“เพื่อไทย” เห็นด้วย ส.ว.-ส.ส.เข้าชื่อขอแก้ รธน.6 ประเด็น พล่ามไปเรื่อยเชื่อ ป.ป.ช.ชี้มูลความผิดโยงตั้ง ผบ.ตร.คนใหม่ เตรียมยื่นถอดถอน “สาทิตย์” ตั้งข้อหาใหม่ฐานรุมโทรมสื่อ สารภาพดาราถ่อย “เมธี” เป็นสมาชิกพรรค อ้างสื่อสารไม่เข้าใจกันเลยต้องสาวหมัดยุติปัญหา
วันนี้ (8 ก.ย.) ที่พรรคเพื่อไทย นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ รองโฆษกพรรคเพื่อไทย แถลงภายหลังการประชุมคณะกรรมการบริหารพรรค และส.ส.พรรคเพื่อไทยว่า ที่ประชุมมีมติเห็นด้วยกับกรณีที่ ส.ส.และส.ว.เข้าชื่อเพื่อขอแก้ไขรัฐธรรมนูญใน 6 ประเด็น และจะไม่มีการเสนอหัวข้ออื่นเพิ่ม โดยจากนี้พรรคเพื่อไทยจะรวบรวมหัวข้อต่างๆ ในส่วนของพรรคเพื่อไทย เพื่อส่งมอบต่อไป
นายจิรายุกล่าวอีกว่า ที่ประชุมได้ตั้งข้อสังเกตถึงกรณีที่ ป.ป.ช.ชี้มูลความผิดบุคคลที่เกี่ยวข้องกับการสลายการชุมนุมบริเวณหน้ารัฐสภาของกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย เมื่อวันที่ 7 ตุลาคม 2551 ว่าเป็นการเข้าทางใครหรือไม่ โดยเฉพาะเรื่องการแต่งตั้ง ผบ.ตร.คนใหม่ ซึ่งนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี พยายามผลักดัน พล.ต.อ.ปทีป ตันประเสริฐ จเรตำรวจ รวมทั้งกรณีการยึดสนามบินสุวรรถูมิและสนามบินดอนเมืองของกลุ่มพันธมิตรฯ ที่ก่อนหน้านี้มีข่าวทำนองว่าจะแก้ข้อกล่าวหาจากผู้ก่อการร้ายเป็นผู้ก่อการดี จึงตั้งข้อสังเกตว่าหาก พล.ต.อ.พัชรวาท วงษ์สุวรรณ ผบ.ตร.ยังดำรงตำแหน่งอยู่จะสามารถแก้ข้อกล่าวหานี้ได้หรือไม่
นายจิรายุกล่าวด้วยว่า การทำหน้าที่ควบคุมดูแลสื่อของนายสาทิตย์ วงศ์หนองเตย รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรีในวันนี้ พรรคเพื่อไทยมองว่าไม่ใช่การแทรกแซงแต่เป็นการรุมโทรมสื่ออย่างน่าเกลียดที่สุด หากพบว่าสื่อของรัฐจะนำเสนอเกี่ยวกับ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีและกลุ่มคนเสื้อแดงก็จะไม่ให้ออกอากาศ ในขณะที่สีอื่นๆ ไม่ว่าเหลือง น้ำเงิน ถึงจะปากจัด ไม่เป็นกลางก็สามารถออกอากาศในสื่อของรัฐได้ใช่หรือไม่ ดังนั้น พรรคเพื่อไทยจะรวบรวมหลักฐานเพื่อยื่นถอดถอนนายสาทิตย์ออกจากตำแหน่งต่อ กกต. และป.ป.ช.