เลขาฯ รมว.ต่างประเทศ ชื่นชมพันธมิตรฯ ทวงคืนอธิปไตย แต่วอนทบทวนชุมนุมบนเขาพระวิหาร หวั่นเหตุบานปลาย เกิดความสูญเสีย ยืนยันทหารไทยตรึงพื้นที่ 4.6 ตร.กม.ไว้เป็นส่วนใหญ่แล้ว ส่วนวัดแก้วฯ ได้ตกลงถอนทหารทั้ง 2 ฝ่าย เจรจาปักปันเขตแดน คืบหน้าไปมากแล้ว แจงรัฐบาลมุ่งปกป้องอธิปไตยเหมือนกับ พธม.แต่ขอใช้แนวทางเจรจา พร้อมตอบทุกประเด็นข้อสงสัย
วันนี้ (18 ก.ย.) นายชวนนท์ อินทรโกมาลย์สุต เลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงต่างประเทศ กล่าวถึงการนัดชุมนุมของพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย เพื่อทวงคืนอธิปไตยที่บริเวณเขาพระวิหารในวันที่ 19 ก.ย.นี้ ว่า รัฐบาลเข้าใจในความเป็นห่วงเป็นใยของพี่น้องประชาชนต่อปัญหาบริเวณดังกล่าวเป็นอย่างดี และเคารพสิทธิในการแสดงออกถึงความรักชาติและหวงแหนอธิปไตย อย่างไรก็ตาม ในกรณีพื้นที่เขาพระวิหาร 4.6 ตารางกิโลเมตร ที่มีข้อพิพาทอยู่นั้น ส่วนใหญ่ทหารไทยเข้าไปตรึงกำลังอยู่แล้ว โดยจะอยู่ตามแนวสันปันน้ำทั้งหมด
ส่วนพื้นที่พี่น้องเป็นห่วง คือ บริเวณวัดแก้วสิขคีรีศวร ที่ฝ่ายกัมพูชาเอาคนเข้ามาอยู่นั้น เป็นปัญหาที่สะสมมานานกว่า 10 ปี ซึ่งจะต้องมีการปักปันเขตแดนกัน เราจะใช้วิธีการเจรจา ซึ่งคืบหน้าไปมากแล้ว โดยมีการประชุมเจบีซี (คณะกรรมาธิการเขตแดนร่วมไทย-กัมพูชา) แล้ว 3 ครั้ง และกำลังจะนำข้อเสนเข้าสู่รัฐสภาเพื่อขอความเห็นชอบ ก่อนที่จะมีการประชุมครั้งที่ 4 ซึ่งจะมีภาพถ่ายดาวเทียมต่างๆ ประกอบ ถ้าผ่านขั้นตอนนี้ไปได้ สถานการณ์ก็จะคลี่คลายด้วยดี
นายชวนนท์ กล่าวว่า สำหรับในระยะสั้น เรามีข้อตกลงชั่วคราวที่จะเข้าไปบริหารพื้นที่บริเวณวัดแก้วฯ คือ การเคลียร์ทหารออกนอกพื้นที่วัดทั้งหมด เพื่อให้มีการปกปันเขตแดนได้ สิ่งเหล่านี้รัฐบาลไม่นิ่งนอนใจ และให้ความมั่นใจได้ว่ารัฐบาลจะปกป้องเขตแดนไว้ได้ ด้วยวิถีทางที่ดีที่สุด
“พี่น้องและรัฐบาลมีความประสงค์เดียวกันในการปกป้องอธิปไตย แต่มาตรการแก้ไขอาจจะไม่สอดคล้องกัน และไม่รวดเร็วทันใจนัก จึงขอให้พี่น้องได้ให้โอกาสรัฐบาลในการใช้วิธีการทางการทูต และการเจรจา พี่น้องสามารถใช้สิทธิในการออกมาเคลื่อนไหวได้ แต่อย่างไรก็ตาม รัฐบาลมีความเป็นห่วงว่าถ้าเกิดเหตุการณ์ที่เป็นอุบัติเหตุขึ้นมา อาจจะสร้างสูญเสีย และทำให้ปัญหาบานปลายยุ่งยากซับซ้อนขึ้นไปอีก”
นายชวนนท์ ยืนยันว่า การดำเนินการของรัฐบาลเกี่ยวกับพื้นที่เขาพระวิหารทุกอย่างสามารถพิสูจน์ได้บนโต๊ะ ไม่มีอะไรที่เป็นผลประโยชน์ทับซ้อนหรือแอบแฝง ตนยินดีที่จะชี้แจงกับพี่น้องทุกข้อสงสัย และขณะนี้กระบวนการแก้ปัญหามันไปไกลแล้ว จนเราสามารถควบคุมสถานการณ์ต่างๆ ไว้ได้ดีแล้ว
“ผมขอวิงวอนไปยังพี่น้องได้โปรดพิจารณา สิ่งใดที่ยังเป็นที่เคลือบแคลงสงสัย ผมพร้อมที่จะชี้แจง ซึ่งเรื่องนี้ไม่มีการเอาไปโยงการเมือง หรือเกี่ยวข้องกับการขึ้นทะเบียนมรดกโลกแต่อย่างใด เป็นเรื่องการปักปันเขตแดนจริงๆ จึงขอให้พี่น้องได้ทบทวน หากยังมีความสงสัย รัฐบาล กระทรวงการต่างประเทศยินดีชี้แจงทุกประเด็น ไม่มีการหมกเม็ดปิดบังประชาชนแน่นอน ผมได้ลงพื้นที่แล้ว 2 ครั้ง ได้เห็นพื้นที่จริงว่าทหารเราตรึงกำลังไว้ตรงไหนอย่างไร” นายชวนนท์ กล่าว และว่า ขอชื่นชมในความรักบ้านเมืองของพี่น้องที่ไปชุมนุม แต่ทุกอย่างรัฐบาลได้ดำเนินการอย่างตรงไปตรงมาแล้ว และไม่อยากให้มีความสูญเสียเกิดขึ้น
