ป.ป.ช.ชี้คดี “จุฑามาศ” รับสินบนจัดงานบางกอกฟิล์ม เผย รอเอกสารจาก FBI สหรัฐฯ มั่นใจได้ข้อมูลครบ เชื่อคดีจบได้ภายในสิ้นปี เบื้องต้นทำหนังสือแจ้งผู้เกี่ยวข้อง 3-4 ราย หลังพบมีการโอนเงินรวมกว่า 50 ล้านบาท
วันนี้ (16 ก.ย.) ที่สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ที่สำนักงาน ป.ป.ช. นายเมธี ครองแก้ว ประธานคณะอนุกรรมการไต่สวนคดีทุจริตการรับสินบนเพื่อให้ได้รับสิทธิ์จัดงานเทศกาลภาพยนตร์นานาชาติ กรุงเทพ หรือ บางกอก อินเตอร์เนชั่นแนล ฟิล์ม เฟสติวัล 60 ล้านบาท ที่มี นางจุฑามาศ ศิริวรรณ อดีตผู้ว่าการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) เข้าไปเกี่ยวข้อง ให้สัมภาษณ์ว่า ในวันนี้ (16 ก.ย.) คณะอนุกรรมการได้มีการประชุม พบว่า มีเจ้าหน้าที่เข้ามาเกี่ยวข้องในเรื่องดังกล่าว อยู่จำนวนหนึ่ง ส่วนจะเกี่ยวข้องด้วยด้านไหน อย่างไร ก็จะไปหาความเชื่อมโยงกันอีกครั้ง เพื่อนำเข้าแจ้งต่อที่ประชุมครั้งต่อไป ว่ามีใครบ้าง และเมื่อคณะกรรมการได้พิจารณาแล้วก็จะมีการแจ้งคำสั่งไปให้ทราบว่า บุคคลเหล่านั้นมีความเกี่ยวข้องอย่างไรบ้าง โดยผู้ที่เกี่ยวข้องเบื้องต้น พบว่า มีหลายระดับ ทั้งผู้บริหาร ผู้สนับสนุนประเภทหน้าห้อง รวมแล้วประมาณ 3-4 คน
นายเมธี กล่าวต่อว่า คณะกรรมการจะติดต่อกับทางสำนักงานอัยการสูงสุด เพื่อที่จะขอให้ทางฝ่าย FBI ของสหรัฐฯ เพื่อให้ส่งข้อมูลต่างๆ มาให้ไทย ส่วนส่งได้หรือไม่ได้ เนื่องจากคดียังไม่สิ้นสุด หรือยังไม่ถึงที่สุด ตรงนี้ทาง ป.ป.ช.ก็จะรอให้ทางสหรัฐฯตอบมาให้ทราบ เพราะทาง ป.ป.ช.เองไม่ทราบว่าระบบนี้ทางสหรัฐฯเป็นอย่างไร แต่เท่าที่ทราบมาทางสหรัฐฯเองมีข้อมูลในเรื่องนี้หมดทุกอย่างแล้ว เพราะเจ้าหน้าที่ที่ ป.ป.ช.ส่งไปสังเกตการณ์ที่ ลอสแองเจลีส แจ้งมาว่า ทางฝ่ายโจทย์ของสหรัฐฯ เวลานำเสนออะไรนั้น คนที่ต้องการดูสามารถดูได้ทั้งหมด อย่างไรก็ตามทางสหรัฐฯจะส่งให้ทาง ป.ป.ช.อย่างเป็นทางการได้หรือไม่นั้น ต้องรอให้เขาตอบมา วันนี้จึงมีมติว่าทาง ป.ป.ช.จะขอไปในส่วนนี้
