“สุเทพ” ตั้งท่าโยนบาป พธม.บุกทวงเขาพระวิหารรุกล้ำเขมร

“เทพเทือก” วอน “พันธมิตรฯ” อย่าบุกพื้นที่เขมร หวั่นเกิดปัญหาระหว่างประเทศ อ้างรัฐบาลไม่ได้เพิกเฉยเดินหน้าแก้ปัญหาพื้นที่ทับซ้อนตลอดเวลา ท่องคาถาใช้สันติวิธีเจรจาเท่านั้น กางบันทึกไทย-เขมร ตกลงไม่เปลี่ยนแปลงสภาพ 4.6 ตร.ม.โชว์ ป้องเขมรไม่ได้รุกล้ำแต่เคยอาศัยอยู่จนเคยชิน ซัดสื่อ “บาป” กล่าวหารัฐเพิกเฉย

วันนี้ (18 ก.ย.) นายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ถึงการเคลื่อนไหวชุมนุมของกลุ่มพันธมิตรที่บริเวณพื้นที่ทับซ้อนประสาทพระวิหาร ว่า กรณีเขาพระวิหารต้องแสดงกันให้ชัดเจน ประการที่หนึ่ง เรื่องพื้นที่ 4.6 ตารางกิโลเมตร ที่ฝ่ายเขมร บอกว่า เป็นของเขา เราบอกว่าเป็นของเรา และเรียกกันว่า พื้นที่ทับซ้อนนี้ ได้มีการเจรจาพูดจากันมาเป็นสิบๆปีแล้ว และทั้งสองฝ่ายไทยและเขมรได้ทำบันทึกข้อตกลงกันไว้ว่า จะแก้ปัญหาด้วยสันติวิธี โดยให้มีคณะกรรมการปักปันเขตแดนเป็นผู้เข้าไปดำเนินการ ใช้หลักทางวิทยาศาสตร์ ทางวิชาการทั้งหลายเข้ามาตรวจสอบและกรรมการนั้น ก็ทำงานกันตลอดเวลาและมีข้อตกลงว่า ในระหว่างที่ดำเนินการกันอยู่ทั้งสองฝ่าย จะไม่เข้าไปแก้ไขเปลี่ยนแปลงสภาพต่างๆ ที่อยู่ในพื้นที่ 4.6 ตารางกิโลเมตร

ส่วนกรณีที่มีคนกล่าวอ้างว่า เขมรบุกรุกเข้ามาอยู่นั้นจริงๆ ไม่ใช่เรื่องบุกรุกเข้ามาใหม่ ไปดูหลักฐานข้อเท็จจริงได้ สื่อไปเปิดดูบันทึกเก่าๆ จะเห็นว่า เมื่อก่อนนั้นมีชาวเขมรเข้ามาตั้งบ้านเรือนอยู่ที่นั่นเป็นร้อยๆ คน ต่อมาเกิดไฟไหม้เกิดอะไรต่อะไรก็ถอยออกไป วันนี้คนพวกนั้นกลับเข้ามาใหม่ แต่ไม่ใช่ว่ามากมายอะไร แต่ก่อนคนไทยก็เข้าไปอยู่ตรงนั้น เมื่อเห็นว่าทำมาหากินไม่ได้เรื่องไม่สนุก มีการเผชิญหน้ากันไม่ปลอดภัย ก็ถอยออกมาก็เป็นสภาพอย่างนี้

ผู้สื่อข่าวถามว่า ล่าสุด ทหารกัมพูชาเตรียมแก๊สน้ำตา สุนัข อะไรต่างๆ คอยต่อต้านกลุ่มพันธมิตรฯ ที่เรียกร้องอยู่ตรงนั้น นายสุเทพ กล่าวว่า เราต้องมองภาพให้ชัด หากคนเขมรบุกรุกเข้ามาในแผ่นดินไทย ตนต้องใช้ทุกอย่างไม่ใช่แก๊สน้ำตา ตนคงต้องยิงเอาเข้าบ้าง ไม่แน่ เพราะเป็นการบุกรุกประเทศไทย เหมือนกันหากคนของเราบุกรุกประเทศเขา มันก็ต้องเป็นปัญหา

