xs
xsm
sm
md
lg

“บรรหาร-สนั่น” ขานรับเปิดประชุมร่วมรัฐสภา ถกแก้ รธน.

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


“เสธ.หนั่น” เปิดบ้านย่านสนามบินน้ำ ให้อวยพรวันเกิด 74 ปี ขณะที่ “บรรหาร-ชุมพล” พร้อมแกนนำพรรคชาติไทยพัฒนา เดินทางร่วมอวยพร “บิ๊กเติ้ง” หยอดคำหวานขอให้เป็นเสาหลักค้ำจุนพรรค พร้อมขานรับเปิดประชุมร่วมรัฐสภา ถกแก้รัฐธรรมนูญ เห็นดี “นช.แม้ว” ขอเจรจา

วันนี้ (7 ก.ย.) ผู้สื่อข่าวรายงานจากบ้านพักสนามบินน้ำของพล.ต.สนั่น ขจรประศาสน์ รองนายกรัฐมนตรี และที่ปรึกษาพรรคชาติไทยพัฒนา ที่ได้เปิดบ้านรับการอวยพรในโอกาสครบรอบวันเกิดครบ 74 ปี โดยพล.ต.สนั่น และนางฉวีวรรณ ขจรประศาสน์ ภริยา สวมใส่ชุดสีพูสีสดใสคอยรับแขกที่มาอวยพรด้วยสีหน้ายิ้มแย้ม โดยได้เตรียมของที่ระลึกเป็นแก้วกาแฟเซรามิก มีลายเซ็นพล.ต.สนั่น ให้กับผู้ที่มาอวยพร ทั้งนี้ตั้งแต่ช่วงเช้าได้มีรัฐมนตรี อาทิ นายชวัตน์ ชาญวีระกุล รมว.หมาดไทย และหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย นายอลงกรณ์ พลบุตร รมช.พาณิชย์ นายเกื้อกูล ด่านชัยวิจิตร รมช.คมนาคม นายนิกร จำนง อดีตรมช.คมนาคม เข้ามอบช่อดอกไม้อวยพรวันเกิด

จนกระทั่งเวลา 09.00 น. นายบรรหาร ศิลปอาชา อดีตนายกรัฐมนตรี และอดีตหัวหน้าพรรคชาติไทย เดินทางมาพร้อมกับนายสมศักดิ์ ปริศนานันทกุล อดีตรมว.ศึกษาธิการและอดีตรองหัวหน้าพรรคชาติไทย นายธีระ วงศ์สมุทร รมว.เกษตรและสหกรณ์ จากนั้นนายชุมพล ศิลปอาชา หัวหน้าพรรคชาติไทยพัฒนาได้เดินทางมาร่วมอวยพรวันเกิดด้วย

โดยนายบรรหาร ได้มอบช่อดอกไม้แสดงความยินดี พร้อมกับทักทายพล.ต.สนั่น และนางฉวีวรรณ ขจรประศาสน์ ภริยา ว่าทำไมสวมเสื้อสีหวาน ทำให้ดูหนุ่มขึ้น จากนั้นได้อวยพรว่า ขอให้มีความสุขในวันเกิด และขอให้อยู่เป็นที่ปรึกษาพรรคชาติไทยพัฒนาต่อไป ปีนี้ถือว่าครบ 70 จึงอยากอวยพรให้พล.ต.สนั่น เป็น 007

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากนั้นนายบรรหาร ได้เช้าไปพูดคุยกับพล.ต.สนั่น จนกระทั่งทราบว่า วันนี้เป็นวันอายุครบ 74 ปี จึงเรียกผู้สื่อข่าวไปแก้ไข โดยกล่าวว่า เมื่อกี้เข้าใจผิดคิดว่าอายุ 70 จึงอวยพรให้เป็น 007 แต่จริงๆ แล้วพล.ต.สนั่น อายุครบ 74 เมื่อกลับแล้ว ก็ถือว่าอายุ 47 ปี แก่กว่าตน 7 ปี เพราะตนเพิ่ง 40 จากนั้นจึงได้อวยพรอีกครั้ง เป็นภาษาจีนพร้อมกับแปลเป็นไทย ว่า ขอให้ร่างกายแข็งแรง เจริญรุ่งเรือง ร่ำรวย มีเพื่อนฝูงญาติมิตรมากมาย

