xs
xsm
sm
md
lg

คตส.ย้อนศร อสส. ตั้งใจรื้อฝอยคำสั่งศาลยกฟ้องกล้ายาง หวังเอาดีใส่ตัว

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


คตส.แถลงโต้ อสส. ไม่เข้าเจตนารมณ์รื้อฝอยหาตะเข็บ หลังศาลฎีกามีคำสั่งยกฟ้องคดีทุจริตกล้ายาง หวังเอาดีใส่ตัวกล่าวโทษ คตส. เชื่อเป็นความคิดเห็นส่วนตัว ไม่เกี่ยวองค์กร ย้อนศรอัยการไม่เคยถูกศาลยกฟ้องหรือ ยืนยันที่ผ่านมาทำงานภายใต้กรอบกฎหมาย เชื่อไม่กระทบคดีอื่นๆ ที่จะตามมา

คลิกที่นี่ เพื่อฟัง นายสัก กอแสงเรือง แถลงข่าว



วันนี้ (23 ก.ย.) ที่สำนักงานตรวจเงินแผ่นดิน อดีตคณะกรรมการตรวจสอบการกระทำที่ก่อให้เกิดความเสียหายแก่รัฐ (คตส.) ประกอบด้วย นายนาม ยิ้มแย้ม ประธานคตส. นายอุดม เฟื่องฟุ้ง นายกล้านรงค์ จันทิก นายวิโรจน์ เลาหะพันธุ์ นายแก้วสรร อติโพธิ นายสัก กอแสงเรือง และคุณหญิงจารุวรรณ เมณฑกา ได้ร่วมกันประชุมนอกรอบ หลังจากที่ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง พิพากษายกฟ้องคดีทุจริตกล้ายางพารา 90 ล้านต้น ของกรมวิชาการ กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ โดยที่ประชุมได้หารือ ถึงกรณีที่โฆษกสำนักงานอัยการสูงสุด ออกมาโจมตีการทำงาของคตส. จนทำให้คดีต้องแพ้

โดยนายสัก ในฐานะโฆษกคตส. แถลงว่า สาเหตุต้องแถลงเพราะโฆษกอัยการสูงสุดพาดพิงคตส. โดยมีการวิจารณ์ สั่งสอน และหยามการทำงานของคตส. โดยคตส.ขอชี้แจงว่า การแถลงครั้งนี้ไม่เกี่ยวกับคำพิพากษาของศาลฎีกา โดยคตส.ยอมรับและถือเป็นข้อยุติ แต่กลับมีการกระทำของผู้ที่เกี่ยวข้อง ในองค์กรหลักในกระบวนการยุติธรรมออกมาวิจารณ์ จึงอยากถามว่า หลังจากศาลพิพากษาแล้ว องค์กรอัยการมีหน้าที่ต้องออกมาชี้แจงหรือไม่ หากไม่มีหน้าที่แล้วออกมาชี้แจง ก็จะให้สังคมไปพิจารณาเอง เพราะทำให้สังคมวุ่นวาย และทำให้องค์กรกระบวนการยุติธรรมเสื่อม ซึ่งมีมาแล้วหลายองค์ที่มีความเสื่อมมาจากผู้นำ

นายสัก กล่าวว่า ศาลฎีกา ได้พิพากษาว่าคตส.ได้แจ้งข้อกล่าวหาครบถ้วน และมีอำนาจเป็นไปโดยชอบด้วยกฎหมาย สามารถนำพยานในชั้นตรวจสอบ มาใช้ในชั้นไต่สวนได้ ส่วนที่อัยการเห็นว่าคตส.ไม่มีอำนาจฟ้องเอง จนจำเลยยกมาเป็นข้อต่อสู้ ศาลได้พิพากษาแล้วว่าคตส.มีอำนาจฟ้อง

