“สาทิตย์” ยันไม่จุ้นสื่อ เสนอข่าว “หางแดง” ชุมนุม เตือนรับผิดชอบเองปล่อย “แม้ว” โฟนอิน

“รัฐมนตรีคุมสื่อ” ยืนยัน 19 ก.ย.ให้สิทธิเสรีภาพสื่อในการนำเสนอข่าวเต็มที่ ชี้ถือเป็นดุลพินิจในการทำหน้าที่ ไม่มีการกำหนดขอบเขตในการทำหน้าที่ ย้ำทางฝ่ายรัฐบาลจะพยายามชี้แจงตามสถานการณ์ เผยอาศัยแม่ข่ายช่อง 11 เตือนสื่อปล่อยโฟนอิน “แม้ว” ต้องรับผิดชอบทางกฎหมาย

วันนี้ (16 ก.ย.) ที่ทำเนียบรัฐบาล นายสาทิตย์ วงศ์หนองเตย รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีการชุมนุมของกลุ่มคนเสื้อแดงในวันที่ 19 ก.ย.นี้ว่า ทางหน่วยงานด้านความมั่นคงได้มีการประสานเพื่อใช้สื่อของรัฐในการชี้แจงทำความเข้าใจต่อประชาชนว่า เรื่องการทำข่าวก็เป็นเรื่องที่แต่ละฝ่ายจะใช้ดุลพินิจของตัวเองในการดำเนินการอยู่แล้ว ส่วนการชี้แจงก็เป็นเรื่องของฝ่ายรัฐโดยหน่วยงานที่เกี่ยวข้องก็จะพยายามชี้แจงผ่านสื่อมวลชน หลังจากนี้เมื่อมีการประเมินเหตุการณ์ก็คงจะมีการชี้แจงเป็นระยะๆ ต่อไป แต่ถ้าในวันที่ชุมนุม มีเหตุการณ์ที่อาจกระทบกับสาธารณะ เช่น ต้องปิดการจราจรก็จะต้องมีการชี้แจงเพิ่มเติม โดยจะต้องประชุมกับสื่อที่เกี่ยวข้องว่าหากถึงจุดนั้นก็จะต้องดำเนินการ ซึ่งที่ผ่านมาจะใช้ช่อง 11 เป็นแม่ข่ายทำสถานีข่าวสาร แต่ทั้งนี้ต้องประเมินเหตุการณ์ก่อน หากเป็นการชุมนุมตามปกติ และสามารถดูแลการชุมนุมให้อยู่ในความสงบเรียบร้อย ไม่มีการปิดล้อมสถานที่ต่างๆ การชี้แจงคงไม่จำเป็น เพราะสื่อจะรายงานข่าวตามปกติอยู่แล้ว

เมื่อถามว่า มีการกำหนดขอบเขตการเข้าทำหน้าที่ของสื่อในพื้นที่ พ.ร.บ.ความมั่นคงฯ อย่างไร นายสาทิตย์กล่าวว่า ไม่มีการกำหนดกรอบอะไรที่จะกระทบต่อการทำงาน เพราะรัฐบาลต้องการให้เกิดความโปร่งใสในการทำงาน ดังนั้น สื่อสามารถใช้สิทธิเสรีภาพได้ ยกเว้นกรณีที่เจ้าหน้าที่กังวลในเรื่องความปลอดภัยก็จะมีคำเตือนออกมา โดยเฉพาะในจุดที่จะตั้งรถถ่ายทอดสด แต่ตนคิดว่าการชุมนุมครั้งนี้คงไม่มีอะไรเข้มงวดในการห้ามสื่อมวลชนเข้าไปทำข่าว

เมื่อถามต่อถามว่า มีการมอบนโยบายให้สื่อของรัฐอย่างไรเกี่ยวกับการโฟนอินของ พ.ต.ท. ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ที่อาจจะมีในช่วงของการชุมนุม นายสาทิตย์กล่าวว่า เรื่องนี้เราได้ให้ความเห็นไปแล้วว่า การโฟนอินเข้ามาและมีคำพูดที่ไปกระทบต่อประเทศ สถาบัน ทั้งองคมนตรี และสถาบัน ก็จะมีปัญหาข้อกฎหมายเกิดขึ้นอย่างแน่นอน ดังนั้น แต่ละฝ่ายจะต้องคำนึงถึงความรับผิดชอบในส่วนนี้อย่างเข้มงวด และการโฟนอินก็จะควบคุมได้ยากว่าจะไม่ให้มีถ้อยคำไปกระทบและมีปัญหาในข้อกฎหมาย เพราะต้องยอมรับว่าช่วงเม.ย.ที่ผ่านมาการโฟนอินของ พ.ต.ท.ทักษิณ กระตุ้นให้การชุมนุมบานปลายจนก่อให้เกิดการกระทำที่ขัดกับกฎหมาย ดังนั้นในครั้งนี้แต่ละฝ่ายก็ต้องระมัดระวังในเรื่องนี้