“กล้านรงค์” เผยที่ประชุม ป.ป.ช.ยังพิจารณาความผิด 44 ครม.“สมัคร” ไม่เสร็จ กรณีออกมติออกแถลงการณ์ร่วมเขมรขึ้นทะเบียนเขาพระวิหาร ชี้ มีความผิดฐานไม่ผ่านความเห็นชอบจากสภา แต่ย้ำดูความผิดรายบุคคล ทำให้พิจารณาเสร็จไปเพียง 12 ราย เหลือ ครม.อีก 32 รายที่ต้องพิจารณาต่อ 29 ก.ย.นี้ แย้มความผิดแตกต่าง ทั้งอาญา-ถอดถอน ความผิดไม่เท่ากัน
วันนี้ (22 ก.ย.)
คลิกที่นี่ เพื่อฟัง นายกล้านรงค์ จันทิก ให้สัมภาษณ์
เมื่อเวลา 13.15 น.นายกล้านรงค์ จันทิก กรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ในฐานะโฆษก ป.ป.ช.แถลงผลการประชุมคณะกรรมการ ป.ป.ช.กรณีการพิจารณาสำนวนไต่สวนกรณีมติคณะรัฐมนตรี นายสมัคร สุนทรเวช ร่วมลงนามแถลงการณ์ร่วมกัมพูชา ขอขึ้นทะเบียนปราสาทพระวิหาร ว่า ที่ประชุม ป.ป.ช.ได้เริ่มพิจารณาตั้งแต่ 09.00 น.เสร็จในเวลาประมาณ 13.00 น.โดยกรรมการได้พิจารณาในรายละเอียดทั้งหมดของขั้นตอนดำเนินการ เอกสาร พยานบุคคลทั้งหมดที่ได้สอบสวนมา และยึดข้อเท็จจริงที่ยุติได้ในเรื่องการออกแถลงการณ์ร่วมระหว่างไทย-กัมพูชานั้น เป็นเรื่องที่ต้องผ่านความเห็นชอบจากรัฐสภาตามรัฐธรรมนูญตามมาตรา 190 ซึ่งตรงนี้เป็นไปตามคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญ เมื่อศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยตรงนั้นแล้วถือว่าผูกพันทุกองค์กร
“ประเด็นที่คณะกรรมการ ป.ป.ช.พิจารณา คือ การกระทำของบุคคลที่เกี่ยวข้อง ผู้ถูกกล่าวหาทั้ง 44 คนนั้น มีเจตนาที่จะปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบเพื่อให้เกิดความเสียหาย อันเป็นความผิดในทางอาญาหรือไม่ หรือมีเหตุจงใจส่อว่ากระทำความผิดต่อตำแหน่งหรือส่อว่าจงใจกระทำการขัดต่อบทบัญญัติของรัฐธรรมนูญและกฎหมายหรือไม่ ดังนั้น การพิจารณาจะต้องพิจารณาเป็นรายบุคคล เพราะพฤติการณ์ของแต่ละบุคคลที่มาเกี่ยวข้องนั้นไม่เหมือนกัน ซึ่งวันนี้คณะกรรมการ ป.ป.ช.ได้พิจารณาไปแล้วทั้งหมดในจำนวน 44 คน เสร็จไป 12 คนส่วนอีก 32 คนที่เหลือคณะกรรมการมีมติไปพิจารณาต่อในวันอังคารที่ 29 ก.ย.และคิดว่าจะพิจารณาได้เสร็จทั้งหมดและจะแถลงทีเดียวเลย” นายกล้านรงค์ กล่าว
