“สาทิตย์” ยอมรับแต่งตั้งปลัด สปน.ส่อหนังยาวถึงการประชุม ครม.สัปดาห์หน้า หลังนายกเดินทางกลับ หนุน “จาดุร อภิชาตบุตร” อดีตรองปลัดอุทธรณ์คำสั่ง “สมัคร” ย้ายกลั่นแกล้งไปเป็นผู้ตรวจฯ ตั้งท่าเบรก “นัที” วางตัวรองปลัดขึ้นแท่น
วันนี้ (22 ก.ย.) นายสาทิตย์ วงศ์หนองเตย รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวภายหลังการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ว่ายังไม่มีการแต่งตั้งปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี (ปลัด สปน.) เนื่องจากยังอยู่ในระหว่างของการหารือ เพราะเป็นตำแหน่งที่มีความสำคัญและจะต้องหารือหลายฝ่ายทั้งนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี นายนิพนธ์ พร้อมพันธุ์ เลขาธิการนายกรัฐมนตรี และตนในฐานะกำกับสำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี
ขณะเดียวกัน ตนได้เชิญผู้ที่คาดว่ามีความเหมาะสมที่จะมาเป็นปลัด สปน.มาหารือ 3-4 คนแล้วว่าแต่ละคนมีแนวคิดอย่างไร และก็มีบุคคลภายนอกรวมอยู่ด้วย จากการพูดคุยแต่ละคนก็มีความพร้อม คาดว่าจะสามารถคัดเลือกหลังจากนายกฯ เดินทางกลับจากสหรัฐฯ เพื่อเสนอ ครม.ได้ในการประชุมครม.ครั้งหน้า วันที่ 29 ก.ย.52
เมื่อถามว่าคุณสมบัติหลักของบุคคลที่รัฐบาลตั้งไว้ที่จะมาเป็นปลัด สปน. นายสาทิตย์กล่าวว่า ตำแหน่งปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี เป็นตำแหน่งที่ต้องประสานงาน และเป็นแม่บ้านของสำนักนายกรัฐมนตรี ซึ่งนโยบายหลายอย่างจะต้องขับเคลื่อนจากสำนักนายกฯ จะต้องมีความคล่องตัวและต้องประสานงานกับกระทรวงอื่นๆ ได้เป็นอย่างดี จะต้องมีความรอบรู้ในงานด้านราชการ และขั้นตอนกลไกข้าราชการอย่างดี ส่วนขั้นตอนจะต้องเป็นไปตามกฎหมาย คิดว่าเมื่อนายกฯ กลับจากประเทศสหรัฐอเมริกา ก็จะสามารถดำเนินการได้
เมื่อถามถึงกรณีนายจาดุร อภิชาตบุตร ผู้ตรวจราชการกระทรวงมหาดไทย และอดีตรองปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี ที่ศาลปกครองมีคำสั่งให้กลับมาปฏิบัติหน้าที่ นายสาทิตย์กล่าวว่า วันนี้ (22 ก.ย.) มีเรื่องนี้เข้าสู่การพิจารณาของ ครม. ทางสำนักนายกรัฐมนตรีได้มีการเสนอขออุทธรณ์คำพิพากษาศาลปกครองกลาง ในกรณีที่ศาลปกครองชั้นต้นมีคำพิพากษาได้แล้ว เหตุที่ต้องอุทธรณ์เพราะว่า เป็นขั้นตอนการปฏิบัติของทางราชการว่า เมื่อฝ่ายของทางราชการถูกฟ้อง แล้วราชการก็แพ้คดีในศาลชั้นต้น จะต้องมีการอุทธรณ์ เพื่อยืนยันในแนวทางปฏิบัติ
เรื่องนี้ถ้ามีคำพิพากษาอย่างไรก็จะต้องเป็นแนวปฏิบัติต่อไป เรื่องของเรื่อง คือ ขณะนั้นมีการย้ายนายจาดุล จากตำแหน่งรองปลัดฯไปเป็นผู้ตรวจราชการ และท่านก็ฟ้องศาลปกครองว่า เป็นการย้ายที่ทำให้ต้องลดงานลง ซึ่งศาลปกครองก็ได้มีคำสั่งว่าคำสั่งย้ายนั้นมิชอบให้เพิกถอน และให้กลับมาเป็นรองปลัดฯ ตามเดิม
“แต่เรื่องนี้เป็นเรื่องที่ฟ้องนายกรัฐมนตรี ซึ่งเป็นตำแหน่งของนายสมัคร สุนทรเวช ในขณะนั้น แต่เมื่อมีผลในขณะนี้ก็จะต้องอุทธรณ์ แต่เรื่องนี้ก็จะไม่มีผลกระทบต่อเรื่องอื่น ปกติคนที่ถูกย้ายรู้สึกไม่เป็นธรรมก็สามารถฟ้องได้ ส่วนถ้านายจาดุลจะมีสิทธิในการดำรงตำแหน่งได้ก็ไม่กระทบกับการทำงาน” นายสาทิตย์กล่าว
รายงานข่าวจากที่ประชุม ครม.แจ้งว่า ครม.เห็นชอบตามที่สำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรี(สลค.) เสนอโดยให้ สลค.อุทธรณ์คำพิพากษาศาลปกครองกลาง เมื่อวันที่ 4 ก.ย.2552 เรื่อง นายจาดุร อภิชาตบุตร ฟ้องนายกรัฐมนตรีกับพวกรวม 9 คน ประกอบด้วย 1.นายกรัฐมนตรี 2.ปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี 3.ปลัดกระทรวงมหาดไทย 4.คณะรัฐมนตรี