จากนั้นนายบรรหาร ได้ปรารภว่า ถ้าบ้านเมืองสงบเหมือนบ้านพล.ต.สนั่น ก็ดี เพราะบรรยากาศร่มรื่น ไม่มีทะเลาะเบาะแว้ง มีคนมาอวยพรกันอย่างนี้ก็ดี ผู้สื่อข่าวถามว่า แล้วจะทำอย่างไรให้บ้านเมืองสงบ นายบรรหาร กล่าวติดตลกว่า ก็เอาระเบิดปรมาณูมาลงให้หมด และว่า คิดว่าบ้านเมืองเรามีองค์พระสยามเทวาธิราช แต่อยากละลาบละล้วงไปคิดว่าตอนนี้ท่านไปท่องเที่ยวอยู่ที่ใด แต่ไม่ช้าท่านก็จะกลับบ้าน บ้านเมืองก็จะสงบเรียบร้อย

นายบรรหาร กล่าวอีกว่า ที่สำคัญคนเราต้องรู้จักลืม อย่าถือยศถือศักดิ์ ไม่ถือดี อย่าคิดว่าตัวเองถูกต้องทุกเรื่อง ต้องยอมรับผิดบ้าง ถ้าทำได้อย่างนั้นบ้านเมืองก็จะสงบเรียบร้อย อย่างตนตอนนี้ก็ปลงอนิจจังวัฎสังขารา เพราะถูกเว้นวรรค 5 ปี ก็โดนมาแล้ว แต่ตอนนี้ก็พยายามดูเหตุการณ์บ้านเมืองตลอด คอยเอาใจช่วยให้พูดจารู้เรื่อง เรื่องอะไรรอได้ก็รอ รอไม่ได้ก็อย่าไปเร่งรัดมัน ถ้าทำได้อย่างนี้ก็ไปได้ บางคนต้องใช้ประสบการณ์ตัวเองมาทำ ประสบการณ์ไม่ดีก็เกิดปัญหา ประสบการณ์เป็นสำคัญกว่าความรู้ความสามารถ สำคัญยิ่งกว่าปริญญาโท ปริญญาเอก เพราะประสบการณ์จะทำให้รู้ว่าเหตุการณ์อย่างไรต้องทำอย่างไร หรือจะหลบเลี่ยงอย่างไร

เมื่อถามว่า พ.ต.ท.ทักษิณออกรายการวิทยุระบุว่าพร้อมเจรจากับรัฐบาล นายบรรหาร กล่าวว่า ส่วนตัวแล้ว สมมุติว่าถ้าลองเจรจาดู ฟังว่าแต่ละฝ่ายต้องการอะไร อะไรรับได้ก็รับ รับไม่ได้ก็ไม่รับ สังคมจะได้รู้ว่ามีการพูดคุยกัน และฝ่ายไหนต้องการอย่างไร ส่วนตัวตนสนับสนุนให้เจรจา และอยากแนะรัฐบาลให้ทบทวนว่าหากเจรจาแล้วจะขาดทุน กำไร หรือเท่าทุนอย่างไร ลึกๆแล้วตนว่าน่าจะเจรจากันได้ เพราะทุกฝ่ายก็ล้าเต็มที่แล้ว แต่เรื่องคนกลางสำคัญ เมื่อถามต่อว่า คิดว่าใครเป็นคนกลางที่เหมาะสมที่สุด นายบรรหาร กล่าวว่า ตนกลางจะต้องวิ่งเข้าหาได้ทุกฝ่าย แต่คงไม่มีใครกล้ารับ เมื่อถามต่อว่า พร้อมจะเป็นคนกลางเจรจาหรือไม่ นายบรรหาร กล่าวว่า ไม่ได้ ตนไม่ได้เป็นรัฐบาล จะเอาอำนาจอะไรไปเจรจา เดี๋ยวหาว่าทะลึ่ง โดเสื้อเหลืองเสื้อแดงออกมาด่าลับหลังเปล่าๆ ขออยู่เป็นนายบรรหารให้คนเขาไหว้ดีกว่า

เมื่อถามว่า ใครเหมาะสมที่จะเป็นคนกลางในการเจรจาที่สุด ผู้สื่อข่าวรายงานนายบรรหาร ชี้มือไปทางพล.ต.สนั่น ในขณะที่พล.ต.สนั่นก็ชี้มือไปที่นายบรรหาร แล้วหัวเราะกันอย่างครื้นเครง

นายบรรหาร กล่าวอีกว่า ส่วนเรื่องความสงบที่จะเกิดขึ้น ตนคิดว่าสื่อมีส่วนสำคัญ เพราะตอนนี้ข่าวพ.ต.ท.ทักษิณ มีมากกว่ารัฐบาล พาดหัวข่าวทีใหญ่โต อย่างตนเห็นพาดหัวก็ยังต้องซื้อมาอ่าน ขอให้พยายามอย่าให้ความสนใจมากนัก เป็นข่าวเล็กๆก็พอ สื่อต้องช่วยกัน

