กรรมการบริหารพรรคประชาธิปัตย์ ตัดตอนฟัน 4 สมาชิกพรรค พัวพันชุมชนพอเพียง แค่ขับพ้นพรรค ชี้ พบพฤติกรรมทำผิดจรรยาบรรณพรรค ทั้งผิดข้อบังคับการดำเนินการชุมชนพอเพียง แต่อ้างไม่พบได้รับประโยชน์โดยตรง ขณะที่ “กอร์ปศักดิ์-อัญชลี” รอด อ้างไม่มีส่วนรับรู้ “โฆษกพรรค” ยันไม่ได้ตัดตอน หรือจับแพะ
วันนี้ (4 ก.ย.) ที่พรรคประชาธิปัตย์ นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี เรียกประชุม กรรมการบริหารพรรค เพื่อพิจารณารายงานความผิดของ ส.ข.และสมาชิกพรรค ทั้ง 4 คน ที่เข้าไปมีส่วนเกี่ยวข้องกับการทุจริตในโครงการชุมชนพอเพียง จากคณะกรรมการตรวจสอบการทุจริตโครงการชุมนุมพอเพียง ที่มี นายเจริญ คันธวงศ์ ส.ส.สัดส่วน เป็นประธาน ทั้งนี้ การประชุมครั้งนี้ มี นายกอร์ปศักดิ์ สภาวสุ รองนายกฯ ในฐานะรองหัวหน้าพรรค และนางอัญชลี วานิช เทพบุตร รองเลขาธิการพรรค ซึ่งเป็นผู้รับผิดชอบโครงการชุมชนพอเพียง เข้าร่วมประชุมด้วย โดยใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมง
จากนั้นเวลาในเวลา 09.30 น.นพ.บุรณัชย์ สมุทรักษ์ โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ แถลงผลการประชุม ว่า ที่ประชุมมีมติเป็นเอกฉันท์ ให้บุคคลที่เป็นสมาชิกพรรค 4 คน ได้แก่ นายพงศ์ศักดิ์ วุฒิชัย ส.ข.เขตดินแดง นายศุภกิตติ สุคันธปรีย์ ส.ข.บางกะปิ นายปรีชา ศรีวิไล สมาชิกพรรค และ นายจเด็ด โพธิมาก สมาชิกพรรค ซึ่งเป็นประธานชุมชนพอเพียงด้วย ออกจากการเป็นสมาชิกพรรคตามข้อบังคับพรรคข้อที่ 100 ที่ให้พ้นจากการเป็นสมาชิกพรรค เนื่องจากตามข้อสรุปของคณะกรรมการของพรรค เห็นว่า มีพฤติกรรมไม่เหมาะสม และอาจนำมาซึ่งความเสียหายต่อพรรคประชาธิปัตย์ ในการที่จะนำเสนอโครงการให้แก่ชุมชน และร่วมกันก่อโครงการให้แก่ชุมชน โดยให้ชุมชนมีหน้าที่เพียงลงลายมือชื่อในโครงการเท่านั้น โดยไม่มีการประชุม หรือ ประชาคม ตามกฎเกณฑ์ของคณะกรรมการชุมชนพอเพียง ส่อให้เห็นว่าพฤติกรรมดังกล่าวจะทำให้พรรคเสียหาย ตามข้อบังคับพรรคหมวด 12 ว่าด้วย วินัย และจรรยาบรรณของสมาชิกพรรค ข้อ 91 ที่ระบุว่าสมาชิกพรรคต้องประพฤติตนไม่ให้เป็นที่เสียหายแก่พรรค
นพ.บุรณัชย์ กล่าวต่อว่า ที่ประชุมยังเห็นว่าหากการประพฤติของทั้ง 4 คนเข้าข่ายการละเมิดกฎหมายฉบับใด ถือว่าเป็นการดำเนินการของหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง นอกเหนือจากการดำเนินการทางวินัยของพรรคประชาธิปัตย์ อย่างไรก็ตาม ทางคณะกรรมการของพรรค ได้พิจารณาว่าพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสมของบุคคลทั้ง 4 ไม่มีลักษณะของการได้ผลประโยชน์โดยตรงแต่อย่างใด และไม่พบว่าบุคลากรในพรรค รวมทั้งบุคคลทั้ง 4 คน จงใจในการกระทำทุจริต แต่เป็นการดำเนินการตามจรรยาบรรณของพรรค
โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวต่อว่า นอกจากนี้ ที่ประชุมยังได้พิจารณาในส่วนของโครงการอื่นที่คณะกรรมการของพรรคได้พิจารณาในเขตพื้นที่ต่างๆ ทั่วประเทศ พบว่า มีความพยายามสมคบกันระหว่างนักการเมืองท้องถิ่นหลายพรรค หลายภาค ร่วมกับผู้นำชุมชน ผู้มีอิทธิพล และเจ้าหน้าที่ ของสำนักงานโครงการเศรษฐกิจพอเพียงเพื่อยกระดับชุมชน (สพช.) ซึ่งดำเนินการต่อเนื่องมาจากโครงการอยู่ดีมีสุข และโครงการ เอสเอ็มแอล เช่น กรณีการสอบปุ๋ย ในจังหวัดอำนาจเจริญ ซึ่งมีบุคคลที่เกี่ยวข้องกับแกนนำพรรคเพื่อไทย ดังนั้น พรรคประชาธิปัตย์ จึงหวังว่า ทุกพรรคการเมืองจะดำเนินการกับผู้เกี่ยวข้องที่กระทำตัวไม่เหมาะสมกับทุกโครงการในมาตรฐานเดียวกัน ทั้งนี้ เห็นว่า นักการเมือง และผู้มีอิทธิพลที่เข้าไปเกี่ยวข้องโครงการอื่นๆ เป็นการทำในลักษณะอาศัยช่องว่าง และระเบียบในการดำเนินการโครงการชุมชนพอเพียง ซึ่งเป็นการสมคบกันของเจ้าหน้าที่มีการเปลี่ยนแปลงโครงการเดียวกันในอดีต มาสวมทับโครงการชุมพอเพียงในปัจจุบัน และการดำเนินการดังกล่าวผู้กำกับในระดับนโยบายปัจจุบัน ไม่ได้รับรู้หรือละเว้น ๆไม่ว่าจะเป็น นายกอร์ปศักดิ์ หรือ นางอัญชลี ซึ่งที่ประชุมเห็นว่าไม่มีส่วนเกี่ยวข้องใดๆ กับการทุจริตในโครงการชุมชนพอเพียง
เมื่อถามว่า การลงโทษเพียงสมาชิกพรรคทั้ง 4 คน ถือเป็นการตัดตอนเพื่อไม่ให้ไปถึงบุคคลที่สูงกว่านี้หรือไม่ นพ.บุรณัชย์ กล่าวว่า ยืนยันว่า ไม่มีการตัดตอน ไม่มีการจับแพะ และไม่มีการปฏิเสธความรับผิดชอบ แต่การดำเนินการในส่วนของกฎหมายนั้น ได้มีการดำเนินการไปก่อนหน้านี้แล้ว และจากการสอบสวนพบว่าบุคคลทั้ง 4 ทำการอยู่ในขั้นพยายาม หรือเตรียมการ ซึ่งในทางกฎหมาย ถือว่าความผิดยังไม่สำเร็จ แต่ในส่วนของพรรคถือว่าบรรทัดฐาน และจรรยาบรรณต้องมาก่อน ผู้ที่เป็นสมาชิกพรรคประชาธิปัตย์ ต้องมีมาตรฐานที่สูงกว่ามาตรฐานทางกฎหมาย