“ซึ่งการที่บอกว่าคตส.ฟ้องคดีเอง ทำให้รัฐเสียหายต้องเสียค่าทนายความ เนื่องจากอัยการมีหน้าที่ฟ้องคดีแทนแผ่นดิน แต่ไม่ทำหน้าที่กฎหมาย จึงกำหนดให้คตส.ต้องจัดหาทนายความฟ้องเอง โดยขอให้สภาทนายความส่งทนายความฟ้องความให้ จนขณะนี้ยังไม่มีการจ่ายค่าทนายแต่อย่างใด จึงขอถามสังคมว่า ถึงเวลาสมควรแล้วหรือยังที่จะมีองค์กรอิสระภาคประชาชน มาทำหน้าที่ในกรณีที่องค์กรของรัฐไม่ทำหน้าที่ เช่น ประเทศสหรัฐอเมริกา ไต้หวัน เกาหลี เหมือนสุภาษิตจีนที่ว่า อย่าปล่อยให้คนชั่วลอยนวล” นายสัก กล่าว

นายสัก กล่าวว่า การที่อัยการออกมาแถลงว่า จะฟ้องใครต้องมีหลักฐานเพียงพอที่ศาลจะลงโทษได้ ขอถามอัยการว่าผลที่สุดแล้ว ผลแห่งคดีที่อัยการฟ้อง ไม่มีการยกฟ้องเลยใช่หรือไม่ แต่ปรากฎว่ามีผู้รับผิดชอบระดับสูงของกระบวนการยุติธรรม ไปเบิกความพยานฝ่ายจำเลย ทั้งคดีกล้ายาง และคดีหวย 2 ตัว 3 ตัว และตอบคำถามทนายจำเลยบางประการว่า เรื่องนี้ไม่ใช่ข้อกฎหมาย มันเป็นเรื่องการเมืองเข้ามาเกี่ยวพัน ผลจึงออกมาในลักษณะนี้

นายสัก กล่าวอีกว่า ขอยืนยันว่าคตส.ทำหน้าที่เพื่อแผ่นดิน แต่กลับถูกกล่าวหาและฟ้องร้องทั้งคดีแพ่งและอาญาจากฝ่ายผู้ถูกตรวจสอบรวมกว่า 20 คดี แล้วยังต้องมาถูกกล่าวหาซ้ำเติมจากเจ้าหน้าที่ในกระบวนการยุติธรรมของรัฐบางกลุ่มอีก ดังนั้นเราต้องจับตาดูว่ามีกระบวนการดิสเครดิตการทำงานของคตส. ผ่านบางกลุ่ม บางพวกในองค์กรกระบวนการยุติธรรม ซึ่งสังเกตได้ว่ากระบวนการนี้ เริ่มขึ้นตั้งแต่คตส.ชี้มูลความผิดคดีซีทีเอ็กซ์

นายสัก กล่าวอีกว่า ขอตั้งข้อสังเกตว่า หลังจากคดีกล้ายางแล้ว ขอให้รอดูคดีหวย 2 ตัว 3 ตัว ในช่วงปลายเดือนก.ย. ว่าศาลจะตัดสินอย่างไร เพราะจากการวิเคราะห์พบว่า 1.มติครม.ที่อนุมัติให้ออกหวยบนดินได้ ผิดกฎหมายเพราะเป็นสลากกินรวบ ไม่ใช่สลากกินแบ่ง ถือเป็นการพนัน กฎหมายเขียนไว้ชัดเจนว่าผิด 2. มติครม.ที่อนุมัติให้สำนักงานสลากกินแบ่งฯไม่ต้องนำเงินส่งกระทรวงการคลัง 28 % ต้องถามว่าครม.มีอำนาจ ยกเว้นการไม่นำเงินภาษีส่งคลังหรือไม่ เพราะถือว่าไม่มีกฎหมายรองรับ และ 3. มติครม.ที่สั่งให้คณะกรรมการยุทธศาสตร์เพื่อการศึกษาและการช่วยเหลือสังคม นำเงินไปใช้ในโครงการเพื่อสังคม ก็ถือว่าไม่มีกฎหมายรองรับเช่นกัน