ฐานละเมิดรัฐธรรมนูญมาตรา 45 และ 46 ที่ให้สิทธิเสรีภาพสื่อในการนำเสนอข่าว ไม่ว่าจะเป็นสื่อของรัฐหรือเอกชนมีเสรีภาพในการพูด เขียน พิมพ์ โดยเฉพาะมาตรา 46 ที่ระบุว่า การกระทำใดใด ไม่ว่าจะโดยทางตรงหรือทางอ้อมของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองอันเป็นการขัดขวาง หรือแทรกแซงการเสนอข่าว หรือแสดงความคิดเห็นให้ถือเป้นการจงใจใช้อำนาจหน้าที่โดยมิชอบ ขณะเดียวกันก็ขอเรียกร้องสมาคมต่างๆและองค์กรวิชาชีพสื่อให้ช่วยกันปกป้องเพื่อนร่วมอาชีพด้วยกันด้วย
นายจิรายุยังกล่าวถึงเหตุการณ์กระทบกระทั่งกันจนเกิดการทำร้ายร่างกายกันที่หน้าที่ทำการพรรคเพื่อไทยด้วยว่า พรรคได้หารือถึงเรื่องดังกล่าว โดยเชื่อว่าอาจเป็นการสื่อสารที่ไม่เข้าใจกัน รวมทั้งการใช้อารมณ์จนถึงขั้นชกต่อย ซึ่งเรื่องนี้ถือเป็นเรื่องส่วนบุคคล อย่างไรก็ตาม ยอมรับว่าเรื่องที่เกิดขึ้นเป็นเรื่องของคนในพรรคเดียวกัน อาจจะเกิดปัญหาในระหว่างการเดินทางของเงินที่อาจจะยังไม่ถึงมือผู้รับ ไปติดค้างอยู่ที่จุดใดจุดหนึ่ง ซึ่งเหตุการชกต่อยที่เกิดขึ้นถือว่าเป็นความรุนแรงแต่คิดว่าเป็นเรื่องของตัวบุคคลที่เกิดอารมณ์ขึ้นมากกว่าและสามารถเกิดขึ้นได้ในทุกวงการ สำหรับนายเมธี อมรวุฒิกุล นั้นได้สมัครเป้นสมาชิกพรรคเพื่อไทยเมื่อวันที่ 25 สิงหาคม 2552 ที่ผ่านมา ซึ่งเป็นคนที่ศรัทธาในแนวทางของพรรคและกลุ่มคนเสื้อแดงอย่างมาก
วันนี้ (8 ก.ย.) ที่พรรคเพื่อไทย นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ รองโฆษกพรรคเพื่อไทย แถลงภายหลังการประชุมคณะกรรมการบริหารพรรค และส.ส.พรรคเพื่อไทยว่า ที่ประชุมมีมติเห็นด้วยกับกรณีที่ ส.ส.และส.ว.เข้าชื่อเพื่อขอแก้ไขรัฐธรรมนูญใน 6 ประเด็น และจะไม่มีการเสนอหัวข้ออื่นเพิ่ม โดยจากนี้พรรคเพื่อไทยจะรวบรวมหัวข้อต่างๆ ในส่วนของพรรคเพื่อไทย เพื่อส่งมอบต่อไป
นายจิรายุกล่าวอีกว่า ที่ประชุมได้ตั้งข้อสังเกตถึงกรณีที่ ป.ป.ช.ชี้มูลความผิดบุคคลที่เกี่ยวข้องกับการสลายการชุมนุมบริเวณหน้ารัฐสภาของกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย เมื่อวันที่ 7 ตุลาคม 2551 ว่าเป็นการเข้าทางใครหรือไม่ โดยเฉพาะเรื่องการแต่งตั้ง ผบ.ตร.คนใหม่ ซึ่งนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี พยายามผลักดัน พล.ต.อ.ปทีป ตันประเสริฐ จเรตำรวจ รวมทั้งกรณีการยึดสนามบินสุวรรถูมิและสนามบินดอนเมืองของกลุ่มพันธมิตรฯ ที่ก่อนหน้านี้มีข่าวทำนองว่าจะแก้ข้อกล่าวหาจากผู้ก่อการร้ายเป็นผู้ก่อการดี จึงตั้งข้อสังเกตว่าหาก พล.ต.อ.พัชรวาท วงษ์สุวรรณ ผบ.ตร.ยังดำรงตำแหน่งอยู่จะสามารถแก้ข้อกล่าวหานี้ได้หรือไม่
