“เด็จพี่” บทซ้ำ “ไอ้ตู่” สำทับอีก “บิ๊กรัฐบาล” ใช้แผนสยบข่าวม็อบหางแดง ส่งซิกพันธมิตรฯ บุกเขาพระวิหารทวงคืนพื้นที่ วันเดียวกับเสื้อแดงชุมนุมพอดี เชื่อหวังกลบข่าวชุมนุมใหญ่
วันนี้ (19 ก.ย.) นายพร้อมพงศ์ นพฤทธิ์ โฆษกพรรคเพื่อไทย เปิดเผยว่า ในวันนี้ (19 กย.)ทางคณะทำงานด้านยุทธศาสตร์และการเมืองของพรรค ได้ติดตามและประเมินสถานการณ์ทางเมืองใน 3 ประเด็น คือ 1.การใช้อำนาจควบคุมการชุมนุมกลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยขับไล่เผด็จการแห่งชาติ หรือ นปช.ภายใต้พ.ร.บ.ความมั่นคงที่อาจส่อไปในทางรุนแรงและล่วงละเมิดสิทธิประชาชน 2.สถานการณ์มือที่ 3 ที่อาจเข้ามาสร้างสถานการณ์ความรุนแรง แล้วใส่ร้ายว่าเป็นฝีมือของคนเสื้อแดง ส่วนประเด็นสุดท้ายที่พรรคจับตามาก คือ 3.กรณีที่กลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย (พธม.) ปะทะกับกลุ่มชาวบ้านอ.กันทรลักษณ์ จ.ศรีสะเกษนั้น พรรคเพื่อไทยตั้งข้อสังเกตว่า การนัดชุมนุมเพื่อทวงคืนประสาทพระวิหารของกลุ่มพันธมิตรฯในวันที่ 19 กย.นี้ อาจมีนักการเมืองระดับสูงในรัฐบาลและบิ๊กของฝ่ายความมั่นคงอยู่เบื้องหลัง ร่วมมือกับกลุ่มกลุ่มพันธมิตรฯวางแผนให้เกิดสถานการณ์ดังกล่าวขึ้นเพื่อหวังกลบกระแสข่าวการชุมนุมของกลุ่มเสื้อแดงที่กรุงเทพฯ
อย่างไรก็ตาม พรรคเพื่อไทยจะติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด ขณะเดียวกันก็ประสานกับส.ส.ในพื้นที่จ.ศรีสะเกษและส.ส.บางส่วนที่ไปร่วมสังเกตการณ์การชุมนุมที่ลานพระบรมรูป ฯ รวมทั้งจะมีการเก็บภาพถ่ายหลักฐานที่ประเมินว่าตำรวจจะใช้ความรุนแรงกับผู้ชุมนุม
“การที่กลุ่มพันธมิตรฯ จงใจไปเคลื่อนไหวประท้วงที่ จ.ศรีสะเกษ แล้วอ้างว่าจะทวงคืนประสาทพระวิหาร แล้วจงใจยั่วยุก่อเหตุปะทะกับชาวบ้านในพื้นที่จนเป็นข่าวใหญ่โต น่าจะเป็นผลดีกับรัฐบาลมากกว่า เพราะจะทำให้สื่อแบ่งพื้นที่การรายงานข่าวไปสนใจข่าวที่จ.ศรีสะเกษมากกว่า ข่าวการชุมนุมของกลุ่มเสื้อแดงที่กทม.ซึ่งประเมินได้ว่าเหตุการณ์ที่ศรีสะเกษก็น่าจะเชื่อมโยงกับการเมือง กทม. เพราะหากการชุมนุมของคนเสื้อแดงที่กทม.ยืดเยื้อก็จะทำให้ที่จ.ศรีสะเกษ ยืดเยื้อตามไปด้วย ทั้งหมดนี้จึงน่าจะเป็นยุทธศาสตร์ทางการเมืองของรัฐบาลที่ส่งสัญญาณไปยังกลุ่มพันธมิตรฯให้ก่อการดังกล่าว เพื่อหวังสยบการเคลื่อนไหวของคนเสื้อแดง” โฆษกพรรคเพื่อไทยกล่าว