านไปก่อน

ปีเตอร์ รีด ก็เป็นโค้ชตกงานมาก่อนเหมือนกัน ว่างงานอยู่ 4 ปี หลังจากลาออกจากการเป็นโค้ชทีมโคเวนทรี ซิตี้ เพราะเป็นโค้ชอยู่ 8 เดือน ทำทีมตกไปอยู่อันดับที่ 20 ของลีกแชมเปี้ยนชิป เมื่อนายวรวีร์ไปทาบทามมาเป็นโค้ช มีหรือจะไม่เอา แต่ทำหน้าที่อยู่ 1 ปี ไม่สามารถทำทีมไทยให้ประสบความสำเร็จ ได้แต่แชมป์รายการกระจอกๆ เอเอฟเอฟ ซูซูกิ คัพ ที่แข่งกันแค่ 3 ชาติที่เวียดนามมาเพียงรายการเดียว

พอสโตค ซิตี ชวนไปเป็นผู้ช่วยโค้ช นายรีดไม่ต้องคิดมาก บินกลับบ้านทันที เพราะเขาไม่มีความผูกพันกับทีมชาติไทยอยู่แล้ว ไบรอัน รอบสัน ก็คงมาในทำนองเดียวกัน ขนาดมารับตำแหน่งโค้ชทีมชาติไทยแล้ว ยังควบตำแหน่งทูตฟุตบอล ของทีมแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดอยู่ต่อไป

อีกหน่อย ทีมฟุตบอลไทย ก็คงเป็นแหล่งรองรับโค้ชตกงานจากเกาะอังกฤษอีกหลายๆ ราย

การได้เป็นโค้ชทีมชาติไทย ถือว่า เป็นการบรรลุความใฝ่ฝันของไบรอัน รอบสัน ถึงแม้จะเป็นโค้ชของทีม อันดับที่ 115 ของโลก ก็ยังดี เพราะเขาเคยพลาดหวังจากการเป็นโค้ชทีมไอร์แลนด์ และทีมไนจีเรียในปี 2003 มาแล้ว ซึ่งในกรณีของไนจีเรีย รัฐมนตรีกระทรวงกีฬาบอกว่า รอบสันเรียกค่าตัวแพงเกินไป ในปี 2006 เขาต้องผิดหวังอีกครั้ง เมื่อสมาคมฟุตบอลอังกฤษไม่เลือกเขาเป็นโค้ชทีมชาติอังกฤษชุดอายุต่ำกว่า 21 ปี

การเป็นนักฟุตบอลฝีเท้าดี ระดับเทพ กับการทำทีมฟุตบอลให้ประสบความสำเร็จ เป็นคนละเรื่องกัน ดูอย่าง ดิเอโก มาราโดนา เป็นโค้ชทีมชาติอาร์เจนตินามาตั้งแต่ปีที่แล้ว ปัจจุบัน ทีมอาร์เจนตินา อยู่ในสถานะร่อแร่ เพราะอยู่ในอันดับที่ 5 ของการแข่งขันฟุตบอลโลกรอบคัดเลือกโซนอเมริกาใต้ ที่มีด้วยกัน 10 ชาติ ซึ่งยังเหลือการแข่งขันอีกเพียง 2 นัด ทีมอันดับ 1-4 จะได้ไปแข่งที่อาฟริกาใต้ปีหน้า ทีมอันดับ 5 ต้องไปเล่นเพลย์ออฟกับทีมอันดับ 4 ของโซนอเมริกาเหนือ-อเมริกากลาง–แคริบเบียน

อาจะเป็นครั้งแรกในรอบ 40 ปีที่ทีมแชมป์โลก 2 สมัย ตกรอบคัดเลือก ด้วยฝีมือการทำทีมของมาราโดนา

เส้นทางการเป็นผู้จัดการทีมของ “ รอบโบ” หรือ กัปตันมาร์เวล อันเป็นฉายาของไบรอัน รอบสัน ก็เช่นเดียวกัน ที่เป็นหนังคนละม้วนกับความสามารถในฐานะนักเตะ

เจ็ดปีแรก บนเส้นทางของการเป็นผู้จัดการทีมกับ มิดเดิลสโบรช์ ถือว่าเป็นช่วงรุ่งโรจน์ที่สุดของเขาแล้ว รอบสันสามารถนำทีมขึ้นชั้นมาเล่นพรีเมียร์ลีกได้ ได้เข้าชิงถ้วยลีกคัพ 2 ครั้ง และเอฟเอคัพ 1 ครั้ง แต่ได้แค่รองแชมป์ทั้ง 3 รายการ และเกือบจะตกชั้นในฤดูกาลสุดท้ายที่รอบสันเป็นผู้จัดการทีม จนทางสโมสรต้องดึงเทอรี เวนาเบิ้ล มาช่วยเป็นโค้ช “ เดอะโบโร” จึงสามารถหนีการตกชั้นขึ้นไปอยู่ในอันดับที่ 14 ของฤดูกาล 2000-2001 ได้

