ปธ.วุฒิฯ มีคำสั่งให้ ส.ว.“อรพินท์ มั่นศิลป์” หยุดปฏิบัติหน้าที่ หลังศาลฎีกาฯมีคำวินิจฉัย ว่า มีเจตนาแจ้งบัญชีอันเป็นเท็จจริง ตัดสิทธิ์ทางการเมือง 5 ปี พ่วงคดีอาญา รอคำพิพากษาอย่างเป็นทางการก่อนประกาศเลือกตั้งใหม่
วันนี้ (18 ก.ย.) จากกรณีที่คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) มีมติเอกฉันท์เมื่อวันที่ 15 ม.ค.2552 ว่า นางอรพินท์ มั่นศิลป์ สมาชิกวุฒิสภา (ส.ว.)นครสวรรค์ จงใจยื่นบัญชีทรัพย์สินและหนี้สินอันเป็นเท็จ ตามมาตรา 263 แห่งรัฐธรรมนูญ พ.ศ.2550 โดยไม่ยอมแจ้งว่ามีหนี้กับธนาคารทหารไทยกว่า 170 ล้านบาท พร้อมทั้งให้เสนอเรื่องให้ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง วินิจฉัยชี้ขาดตามมาตรา 263 ต่อ ทั้งนี้ เมื่อวันที่ 16 ก.ย.ที่ผ่านมา ศาลฎีกาฯได้มีคำวินิจฉัย โดยพิพากษาห้ามมิให้นางอรพินท์ ดำรงตำแหน่งทางการเมือง หรือดำรงตำแหน่งใดในพรรคการเมืองเป็นเวลา 5 ปี นับแต่วันที่ศาลฎีกาฯมีคำวินิจฉัย และยังมีโทษทางอาญาตาม พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ.2542 มาตรา 119 ด้วย
นายประสพสุข บุญเดช ประธานวุฒิสภา กล่าวว่า เมื่อวันพุธที่ 16 ก.ย.ตนได้รับแจ้งจากเจ้าหน้าที่ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง ทางโทรศัพท์ ว่า ศาลได้พิพากษาคดีอาญา นางอรพินท์ มั่นศิลป์ ส.ว.นครสรรค์ เนื่องจากจงใจยื่นบัญชีทรัพย์สิน และหนี้สินอันเป็นเท็จตามมาตรา 263 ซึ่งหลังจากนี้ไป นางอรพินท์ จะต้องหยุดปฏิบัติหน้าที่ทันที และเว้นวรรคจากการเมือง 5 ปี ทั้งนี้ ตนต้องรอให้ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองแจ้งเอกสารอย่างเป็นทางการมายังวุฒิสภาก่อน พิจารณาคำพิพากษาก่อนว่า เป็นอย่างไร เพราะเรื่องนี้เป็นคดีอาญา ส่วนจะมีการประกาศเลือกตั้งเมื่อไหร่นั้น จะต้องรออ่านคำพิพากษาก่อน คงไม่ช้า