ด้านนายแก้วสรร กล่าวเสริมว่า คตส.คงไม่ไปฟ้องร้องโฆษกอัยการสูงสุด ที่ออกมาพาดพิงการทำงานของคตส. แต่การพูดในลักษณะเช่นนี้มันไม่สวย เพราะจะมีผลกระทบกับอีกหลายคดี ที่รอการพิพากษาในชั้นศาลและในป.ป.ช. ซึ่งแต่ละคดีจะมีความแน่น และหนักเบาไม่เหมือนกัน ดังนั้นการพูดจึงไม่ควรมาก้าวล่วงคตส.เช่นกัน

เมื่อถามว่าการที่โฆษกอัยการสูงสุด ออกมาพูดอย่างนี้มีอะไรอยู่เบื้องหลังหรือไม่ เพราะมีผู้บริหารสูงสุดของอัยการสูงสุด ตกเป็นจำเลยในคดีการจัดซื้อเครื่องตรวจจับวัตถุระเบิดซีทีเอ็กซ์หรือไม่ นาย แก้วสรร ตอบว่า คตส.ไม่บังอาจไปคิดก้าวล่วงอย่างนั้น เพราะยังมีเรื่องในชั้นศาลอีกหลายคดี ไม่อยากไปละเมิดศาล

ผู้สื่อข่าวถามว่าสาเหตุที่คตส.แพ้คดีกล้ายาง เพราะมีคตส.บางคนไปเป็นพยานฝ่ายจำเลยหรือไม่ นายแก้วสรร กล่าวว่า ตนเป็นคนที่ทนายจำเลยคณะกรรมการนโยบายพัฒนาและช่วยเหลือเกษตรกร (คชก.) อ้างอิงให้เป็นพยาน ซึ่งตนเป็นเสียงส่วนน้อยในคตส. ที่เห็นว่า คชก. ไม่มีความผิด เพราะเป็นการอนุมัติงบตามอำนาจหน้าที่ ดังนั้นที่ตนต้องไปให้ปากคำเพราะทำตามอำนาจศาลในการเรียกพยาน ทั้งนี้ศาลได้ถามถึงการชี้มูลความผิดของนาย เนวิน ชิดชอบ ตนได้ยืนยันไปว่า ที่ประชุมคตส.มีมติเป็นเอกฉันท์ แต่เมื่อศาลถามถึงหลักฐานการเชื่อมโยงถึงความผิดของนายเนวิน ตนก็ตกใจ และตอบไปว่า ไม่มีหลักฐานโดยตรงว่านาย เนวิน เป็นคนสั่ง แต่มีพยานแวดล้อมบังคับให้เชื่อได้ว่านาย เนวิน มีส่วนเกี่ยวข้อง แต่เมื่อศาลชี้ออกมาอย่างนี้ก็ต้องเคารพศาล

ด้านนาย นาม ยิ้มแย้ม ประธานคตส. กล่าวว่า ไม่หนักใจในการที่ศาลจะพิจารณาคดีหวยบนดินในวันที่ 30 ก.ย.นี้ เพราะมั่นใจในหลักฐานของคตส. แต่การต่อสู้ในข้อกฎหมายย่อมมีทั้งบวกและลบ อะไรก็เกิดขึ้นได้ เมื่อศาลตัดสินออกมาอย่างไรคตส.ก็พร้อมรับ แต่จะเห็นด้วยหรือไม่ก็อีกเรื่องหนึ่ง และเชื่อว่าคดีนี้ไม่มีเหตุผลทางการเมืองเข้ามาเกี่ยวข้อง ขึ้นกับดุลยพินิจของศาลในการปกป้องประโยชน์ของแผ่นดิน
นาม ยิ้มแย้ม
กล้าณรงค์ จันทิก
นาม ยิ้มแย้ม
นาม ยิ้มแย้ม
แก้วสรร อติโพธิ
กำลังโหลดความคิดเห็น