ต่อศาลปกครองกลาง ขอให้เพิกถอนคำสั่งให้โอนผู้ฟ้องคดีไปดำรงตำแหน่งผู้ตรวจราชการกระทรวงมหาดไทย ตามติคณะรัฐมนตรี (ครม.) เมื่อวันที่ 2 ก.ย.2551 (สมัยนายสมัคร สุนทรเวช เป็นนายกรัฐมนตรี) และให้ผู้ฟ้องคดีกลับไปดำรงตำแหน่งรองปลัดสำนักนายกรัฐมนตรีตามเดิม โดยให้ดำเนินการให้นายจาดุร กลับไปดำรงตำแหน่งรองปลัดสำนักนายกฯให้แล้วเสร็จภายใน 15 วัน นับแต่วันที่ศาลมีคำพิพากษา
เนื่องจากศาลปกครองกลางเห็นว่า การที่ ครม.มีมติอนุมัติการโอนนายจาดุรไปดำรงตำแหน่งผู้ตรวจราชการกระทรวงมหาดไทย เป็นการไม่เป็นธรรมแก่นายจาดุร ผู้ฟ้องคดี จึงมีคำพิพากษาให้เพิกถอนประกาศสำนักนายกรัฐมนตรี ลงวันที่ 18 ก.ย.2551 เรื่อง การแต่งตั้งข้าราชการพลเรือน ที่ให้ผู้ฟ้องคดีพ้นจากตำแหน่งรองปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี(นักบริหาร 10)สำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี สำนักนายกรัฐมนตรี และแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งผู้ตรวจราชการกระทรวง (ผู้ตรวจราชการ 10) สำนักงานปลัดกระทรวง กระทรวงมหาดไทย ตั้งแต่วันที่ 1 ต.ค.2551 ตามที่ผู้ถูกฟ้องคดีที่ 4 มีมติอนุมัติการโอนเมื่อวันที่ 2 ต.ค.2551 และให้ดำเนินการให้ผู้ฟ้องคดีกลับไปดำรงตำแหน่งรองปลัดสำนักนายกฯให้แล้ว เสร็จภายใน 15 วัน นับแต่วันที่ศาลมีคำพิพากษา
ทั้งนี้ ทาง สลค.เห็นว่า คำพิพากษาศาลปกครองกลางดังกล่าวมีผลให้ ครม. ผู้ถูกฟ้องคดีที่ 4 ต้องเพิกถอนประกาศสำนักนายกฯ ที่แต่งตั้งให้ผู้ฟ้องคดีพ้นจากตำแหน่งรองปลัดสำนักนายกฯและแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งผู้ตรวจราชการกระทรวงมหาดไทย ตามที่ ครม.มีมติอนุมัติการโอน และให้ผู้ฟ้องคดีกลับไปเป็นรองปลัดสำนักนายกฯ ตามเดิม แต่เพื่อเป็นแนวบรรทัดฐานในการบริหารราชการแผ่นดินต่อไป จึงเห็นควรที่ ครม.จะมีมติอุทธรณ์คำพิพากษาต่อไป
อย่างไรก็ตาม ทางสำนักงานคดีปกครอง สำนักงานอัยการสูงสุด พิจารณาเห็นว่าคำพิพากษาศาลปกครองกลางดังกล่าวชอบด้วยเหตุผลทั้งข้อเท็จจริง และข้อกฎหมายแล้ว ไม่ควรอุทธรณ์
แหล่งข่าวจากทำเนียบรัฐบาล เปิดเผยว่า ตำแหน่งปลัด สปน.ที่จะต่อจากนายนัที เปรมรัศมี ปลัดคนปัจจุบันที่ได้รับการแต่งตั้งสมัยนายสมัครนั้น นายนัทีได้วางตัวนายจาตุรงค์ ปัญญาดิลก รองปลัดสำนักนายกรัฐมนตรีคนปัจจุบันไว้ เนื่องจากรองปลัด สปน. ขณะนี้จะเหลือเพียง 1 คน เนื่องจากรองปลัดอีก 2 คนจะเกษียณอายุราชการในวันที่ 31 ก.ย.นี้
อย่างไรก็ตาม มีรายงานว่า นายสาทิตย์ และคุณหญิงสุพัตรา มาศดิตถ์ ที่ปรึกษานายกรัฐมนตรี ซึ่งอดีตก็เป็นรัฐมนตรีประจำสำนักนายกฯ ที่ดูแลสื่อและ สปน.มีความใกล้ชิดกับนายจาดุรมากกว่า เนื่องจากนายจาดุรเป็นถึงนายกสมาคมข้าราชการพลเรือนคนปัจจุบัน มีสายสัมพันธุ์แบบแน่นกับพรรคประชาธิปัตย์
ขณะเดียวกันตำแหน่งปลัด สปน.ในปัจจุบัน ยังมีส่วนได้เสียกับองค์กรมหาชนและองค์กรของรัฐหลายหน่วยงาน โดยปลัด สปน.จะนั่งเป็นทั้งประธานบอร์ดและกรรมการบอร์ด เช่น กรรมการบอร์ด อสมท, กรรมการบอร์ด ปตท., กรรมการบอร์ด กสท, กรรมการบอร์ด ทศท, บอร์ด ก.พ., บอร์ด ก.พ.ร. นอกจากนั้นยังมีบทบาทในสอบสวนกรณีต่างๆ ที่นายกรัฐมนตรีมอบหมาย เป็นต้น
สำหรับ นายนัที เปรมรัศมี ปลัดคนปัจจุบัน เป็นผู้ออกคำสั่งให้ฟ้องคดีพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย บุกยึดทำเนียบรัฐบาล