ทีวีคนเสื้อแดงแบน “จักรภพ-สุรชัย” ห้ามเสนอข่าวความเคลื่อนไหวเด็ดขาด หลังมีเรื่องขัดแย้ง “3 เกลอหัวขวด” อย่างรุนแรง หวั่นกระทบรายการความจริงวันนี้ที่มียอดผู้ชมสูงสุด ด้าน “อีเพ็ญ” แจงผ่านคอลัมน์ นสพ.ไทยเรดนิวส์ ต้องวิจารณ์ 3 เกลอ เพราะเคลื่อนไหวผิด 5 ยุทธศาสตร์
วันที่ 5 ก.ย.มีรายงานแจ้งว่า ผู้บริหารระดับสูงของสถานีโทรทัศน์ผ่านดาวเทียมของกลุ่มคนเสื้อแดง พีเพิลชาแนล หรือดี-สเตชั่น ได้ออกคำสั่งไม่ให้กองบรรณาธิการของสถานีรายงานข่าวความเคลื่อนไหว หรือ เผยแพร่ความเห็นของนายจักรภพ เพ็ญแข แกนนำคนเสื้อแดงที่หลบหนีหมายจับในคดีหมิ่นพระบรมเดชานุภาพและคดีก่อความวุ่นวายในบ้านเมืองเมื่อเดือนเมษายนไปอยู่ต่างประเทศ และนายสุรชัย ด่านวัฒนานุสรณ์ แกนนำคนเสื้อแดง ที่ออกมาวิพากษ์วิจารณ์การเคลื่อนไหวของ “3 เกลอหัวขวด” ก่อนหน้านี้
ทั้งนี้ เนื่องจากกลุ่ม 3 เกลอหัวขวด ประกอบด้วย นายวีระ มุสิกพงศ์ นายจตุพร พรหมพันธุ์ และนายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ เป็นผู้ดำเนินรายการ “ความจริงวันนี้” ซึ่งถือว่าเป็นรายการที่มีจำนวนผู้ชมมากที่สุดของทางสถานี ดังนั้น ทางผู้บริหารจึงห้ามนำเสนอข่าว นายจักรภพและสุรชัย เพื่อไม่ให้คนเสื้อแดงเกิดความสับสนกับแนวทางที่กลุ่ม 3 เหลอหัวขวด นำเสนอผ่านรายการความจริงวันนี้นำเสน
วันเดียวกัน นายจักรภพ เพ็ญแข ได้เขียนชี้แจงถึงปัญหาความขัดแย้งกับกลุ่ม 3 เกลอหัวขวด ลงในคอลัมน์ “ผมเป็นข้าราษฎร” หนังสือพิมพ์รายสัปดาห์ “ไทยเรดนิวส์” ฉบับล่าสุด โดยมีใจความสรุปได้ว่า เหตุที่ตนออกมาวิจารณ์กลุ่ม 3 เกลอฯ ไม่ได้มาจากการขัดผลประโยชน์หรืออิจฉาริษยา แต่เห็นว่ายุทธวิธีที่กลุ่ม 3 เกลอฯ ใช้เคลื่อนไหวไม่เป็นไปตามยุทธศาสตร์ 5 ข้อ คือ 1.อำนาจอธิปไตยเป็นของปวงชนชาวไทย 2.บ้านเมืองปกครองด้วยหลักกฎหมายที่ชาวไทยร่วมกำหนด ไม่ใช่ด้วยกระบวนการฝ่ายอำมาตย์ แอบควบคุมสังคมไทยอยู่ 3.ประชาชนต้องมีเสรีภาพ 4.สังคมต้องมุ่งความเสมอภาค และ 5.รัฐบาลและผู้ใช้อำนาจอธิปไตยชาวไทยต้องมาจากการเลือกตั้ง ดังนั้น ตนจึงต้องออกมาตั้งคำถามว่า การเคลื่อนไหวแต่ละครั้งที่มีมวลชนเข้าร่วมอย่างน่าปลื้มใจทุกครั้งนั้น เรามีข้อเรียกร้องที่ใหญ่พอและคุ้มค่าต่อความเหนื่อยกาย และเหนื่อยใจของประชาชนหรือไม่ และไม่เชื่อแนวทางจตุพรนำคนเสื้อแดงชนะ
นายจักรภพระบุว่า มีหลายคนบอกว่าเราต้องแกล้งทำลับลวงพราง และต้องใจเย็น รอให้ธรรมชาติช่วยตัดสินแล้วทุกอย่างจะพลิกผันมาเข้าทางเราโดยอัตโนมัติ แต่ตนไม่เชื่อ เพราะสังคมไทยวันนี้ไม่ได้คลุมด้วยตาข่ายทางสังคม ที่ประชาชนเป็นใหญ่ และมีส่วนร่วมในการตัดสินชะตากรรมของตัวเอง แต่เป็นการครอบงำของสิ่งที่เรียกว่า “รัฐภายในรัฐ” นั่นคือมีรัฐบาลตัวจริง ที่คอยชี้นำทิศทางของประเทศอยู่ และชี้นำทุกอย่างไปสู่การรักษาอำนาจอันล้นเหลือ และความมั่งคั่งร่ำรวยที่อธิบายที่มาของตัวเองและพวกไม่ได้เท่านั้น
นายจักรภพอ้างอีกว่า จุดยืนของฝ่ายประชาธิปไตย คือ สู้กับระบอบอำมาตยาธิปไตย ต้องสู้โดยสติปัญญา ความสามารถโดยไม่ใช่เอาเลือดเข้าแลก ก้าวย่าง คือเตรียมแผ่นดินให้พร้อม เครือข่ายของอำมาตย์ เขาก็เตรียมอยู่ต่อหลังฤดูผลัดใบเช่นกัน เพราะเขาคิดว่าเขาเป็นเจ้าของสวนพฤกษชาติแห่งนี้ เตรียมเครื่องมืออย่างหลากหลาย เพื่อกระทำภารกิจที่แตกต่างกันในแต่ละห้วงแต่ละสถานการณ์ และจุดสำคัญคือ เมื่อถึงเวลาเดินก็ต้องเดิน ไม่ใช่ชวนกันวนอยู่กับที่ เหมือนวัวพันหลัก