“ฉะนั้น สิ่งที่ผมอยากเรียน คือ อย่ากระพือข่าวอย่างที่ว่า ในลักษณะที่เป็นการสร้างความตึงเครียด หรือความรู้สึกกดดัน ให้คนทั้งสองฝ่ายมีปัญหากัน ผมเชื่อว่า รัฐบาลเขมร ประชาชนชาวเขมรอยากเป็นมิตรกับประเทศไทย เหมือนกับเราที่อยากเป็นมิตรกับเขา ไม่อยากให้มีปัญหาชายแดน แต่การดำเนินการใดๆ ของฝ่ายพันธมิตรฯ ต้องไม่ไปทำให้เกิดสถานการณ์ที่ทำให้ต้องเผชิญหน้ากัน” นายสุเทพ กล่าว

เมื่อถามว่า มีความจำเป็นต้องผลักดันกลุ่มผู้ชุมนุมพันธมิตรฯออกจากพื้นที่ตรงนั้นหรือไม่ นายสุเทพ กล่าวว่า การชุมนุมเป็นสิทธิทำได้ ปราศรัยได้ ตำหนิรัฐบาลได้ ตำหนิตนก็ได้ ตำหนิใครก็ได้ รัฐบาลมีหน้าที่ชี้แจงข้อเท็จจริง เราต้องพูดความจริง แต่ชุมนุมแล้วอย่าไปทำอะไรที่ไม่ถูกต้อง เช่น บุกรุกเข้าไปในเขตพื้นที่เขา อย่างนี้จะทำให้เกิดปัญหา เขาจะจับกุม ทำร้ายเราได้ เรื่องอย่างนี้เราต้องระมัดระวัง ไม่เข้าไปในพื้นที่นั้น

เมื่อถามว่า จะมีนโยบายพูดคุยกับชาวกัมพูชาอีกหรือไม่ นายสุเทพ กล่าวว่า ระดับนโยบายต้องพูดกันหลายครั้ง คิดว่า ในช่วงที่ นายฮุนเซน นายกรัฐมนตรีกัมพูชา มาร่วมประชุมสุดยอดผู้นำอาเซียนในไทย คงได้พูดคุยปรึกษาหารือกัน หรือหากมีความจำเป็นอะไร ตนก็พร้อมที่จะเดินทางไปพูดคุยทำความเข้าใจ แต่ขณะนี้ตนมั่นใจว่า ทางรัฐบาลเขมรโดยภาพรวมหรือประชาชนโดยส่วนรวม เขาอยากมีไมตรีกับเรา ไม่มีความร้าวฉานในใจ

เมื่อถามว่า ดูเหมือนทั้งสองฝ่ายไม่ตั้งใจที่จะแก้ปัญหาในจุดนี้ นายสุเทพ กล่าวยืนยันว่า ทั้งสองฝ่ายมีความตั้งใจ ตนติดตามเรื่องนี้ แต่เขตแดนที่ยาวเป็นพันกิโลเมตร มันต้องใช้เวลาในการปักปันและพิสูจน์กันตรงนี้ ตรงนั้น ของใคร เสาหลักควรจะอยู่ตรงไหน ทั้งนี้ ตนและนายฮุนเซน ได้ปรึกษาหารือกันหลายครั้งแล้วว่า เราจะไม่ทะเลาะกันเรื่องเขตแดนให้นักวิชาการผู้มีภูมิความรู้ทั้งสองฝ่าย ไปนั่งถกข้อเท็จจริงกันในที่ประชุม ดูข้อเท็จจริง ทำงานร่วมกัน ต้องหาข้อยุติกันให้ได้ด้วยเหตุผล และอย่าเอาเรื่องที่เขาทำงานยังไม่เสร็จ มาเป็นเรื่องของการทะเลาะเบาะแว้งระหว่างประเทศ