นายกล้านรงค์ กล่าวต่อว่า 12 คนที่พิจารณาเสร็จในวันนี้ (22 ก.ย.) คณะกรรมการ ป.ป.ช.มีมติว่าจะยังไม่แถลงว่าเป็นใครบ้างและจะมีความผิดหรือไม่อย่างไร เพราะเป็นการพิจารณาเป็นรายบุคคล จะแถลงทีเดียวในวันที่ 29 ก.ย.นี้ วันนี้ตอบอะไรยังไม่ได้ แต่กรรมการ ป.ป.ช.พิจารณาพฤติการณ์เป็นรายบุคคลว่าเขากระทำการอย่างไรและมีประเด็นที่เป็นมูลความผิดทางอาญาหรือมีเหตุส่อว่าจงใจขัดต่อบทบัญญัติของรัฐธรรมนูญหรือผิดต่อตำแหน่งหรือไม่ ซึ่งเป็นกระบวนการถอดถอน เพราะเรื่องนี้ร้องทั้งถอดถอนและการดำเนินคดีทางอาญา เรื่องนี้เป็นการไต่สวนของกรรมการชุดใหญ่ทั้งคณะ ไม่มีอนุกรรมการ สาเหตุที่ยังไม่เสร็จในวันนี้ เนื่องจากช่วงบ่ายประธานติดที่จะต้องไปสรรหาวุฒิสมาชิก ฉะนั้นช่วงบ่ายจะเป็นการประชุมวาระปกติ ซึ่งที่ประชุมมอบหมายให้มีการเลือกประธานในที่ประชุมขึ้นมาปฏิบัติหน้าที่ชั่วคราวแทน
ผู้สื่อข่าวถามว่า ผลการวินิจฉัยจะออกมาเป็นรายบุคคลใช่หรือไม่ นายกล้านรงค์ กล่าวว่า เป็นรายบุคคล ถ้าผิดจะชี้ว่าผิดเพราะอะไร หากไม่ผิดจะบอกไม่ผิดเพราะอะไร เมื่อถามว่า ครม.ทั้งหมดอาจจะยกคำร้อง โดยที่ นายนพดล ปัทมะ อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศผิดคนเดียว นายกล้านรงค์ กล่าวว่า กรรมการยังไม่ได้พูดกันตรงนั้น เพราะระหว่างการพิจารณาเป็นรายบุคคลทั้ง 44 คน ส่วนกรณีของนายสมัคร สุนทรเวช อดีตนายกรัฐมนตรี ที่ไม่มาให้ปากคำนั้นในระเบียบการไต่สวนทาง ป.ป.ช.ได้แจ้งข้อกล่าวหาไปให้ท่านชี้แจงแก้ข้อกล่าวหามา หากไม่มีการชี้แจงแก้ข้อกล่าวหาในกฎหมายเขียนว่าไม่มีอะไรที่จะชี้แจงแก้ข้อกล่าวหา เมื่อย้ำถามว่า อังคารหน้านี้ ป.ป.ช.จะพิจารณาเสร็จแน่นอนใช่หรือไม่ นายกล้านรงค์ กล่าวว่า คิดว่าเสร็จ เพราะวันนี้เราพิจารณาเรื่องตั้งแต่เริ่มต้นว่าเป็นมาอย่างไร พร้อมทั้งนำถ้อยคำพยานบุคคลทั้งหมดวินิจฉัยเป็นประเด็นๆไปและเข้าสู่ตัวบุคคล
เมื่อถามว่า หากเป็นรัฐมนตรีในปัจจุบัน หากถูกชี้มูลความผิดต้องหยุดปฏิบัติหน้าที่หรือไม่ นายกล้านรงค์ กล่าวว่า อันนี้ยังไม่ขอตอบเพราะเห็นว่าต้องเป็นไปตามข้อกฎหมาย ต้องพิจารณาในข้อกฎหมาย เมื่อถามว่าทำไมต้องรอแถลงที่เดียวสังคมจะสงสัยหรือไม่ นายกล้านรงค์ กล่าวว่า ขอเรียนว่าที่แถลงวันนี้ เพื่อให้รู้ขั้นตอนการพิจารณาของกรรมการ ป.ป.ช. เราไม่ได้มีการเลื่อน ไม่ได้มีการผลัดที่จะไม่วินิจฉัย เราได้มีขั้นตอนการดำเนินการ เพราะผู้ที่ถูกกล่าวหามี 44 คนต้องพิจารณาเป็นรายบุคคล เมื่อเสร็จ 12 คนเราก็บอก แต่ไม่สามารถบอกได้ว่าเป็นใครบ้าง ผิดไม่ผิดอย่างไร ตอนนี้เหลือ 32 คน
ส่วนคำวินิจฉัยมูลความผิดของ พล.ต.อ.พัชราวาท วงษ์สุวรรณ ผู้บัญชาการสำนักงานตำรวจแห่งชาติ กรณีสั่งสลายการชุมนุม 7 ตุลา ที่ถูก ป.ป.ช.ชี้มูลมีพฤติกรรมชั่วร้ายแรงนั้น ขณะนี้เท่าที่ทราบกรรมการทั้งหมดลงนามเรียบร้อยแล้ว แต่จะถึงมือนายกรัฐมนตรีหรือยังนั้น ตนไม่ทราบเป็นขั้นตอนของทางธุรการ