“ถ้าเราจะทำอย่างน้อย 2 อย่าง คือ เอาคนที่เกี่ยวข้องมาแจ้งให้ทราบ คำสั่งแต่งตั้งกรรมการและรอข้อมูลจากทางFBI ก็คงจะทำได้ทุกสัปดาห์นับแต่นี้ไป และหากไม่มีเหตุขัดข้องอื่นนั้น ในเดือน พ.ย.นี้ น่าจะส่งคำกล่าวหาให้ผู้ที่เกี่ยวข้องได้ทั้งหมด รอให้เขาตอบข้อกล่าวหามาสัก1-2 เดือน ผมก็คิดว่า ภายในสิ้นปีนี้น่าจะจบได้ว่ามีข้อมูลเพียงพอที่จะชี้มูลหรือไม่อย่างไร ตอนนี้จึงยังสรุปอะไรไม่ได้ เพราะเรารอให้ทางอเมริกา เขาจบเรื่องก่อนเพื่อเราจะได้ข้อมูลมา ของเราก็ทำไประดับหนึ่งแล้วที่เกี่ยวข้องกับเรื่องการให้สินบน ในทัศนะของกฎหมานอเมริกัน เราเพิ่งจะได้รับข้อมูลตรงนี้ เขาตกลงได้ว่ามีการให้สินบนจริง แต่อย่าลืมว่ากฎหมายไทยไม่เหมือนกฎหมายอเมริกัน กฎหมายไทยมีลักษณะการพิจารณาคดีแตกต่างกัน ของเขาถึงแม้เขาเป็นคนอเมริกัน มาทำผิดต่างประเทศก็ถือว่าเป้นความผิดด้วย แต่ของเราสมมุติว่าเขาส่งเงินมาให้คนที่บ้านเรา แต่คนที่เมืองไทยไม่ได้รับไปรับที่ต่างประเทศถือว่า เป็นความผิดหรือไม่ ตรงนี้ผมเองก็ยังต้องปรึกษานักกฎหมายว่ามีความผิดหรือไม่อย่างไร” นายเมธี กล่าว
นายมธี กล่าวว่า ในเรื่องเส้นทางของเงินนั้น เป็นข้อมูลที่จาก FBI ที่ทางป.ป.ช.เห็นได้ชัดเต็มจอ ที่ลอสแองเจลีส ไม่ว่าจะเป็นเรื่องการโอนเงินผ่านสิงคโปร์ สเปน สวิตเซอร์แลนด์ และเกาะเจอร์ซีร์ แต่ก็ขึ้นอยู่ว่าหากทางฝ่ายทนายจำเลยบอกว่าเป็นการโอนเงินในลักษณะส่งเงินเป็นค้าตอบแทน คอมมิชชั่นธรรมดา ไม่ได้ผิดกฎหมาย แต่ทางฝ่ายโจทก์ อาจกล่าวว่า ทำเช่นนั้นได้อย่างไรเพราะมีการโอนกันมากถึง 50 กว่าครั้งในเวลาหลายปีต่อเนื่อง ตรงนี้จึงต้องมาดูในเหตุผล ว่าแต่ละครั้งมีเหตุผลอย่างไรจึงต้องส่งแบบนี้
เมื่อถามว่า เส้นทางการโอนเงินทาง ป.ป.ช.มีความชัดเจน นายเมธี กล่าวว่า มีบางส่วน อย่างที่ FBI ส่งให้ ป.ป.ช.ผ่านทางกรมสอบสวนคดีพิเศษ (DSI ) เพราะ ป.ป.ช.มีข้อมูลเกี่ยวกับการทำธุรกรรมทางการเงิน เฉพาะประเทศเดียว คือ สิงคโปร์ ส่วนประเทศอื่นทาง ป.ป.ช.กำลังจะขอจากทาง FBI การโอนเงินที่ผ่านมาเป็นการโอนเข้าบัญชีญาติ ของนางจุฑามาศ โอนติดต่อกันเป็นระยะเวลาหลายปี ครั้งละเป็นหมื่นเหรียญ โดยรวมแล้วจากการดูข้อมูลของ FBI พบว่าในช่วงหลายปีที่ทำคดี มีเงินที่โอนประมาณ 1 .8 ล้านเหรียญ เป็นเงินไทยประมาณ 50-60 ล้านบาท อยู่ในบัญชีเครือญาติและเพื่อนพ้อง 2 บัญชี โดยจำนวนครั้งในการโอนพบว่ามีจำนวนมาก