xs
xsm
sm
md
lg

“เจ๊สด” คาด 16 ส.ส.พิษไข้หุ้นเลียนแบบ 16 ส.ว.ขวางยื่นศาลปกครอง

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

สดศรี สัตยธรรม
“สดศรี” ยันคำวินิจฉัยพ้นสมากชิกภาพ 13 ส.ส.ปชป.ถึงมือ “ปู่ชัย” แล้ว คาด 16 ส.ส.ที่ถูกชี้คุณสมบัติอาจจะเลียนแบบ 16 ส.ว.ร้องศาลปกครองขวางล่วงหน้า ค้านแก้ รธน. แฉเบื้องหลังเพื่อประโยชน์นักการเมืองทั้งสิ้น ยืนยันยังไม่ได้รับหนังสือ “เกียรติกร” ลาออก

วันนี้ (10 ก.ย.) นางสดศรี สัตยธรรม กรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ด้านกิจการพรรคการเมือง กล่าวถึงกรณีนายชัย ชิดชอบ ประธานรัฐสภา กล่าวว่ายังไม่ได้รับเรื่องที่ กกต.วินิจฉัยคุณสมบัติ 13 ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ซึ่งถือหุ้นกิจการสื่อ และสัมปทานรัฐว่า ยืนยันว่า กกต.ส่งเรื่องไปยังประธานรัฐสภาแล้ว โดยที่มีเลขทะเบียนลงรับไว้ชัดเจน ซึ่งหลังจากนี้ กกต. ก็จะส่งกรณี 16 ส.ส.พรรคฝ่ายค้านและพรรคร่วมรัฐบาลที่วินิจฉัยเมื่อวันที่ 9 ก.ย.ที่ผ่านมา ไปให้ แต่ทั้งนี้เชื่อว่าเรื่องนี้ คงยังไม่ถึงมือศาลรัฐธรรมนูญในทันที เพราะ ส.ส.ก็คงจะร้องต่อศาลปกครองเช่นเดียวกับกรณีของ 16 ส.ว.ที่เคยทำก่อนหน้านี้ อย่างไรก็ตาม ส่วนตัวแล้วอยากฝากถึงนายชัยว่าหากได้รับเรื่องแล้วก็ควรที่จะดำเนินการ ส่งต่อให้ศาลรัฐธรรมนูญตามมาตรา 91 เพื่อให้พิจารณาโดยเร็ว เพื่อเป็นการวางบรรทัดฐานว่า ส.ส.และ ส.ว.ควรปฏิบัติตัวอย่างไร

นางสดศรีกล่าวถึงจัดการเลือกตั้งซ่อมแทนนายเกียรติกร พากเพียรศิลป์ ส.ส.ปราจีนบุรี เขต 1 พรรคประชาธิปัตย์ว่า ตอนนี้ กกต.ยังไม่ได้รับเรื่องการลาออกของนายเกียรติกรแต่อย่างใด และเมื่อสอบถามไปยังเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎรก็ได้รับการปฏิเสธว่ายังไม่ได้รับหนังสือลาออก ของนายเกียรติกรเช่นกัน ทั้งนี้ ต้องมาดูข้อกฎหมายว่าการลาออกนั้นจะมีผลเมื่อใด จะเริ่มนับตั้งแต่ที่ได้รับหนังสือลาออก หรือนับตั้งแต่มีการแสดงเจตจำนง เพราะ กกต.ต้องรีบจัดการเลือกตั้งภายใน 45 วันนับตั้งแต่ที่ ส.ส.ลาออก

นางสดศรียังแสดงความเห็นถึงการแก้รัฐธรรมนูญตามความเห็นของกรรมการสมานฉันท์ฯ ว่า ประเด็นที่นำเสนอมานั้นเห็นว่าเป็นการแก้เพื่อประโยชน์ของนักการเมืองเองเท่านั้น เช่น มาตรา 237 ที่ให้กรรมการบริหารพรรคไม่ต้องรับผิดชอบหากมีการซื้อเสียง ซึ่งจริงๆ แล้วมาตราดังกล่าว เขียนขึ้นเพื่อตั้งใจแก้การซื้อสิทธิขายเสียงและให้ พรรคดูแลกันเอง ดังนั้น หากแก้มาตรานี้พรรคก็ไม่ต้องมีความรับผิดชอบ หรืออย่างการแก้ไขเรื่องเขตเลือกตั้ง ซึ่งตอนที่ร่าง เราก็ได้ถกเถียงถึงข้อดีข้อเสียของระบบเขตเดียวเบอร์เดียวและเขตเดียวเบอร์ โดยเชิญผู้ที่เกี่ยวข้องมาให้ข้อมูลและเห็นว่าระบบนี้ดีที่สุดในการป้องกันการซื้อสิทธิขายเสียง

นางสดศรีกล่าวต่อว่า อย่างที่ต้องการจะแก้ไขอำนาจการแจกใบเหลืองแดงให้ไปอยู่กับศาลแทน กกต.นั้น ตนก็มองว่าทุกวันนี้ อำนาจทุกอย่างก็แทบจะไปอยู่ที่ศาลอยู่แล้วเว้นแต่เรื่องก่อนประกาศรับรองผลการเลือกตั้ง ที่เหลือเราก็มีหน้าที่ทำความเห็นส่งต่อศาล

ผู้สื่อข่าวถามว่า หากเป็นการแก้เพื่อประโยชน์ของนักการเมืองเองจะเข้าชื่อเพื่อถอดถอนตามรัฐธรรมนูญมาตรา 122 หรือไม่ นางสดศรีกล่าวว่า เรื่องดังกล่าวคงต้องให้ศาลรัฐธรรมนูญเป็นคนตีความและถอดถอน กกต.จะไม่เกี่ยวข้อง โดยจะมีหน้าที่ตรวจสอบรายชื่อเท่านั้น

“หากแก้แล้วจะทำให้บ้านเมืองสมาฉันท์ก็แก้ แต่แก้แล้วตนก็มองไม่เห็นว่าจะเกิดการสมานฉันท์อย่างไร เพราะก็ยังคงมีสีเหลืองสีแดง อีกทั้งการสมานฉันท์ก็ไม่ได้เกิดขึ้นจากการเลือกตั้งเท่านั้น ถ้าตราบใดยังจัดการเรื่องความขัดแย้งไม่ได้การแก้ไขรัฐธรรมนูญก็ไม่มีประโยชน์ นอกจากแก้เพื่อผลประโยชน์ของตัวเอง”
กำลังโหลดความคิดเห็น