นายจิรายุกล่าวด้วยว่า การทำหน้าที่ควบคุมดูแลสื่อของนายสาทิตย์ วงศ์หนองเตย รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรีในวันนี้ พรรคเพื่อไทยมองว่าไม่ใช่การแทรกแซงแต่เป็นการรุมโทรมสื่ออย่างน่าเกลียดที่สุด หากพบว่าสื่อของรัฐจะนำเสนอเกี่ยวกับ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีและกลุ่มคนเสื้อแดงก็จะไม่ให้ออกอากาศ ในขณะที่สีอื่นๆ ไม่ว่าเหลือง น้ำเงิน ถึงจะปากจัด ไม่เป็นกลางก็สามารถออกอากาศในสื่อของรัฐได้ใช่หรือไม่ ดังนั้น พรรคเพื่อไทยจะรวบรวมหลักฐานเพื่อยื่นถอดถอนนายสาทิตย์ออกจากตำแหน่งต่อ กกต. และป.ป.ช.ฐานละเมิดรัฐธรรมนูญมาตรา 45 และ 46 ที่ให้สิทธิเสรีภาพสื่อในการนำเสนอข่าว ไม่ว่าจะเป็นสื่อของรัฐหรือเอกชนมีเสรีภาพในการพูด เขียน พิมพ์ โดยเฉพาะมาตรา 46 ที่ระบุว่า การกระทำใดใด ไม่ว่าจะโดยทางตรงหรือทางอ้อมของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองอันเป็นการขัดขวาง หรือแทรกแซงการเสนอข่าว หรือแสดงความคิดเห็นให้ถือเป้นการจงใจใช้อำนาจหน้าที่โดยมิชอบ ขณะเดียวกันก็ขอเรียกร้องสมาคมต่างๆและองค์กรวิชาชีพสื่อให้ช่วยกันปกป้องเพื่อนร่วมอาชีพด้วยกันด้วย
นายจิรายุยังกล่าวถึงเหตุการณ์กระทบกระทั่งกันจนเกิดการทำร้ายร่างกายกันที่หน้าที่ทำการพรรคเพื่อไทยด้วยว่า พรรคได้หารือถึงเรื่องดังกล่าว โดยเชื่อว่าอาจเป็นการสื่อสารที่ไม่เข้าใจกัน รวมทั้งการใช้อารมณ์จนถึงขั้นชกต่อย ซึ่งเรื่องนี้ถือเป็นเรื่องส่วนบุคคล อย่างไรก็ตาม ยอมรับว่าเรื่องที่เกิดขึ้นเป็นเรื่องของคนในพรรคเดียวกัน อาจจะเกิดปัญหาในระหว่างการเดินทางของเงินที่อาจจะยังไม่ถึงมือผู้รับ ไปติดค้างอยู่ที่จุดใดจุดหนึ่ง ซึ่งเหตุการชกต่อยที่เกิดขึ้นถือว่าเป็นความรุนแรงแต่คิดว่าเป็นเรื่องของตัวบุคคลที่เกิดอารมณ์ขึ้นมากกว่าและสามารถเกิดขึ้นได้ในทุกวงการ สำหรับนายเมธี อมรวุฒิกุล นั้นได้สมัครเป้นสมาชิกพรรคเพื่อไทยเมื่อวันที่ 25 สิงหาคม 2552 ที่ผ่านมา ซึ่งเป็นคนที่ศรัทธาในแนวทางของพรรคและกลุ่มคนเสื้อแดงอย่างมาก