รอบสันจากเดอะโบโรไปในเดือนมิถุนายน 2001 และต้องตกงานอยู่ 2 ปี ก่อนจะได้เป็นผู้จัดการทีมแบรดฟอร์ด ซิตี้ ซึ่งเป็นทีมในลีกแชมเปี้ยนชิป แต่ก็ไม่ประสบความสำเร็จ ทีมมนุษย์ค้างคาว ในยุครอบสันได้เพียง 22 แต้ม จากการแข่งขัน 27 ครั้ง และสิ้นสุดฤดูกาลในอันดับที่ 23 ตกชั้นไปเล่นในดิวิชั่น 2

อาชีพผู้จัดการทีมของรอบสัน เริ่มต้นเป็นครั้งที่ 3 ในเดือนพฤศจิกายน 2004 กับ เวสต์บรอมวิช อัลเบี้ยน ซึ่งเป็นสโมสรแรกที่เขาเริ่มต้นอาชีพนักเตะ ก่อนย้ายไปอยู่กับแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ฤดูกาลนั้น เวสต์บรอมวิชอัลเบี้ยน อยู่ในอันดับ 17 หนีการตกชั้นได้แบบเส้นยาแดงผ่าแปด ด้วยการเอาชนะทีมพอร์ทสมัธ 2 ต่อ 0 ในการแข่งขันครั้งสุดท้าย แต่ปีต่อมาก็ไม่รอด แพ้รวดใน 13 เกมสุดท้ายจนตกไปอยู่ในลีก แชมป์เปี้ยนชิพ

รอบสันอยู่ไม่ได้ต้องลาออกไปในเดือนกันยายน 2006 เมื่อ “ เดอะ แบกกี้ส์ “ ชนะแค่ 3 นัดใน 8 เกมส์แรกของฤดูกาล เขาว่างงานอยู่ 8 เดือน จึงได้เป็นผู้จัดการทีมเชฟฟิลด์ ยูไนเต็ด ที่อยู่ในลีกแชมเปี้ยนชิป เช่นกัน แต่ก็ไม่สามารถทำทีมให้ดีขึ้นมาได้ จนแฟนสโมสรเรียกร้องให้ลาออก ที่สุดประธานสโมสรซึ่งสนับสนุนเขามาโดยตลอด ต้านกระแสไม่ไหว ต้องเรียกรอบสันไปพบที่กรุงบรัสเซลล์ ประเทศเบลเยี่ยม ขอให้เขาลาอออกจากการเป็นผู้จัดการทีม เมื่อวันที่ 13 กุมภาพันธ์ 2008

อีก 1 เดือนต่อมา แมนเชสเตอร์ยูไนเต็ด ปลอบใจเขาด้วย การแต่งตั้งให้เป็นทูตฟุตบอลของสโมสร ทำหน้าที่สร้างภาพลักษณ์ ประชาสัมพันธ์สโมสร คู่กับเซอร์ บอบบี้ ชาร์ลตัน

การได้มาเป็นผู้จัดการทีมฟุตบอลทีมชาติไทย จึงเหมือนกับส้มหล่นสำหรับ ไบรอัน รอบสัน จากโค้ชตกงาน ที่ไม่มีใครจ้างแล้ว ขนาดทีมในลีกแชมป์เปี้ยนชิป ยังขอให้ออก มาตกถังข้าวสารที่กรุงเทพ ได้ค่าจ้างปีละ 25 ล้านบาท สัญญาจ้างนานถึง 4 ปี โดยไม่มีข้อผูกมัดใดๆ ทั้งสิ้น

ในความล้มเหลวแต่ละครั้งของรอบสัน เขามักจะโทษว่า ผู้เล่นไม่ดีบ้าง สโมสรไม่สนับสนุนด้านการเงิน แฟนๆ ไม่ให้กำลังใจ แต่ไม่เคยหันกลับมามองดูข้อบกพร่องของตัวเองเลยสักครั้งเดียว

ทีมชาติไทยจะเป็นเหยื่อแห่งความล้มเหลวของไบรอัน รอบสันรายต่อไป

ทั้งหมดนี้เป็นฝีมือการย้อมแมวของนายวรวีร์ มะกูดี แท้ๆ นายวรวีร์ ตอบคำถามได้ไหมว่า เอาคนที่ล้มเหลวจากเกาะอังกฤษ มาเป็นผู้จัดการทีมไทยได้อย่างไร โค้ชไทยฝีมือดีๆ ก็มีตั้งหลายคน

หรือว่า นี่คือ ผลประโยชน์อีกลักษณะหนึ่งของเครือข่าย เซป แบลตเตอร์ ประธานฟีฟ่า นอกเหนือจากผลประโยชน์ในเรื่อง โควตาขายตั๋วฟุตบอลโลก ค่าลิขสิทธิ์ฟุตบอลโลก และผลประโยชน์ตอบแทนแลกกับคะแนนเสียงในการโหวตเลือกประธานฟีฟ่า