วันนี้ (18 ก.ย.) นายชวนนท์ อินทรโกมาลย์สุต เลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงต่างประเทศ กล่าวถึงการนัดชุมนุมของพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย เพื่อทวงคืนอธิปไตยที่บริเวณเขาพระวิหารในวันที่ 19 ก.ย.นี้ ว่า รัฐบาลเข้าใจในความเป็นห่วงเป็นใยของพี่น้องประชาชนต่อปัญหาบริเวณดังกล่าวเป็นอย่างดี และเคารพสิทธิในการแสดงออกถึงความรักชาติและหวงแหนอธิปไตย อย่างไรก็ตาม ในกรณีพื้นที่เขาพระวิหาร 4.6 ตารางกิโลเมตร ที่มีข้อพิพาทอยู่นั้น ส่วนใหญ่ทหารไทยเข้าไปตรึงกำลังอยู่แล้ว โดยจะอยู่ตามแนวสันปันน้ำทั้งหมด
ส่วนพื้นที่พี่น้องเป็นห่วง คือ บริเวณวัดแก้วสิขคีรีศวร ที่ฝ่ายกัมพูชาเอาคนเข้ามาอยู่นั้น เป็นปัญหาที่สะสมมานานกว่า 10 ปี ซึ่งจะต้องมีการปักปันเขตแดนกัน เราจะใช้วิธีการเจรจา ซึ่งคืบหน้าไปมากแล้ว โดยมีการประชุมเจบีซี (คณะกรรมาธิการเขตแดนร่วมไทย-กัมพูชา) แล้ว 3 ครั้ง และกำลังจะนำข้อเสนเข้าสู่รัฐสภาเพื่อขอความเห็นชอบ ก่อนที่จะมีการประชุมครั้งที่ 4 ซึ่งจะมีภาพถ่ายดาวเทียมต่างๆ ประกอบ ถ้าผ่านขั้นตอนนี้ไปได้ สถานการณ์ก็จะคลี่คลายด้วยดี
นายชวนนท์ กล่าวว่า สำหรับในระยะสั้น เรามีข้อตกลงชั่วคราวที่จะเข้าไปบริหารพื้นที่บริเวณวัดแก้วฯ คือ การเคลียร์ทหารออกนอกพื้นที่วัดทั้งหมด เพื่อให้มีการปกปันเขตแดนได้ สิ่งเหล่านี้รัฐบาลไม่นิ่งนอนใจ และให้ความมั่นใจได้ว่ารัฐบาลจะปกป้องเขตแดนไว้ได้ ด้วยวิถีทางที่ดีที่สุด
“พี่น้องและรัฐบาลมีความประสงค์เดียวกันในการปกป้องอธิปไตย แต่มาตรการแก้ไขอาจจะไม่สอดคล้องกัน และไม่รวดเร็วทันใจนัก จึงขอให้พี่น้องได้ให้โอกาสรัฐบาลในการใช้วิธีการทางการทูต และการเจรจา พี่น้องสามารถใช้สิทธิในการออกมาเคลื่อนไหวได้ แต่อย่างไรก็ตาม รัฐบาลมีความเป็นห่วงว่าถ้าเกิดเหตุการณ์ที่เป็นอุบัติเหตุขึ้นมา อาจจะสร้างสูญเสีย และทำให้ปัญหาบานปลายยุ่งยากซับซ้อนขึ้นไปอีก”
นายชวนนท์ ยืนยันว่า การดำเนินการของรัฐบาลเกี่ยวกับพื้นที่เขาพระวิหารทุกอย่างสามารถพิสูจน์ได้บนโต๊ะ ไม่มีอะไรที่เป็นผลประโยชน์ทับซ้อนหรือแอบแฝง ตนยินดีที่จะชี้แจงกับพี่น้องทุกข้อสงสัย และขณะนี้กระบวนการแก้ปัญหามันไปไกลแล้ว จนเราสามารถควบคุมสถานการณ์ต่างๆ ไว้ได้ดีแล้ว
“ผมขอวิงวอนไปยังพี่น้องได้โปรดพิจารณา สิ่งใดที่ยังเป็นที่เคลือบแคลงสงสัย ผมพร้อมที่จะชี้แจง ซึ่งเรื่องนี้ไม่มีการเอาไปโยงการเมือง หรือเกี่ยวข้องกับการขึ้นทะเบียนมรดกโลกแต่อย่างใด เป็นเรื่องการปักปันเขตแดนจริงๆ จึงขอให้พี่น้องได้ทบทวน หากยังมีความสงสัย รัฐบาล กระทรวงการต่างประเทศยินดีชี้แจงทุกประเด็น ไม่มีการหมกเม็ดปิดบังประชาชนแน่นอน ผมได้ลงพื้นที่แล้ว 2 ครั้ง ได้เห็นพื้นที่จริงว่าทหารเราตรึงกำลังไว้ตรงไหนอย่างไร” นายชวนนท์ กล่าว และว่า ขอชื่นชมในความรักบ้านเมืองของพี่น้องที่ไปชุมนุม แต่ทุกอย่างรัฐบาลได้ดำเนินการอย่างตรงไปตรงมาแล้ว และไม่อยากให้มีความสูญเสียเกิดขึ้น
