“สาทิตย์” เผยประชาชนมีโอกาสเป็นเจ้าของสื่อได้ง่ายขึ้น ทำให้สื่อเฉพาะทางผุดขึ้นเป็นดอกเห็ด จนประชาชนที่เลือกเสพข่าว หรือข้อมูลจากสื่อประเภทดังกล่าวคล้อยตาม ไม่ยอมรับฟังความคิดเห็นจากแหล่งอื่น แนะสื่อมวลชนควรร่วมควบคุม-ตรวจสอบกันเอง ด้านนักวิชาการ ชี้ ปัจจุบันมีการคุกคามสื่อหลายรูปแบบ ทั้งขู่ถอนโฆษณา จนทำให้บางองค์กรสื่อไม่กล้าเสนอความจริงรอบด้าน
วันนี้ (3 พ.ค.) ที่สมาคมนักข่าวนักหนังสือพิมพ์แห่งประเทศไทย มีการจัดงานเสวนาในหัวข้อ “เสรีภาพสื่อมวลชนไทย จะช่วยเติมหรือดับไฟความขัดแย้ง” ซึ่งงานเสวนาดังกล่าวจัดขึ้นเนื่องในวันสิทธิเสรีภาพสื่อมวลชนโลก โดย นายสาทิตย์ วงศ์หนองเตย รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ขณะนี้ประชาชนมีโอกาสเป็นเจ้าของสื่อได้ง่ายขึ้น จนทำให้ในช่วง 3- 4 ปีที่ผ่านมา เกิดสื่อเฉพาะทางมากขึ้น ซึ่งผลกระทบที่ตาม คือ ประชาชนที่เลือกบริโภคข่าวสาร หรือข้อมูลจากสื่อเฉพาะทาง ไม่ยอมรับฟังความคิดเห็นจากสื่อประเภทอื่นๆ ดังนั้น จึงแสดงให้เห็นได้ชัดเจนว่า สื่อดังกล่าวมีอิทธิพลต่อการชี้นำประชาชนให้คล้อยตามได้
ทั้งนี้ นายสาทิตย์ กล่าวต่อว่า จากปัญหาดังกล่าว ทางรัฐบาลอยากให้องค์กรสื่อต่างๆ ช่วยกันร่วมแรงร่วมใจกันควบคุมดูแลซึ่งกันและกันให้มากยิ่งขึ้น นอกจากนี้ ยังอยากให้สื่อมวลชนไทยทุกแขนง ตระหนักและทบทวนบทบาทหน้าที่ รวมถึงจรรยาบรรณในวิชาชีพสื่อมวลชนของตนเองด้วย
ด้าน นางพวงทอง ภวัครพันธุ์ อาจารย์คณะรัฐศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย กล่าวบนเวทีเสวนาเดียวกันว่า ถึงแม้ว่าปัจจุบันสื่อมวลชนไทยมีสิทธิเสรีภาพในการนำเสนอข่าวมากกว่าในอดีต แต่ก็ยังเกิดปัญหาการคุกคามสื่อมวลชนอยู่เป็นระยะๆ ทั้งในรูปแบบการกดดันทางเศรษฐกิจ อาทิ การขู่ถอนโฆษณา จนทำให้บางองค์กรสื่อกลัวจะสูญเสียรายได้ จึงไม่ได้กล้านำเสนอความจริงทุกด้าน
อนึ่ง งานเสวนาครั้งนี้ ยังมีนักวิชาการอีกหลายท่านมาร่วมขึ้นเวทีเป็นวิทยากร อาทิ รศ. ดร. พิรงรอง รามสูตร จากคณะนิเทศศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย รวมถึงตัวแทนสหพันธ์วิทยุชุมชน ตัวแทนจากสมาคมผู้ดูแลเว็บ และผู้จัดการมูลนิธิเพื่อผู้บริโภค ซึ่งบรรยากาศการเสวนาเป็นการร่วมรับฟังข้อมูลและแลกเปลี่ยนความคิดเห็นร่วมกัน