เมื่อถามว่า เบื้องต้นระดับรัฐบาล น่าจะคลี่คลายปัญหาเฉพาะหน้าก่อน นายสุเทพ กล่าวว่า ปัญหาเฉพาะหน้าพวกตน ได้คลี่คลายกันไปมากแล้ว มีกำลังเข้ามาอยู่ชายแดนของทั้งสองฝ่าย ตนก็ไปพบกับนายฮุนเซนด้วยตัวเอง บอกระวังอย่าให้เกิดปืนลั่น อย่าให้เกิดอุบัติเหตุนะ ทางตนก็จะระวัง ไม่งั้นจะเป็นเรื่องใหญ่ ในที่สุดก็ค่อยๆลดกำลังทหารลงไป เมื่อถามว่า หากผู้ชุมนุมพันธมิตรพลั้งอารมณ์บุกเข้าไปในพื้นที่ของเขา จะทำให้เกิดปัญหาระหว่างประเทศหรือไม่ นายสุเทพ กล่าวว่า เป็นแน่นอน เป็นเรื่องยุ่งยากแน่ ตนขอเตือนใครที่มีญาติมีพี่น้องเป็นพันธมิตร อย่าบุกเข้าไปในพื้นที่เขมรเลย

เมื่อถามว่า มองหรือไม่ว่าทำไมพันธมิตรฯออกมาเคลื่อนไหว เรื่องเขาพระวิหาร นายสุเทพ กล่าวว่า ต้องไปถามพันธมิตรฯ ถามตนไม่ได้ เมื่อถามว่า เบื้องต้นได้มีการประสานแกนนำพันธมิตรฯที่เคลื่อนไหวหรือไม่ นายสุเทพ กล่าวว่า มีเจ้าหน้าที่ของเราในระดับพื้นที่ ตั้งแต่นายอำเภอ ผู้ว่าราชการจังหวัดของกระทรวงมหาดไทย เจ้าหน้าที่ตำรวจ เจ้าหน้าที่ทหาร เราพยายามที่จะดูแลพี่น้องประชาชน คือ ไม่ต้องการให้พี่น้องประชาชนเสียหาย

เมื่อถามว่า รัฐบาลไม่ค่อยให้ความสนใจในจุดนี้เหมือนกับพอใจที่ดึงมวลชนไม่ให้เข้ามาในกรุงเทพฯ นายสุเทพ กล่าวว่า ไม่ใช่เลย กล่าวหารัฐบาลอย่างนี้เป็นบาป ไม่มี หากทำได้รัฐบาลอยากให้พี่น้องประชาชนอยู่กับบ้าน ไม่ต้องไปตากแดดตากฝนทำอะไรที่เป็นการยั่วยุท้าทายกัน ไม่ว่าฝ่ายไหนทั้งสิ้น หากมีอะไรจะวิพากษ์วิจารณ์รัฐบาล

เมื่อถามว่า เห็นฝ่านเสื้อแดงรัฐบาลจะเอาเป็นเอาตายประกาศกฎหมายเต็มที่ แต่ฝ่ายโน้นไม่เห็นประกาศอะไร นายสุเทพ กล่าวว่า ไม่คิดจะเอาเป็นเอาตายกับเสื้อแดงเลย วันนี้อยากจะเอาธูปเทียน ไปกราบเสื้แดงด้วยซ้ำว่า อยู่บ้านเถอะอย่ามา เมื่อถามว่า ตั้งแต่ที่กลุ่มพันธมิตรขึ้นไปเคลื่อนไหว ทางผู้ใหญ่ได้มีการประสานกันหรือยัง นายสุเทพ กล่าวว่า ได้มีการส่งสัญญาณถึงกันบ้าง เรามีกระบวนการที่จะต้องทำ

เมื่อถามว่า มีกระแสข่าวมาบริษัทไปขอสัมปทานในพื้นที่ซับซ้อน นายสุเทพ กล่าวว่า ไม่ใช่มีกระแสข่าว แต่เป็นเรื่องจริง มีทั้งไทยและเขมรที่อนุมัติให้ใบอนุญาตไปแล้วแต่มันไม่ได้ เพราะต่างคนต่างอนุญาติ ไทยประมาณ 3-5 บริษัท เขมรก็ประมาณนั้นอนุญาติกันไปเรื่อย แต่เข้าไปขุดเจาะสำรวจไม่ได้ เพราะไทยอนุญาตเขมรก็ไม่ยอม เขมรอนุญาตไทยก็ไม่ยอม คาราคาซังกันอยู่

“ถ้าบรรยากาศดีๆ ผมอยากจะชวนมานั่งคุยปรึกษาหุ้นกันดีกว่าเหมือนที่เราทำกับประเทศมาเลเซียและเวียดนาม” นายสุเทพ กล่าวว่า