ต่อข้อถามว่าการแก้ไขรัฐธรรมนูญจะช่วยแก้ไขปัญหาได้หรือไม่ นายบรรหาร กล่าวว่า จริงๆแล้วตนอยากจะนำธงแก้ไขรัฐธรรมนูญเองด้วยซ้ำ ใครจะด่า ตนก็จะด่ากลับ เพราะของที่มันมีปัญหาก็ต้องแก้ เอาง่ายๆ ทุกคนมีพ่อ มีแม่ ถ้าพ่อแม่ใครทำผิดแล้วลูกต้องรับผิดด้วย อย่างนี้ยุติธรรมหรือไม่ รวมทั้งเรื่องมาตรา 190 ที่ต้องนำเรื่องการทำสัญญากับต่างชาติเข้าสู่สภา ทำให้ทำงานไม่ได้ ไปเจรจากับใคร ทุกคนตกลงกันแล้วลงนามเรียบร้อย แต่ไทยต้องกลับมาเอาเรื่องเข้าครม.ก่อนเข้าสภา ทำให้ทำงานไม่ได้ ส่วนประเด็นอื่นจะที่ประชุมสภาเห็นควรอย่างไรก็ให้ว่าไปตามนั้น ทั้งนี้ตนเห็นว่าควรจะแก้ไขให้เสร็จก่อนเลือกตั้ง ไม่เช่นนั้นเลือกตั้งแล้วก็กลับมาอีหรอบเดิม

เมื่อถามถึงอายุของรัฐบาล นายบรรหาร กล่าวว่า อยู่นานเท่าที่จะอยู่ได้ หมายถึง เมื่อไรก็เมื่อนั่น บางอย่างไม่ควรพูด เดี๋ยวจะเจ็บตัว จริงๆตนคันปากอยากจะพูดเรื่ององค์กรอิสระ แต่ไม่เอาดีกว่า แต่ที่ได้ยินมาคณะกรรมการป.ป.ช.จะเลื่อนชี้มูลความผิดครม. ในเรื่องมาตรา 190 กรณีเขาพระวิหารไปปีหน้า

นายบรรหาร ยังกล่าวถึงสภาพเศรษฐกิจของประเทศว่า คิดว่าหลังจากที่เงินของโครงการไทยเข้มแข็งเริ่มใช้ รวมทั้งงบกลางปีในการกระตุ้นเศรษฐกิจ นำมาใช้ ตอนนี้สภาพการท่องเที่ยวเริ่มฟื้นตัว โรงแรมใหญ่ๆมีคนจองเต็ม เหลือแต่รายย่อย ที่ต้องช่วยแก้ไข อย่างไรก็ตามเชื่อว่าปลายปีนี้ เศรษฐกิจของประเทศไทยจะต้องผงกหัวขึ้นแน่นอน แต่ก็อยู่ที่มาตรการของรัฐบาลที่ต้องพยายามช่วยเหลือในจุดนี้ด้วย

ด้านพล.ต.สนั่น กล่าวว่า หากป.ป.ช.วินิจฉัยอย่างไรก็เป็นไปตามนั้น แต่คิดว่าป.ป.ช.คงจะดูข้อเท็จจริง ว่าใครเป็นผู้ดำเนินการ ไม่เช่นนั้นครม.ก็ต้องรับผิดชอบทุกอย่าง ส่วนจะส่งผลอย่างไรก็เป็นอีกเรื่อง และตนก็เป็น 1 ในครม.ชุดดังกล่าวด้วย

ขณะที่นายชุมพล กล่าวเสริมว่า ถ้ายังไม่ยุติอะไร เรื่องก็จะออกมาเรื่อยๆเพราะป.ป.ช.เดี๋ยวเรื่องโน้นเรื่องนี้ก็ออกตามมาเป็นพรวน เพราะฉะนั้นมาตรการฆ่า 7 ชั่วโคตรควรเลิกได้แล้ว ถ้าไม่รีบแก้ ไม่รีบทำก็จะออกมาอีกเยอะ

พล.ต.สนั่น กล่าวว่า สำหรับของขวัญของตนที่อยากได้ในวันเกิดคือความสงบของบ้านเมืองกลับคืนมา ส่วนเรื่องการแก้ไขรัฐธรรมนูญ มาถึงตอนนี้ก็ต้องแก้แล้ว


นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี
นายบรรหาร ศิลปอาชา อดีตหัวหน้าพรรคชาติไทย
นายชวรัตน์ ชาญวีรกูล รมว.มหาดไทย


กำลังโหลดความคิดเห็น