เลขาธิการพรรคการเมืองใหม่ ไม่เชื่อลมปากแกนนำ นปช.แตกคอแค่ปาหี่ชั่วคราว สุดท้ายกลับเข้าแถวเดินตามก้นนายใหญ่ ซัด “จักรภพ-สุรชัย” ลุ่มหลงระบอบทักษิณ จนทรยศต่ออุดมการณ์ตัวเอง แนะแน่จริงออกมาสร้างองค์กรใหม่ อย่าเป็นเพียงเครื่องมือแม้ว
วันนี้ (28 ส.ค.) นายสุริยะใส กตะศิลา ผู้ประสานงานพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยและเลขาธิการพรรคการเมืองใหม่ (กมม.) กล่าวไม่เชื่อว่าความขัดแย้ง ในแกนนำ นปช.จะบานปลาย กลายเป็นปัญหาถึงขั้นแตกแยกกัน เพราะแกนนำสูงสุดที่มีอำนาจชี้ขาด คือ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ซึ่งสุดท้ายก็คงจะยุติตามที่ พ.ต.ท.ทักษิณ ต้องการได้ เพราะทั้ง 2 กลุ่มถือเอา พ.ต.ท.ทักษิณ เป็นผู้ตัดสินใจสูงสุด เพราะแนวทางการเคลื่อนไหว ไม่ว่าจะเป็นแนวทางของ นายจักรภพ เพ็ญแข หรือแนวทางของ นายจตุพร ยังอยู่ในปลายทางเดียวกัน คือ เอา พ.ต.ท.ทักษิณ กลับเข้ามามีอำนาจอีกครั้ง จะต่างกันเพียงยุทธวิธี ซึ่งยุทธวิธีของนายจักรภพ อยากให้ทำสงครามกับอำมาตย์ และมหาอำมาตย์ให้เด็ดขาดก่อน แล้วตอนนั้น พ.ต.ท.ทักษิณ จะกลับเข้ามาได้เอง ในขณะที่ฝ่าย นายจตุพร คิดว่า ต้องใช้ พ.ต.ท.ทักษิณ เป็นธงนำเพื่อรบกับอำมาตย์และมหาอำมาตย์ เพราะไม่มีใครมีพลังต่อกรกับอำมาตย์ได้เท่ากับ พ.ต.ท.ทักษิณ
นายสุริยะใส กล่าวว่า จริงๆ แล้ว ความแตกต่างทางความคิดของแกนนำ นปช.เกิดขึ้นหลายครั้งเป็นระยะๆ ก่อนหน้านี้ นายจาตุรนต์ ฉายแสง ก็เคยออกมาวิพากษ์การนำของ 3 เกลอ ว่า ให้เอาประชาธิปไตยเป็นธงนำไม่ใช่เอาทักษิณมานำ แต่สุดท้ายก็เงียบหายไปไม่ได้จริงจัง หรือยืนยันความคิดอะไรของตัวเอง และ นายจาตุรนต์ ก็ยังเป็นขุนพลหลัก สนับสนุน นปช.และพยายามปกป้องระบอบทักษิณอยู่เหมือนเดิม หรือแม้แต่ นพ.เหวง โตจิราการ ซึ่งตอนนี้ก็แสนเชื่องให้กับระบอบทักษิณไปเรียบร้อยแล้ว
ยิ่งกรณี นายจักรภพ และ นายสุรชัย แซ่ด่าน ออกมาวิพากษ์การนำของ 3 เกลออย่างรุนแรงในขณะนี้ ก็คงไม่แตกต่างจากกรณีของ นายจาตุรนต์ ก่อนหน้านี้ ที่สุดท้ายก็กลับไปเข้าแถวตามคำบัญชาของนายใหญ่เช่นเคย
นายสุริยะใส กล่าวอีกว่า หากศึกษาวิธีคิดของ นายจักรภพ และ นายสุรชัย ต่อการวิพากษ์อำมาตย์ และมหาอำมาตย์นั้น ถือเป็นความคิดที่ซื่อสัตย์ต่อระบอบทักษิณ แต่กลับเสแสร้งต่อจุดยืนตัวเอง เพราะดูเผินๆ เหมือนเป็นค่ายความคิดที่ก้าวหน้า แต่ในขณะเดียวกัน ก็เป็นเรื่องน่าเวทนา เพราะทั้ง 2 คน วิพากษ์ระบอบอำมาตย์อย่างดุเดือด แต่กลับไปภักดีและยังลุ่มหลงกับระบอบทักษิณ ในฐานะอำมาตย์ผู้มาใหม่หรือผู้อุปถัมภ์รายใหม่ ซึ่งน่ากลัวและอันตรายกว่าสิ่งที่ นายจักรภพ และ นายสุรชัย กำลังโจมตีแบบถอนรากถอนโคนอยู่ในขณะนี้
“เอาเข้าจริงๆ คนเหล่านี้ก็ยังเป็นเพียงเครื่องมือทางการเมืองของระบอบทักษิณ เพราะถ้าศรัทธาความคิดความเชื่อของตัวเอง อย่างที่พูดก็ต้องออกมาสร้างองค์กรหรือขบวนขึ้นมาใหม่ ซึ่งก็ไม่ง่ายเพราะการเคลื่อนไหวมวลชนของ นปช.เอาเรื่องทักษิณมาเป็นความเป็นความตาย มากกว่าจะเอาชะตากรรมของบ้านเมืองมาเป็นตัวตั้ง จนยากที่จะดึงมวลชนออกมาสร้างชาติใหม่อย่างที่คิด ทำให้ความขัดแย้งของแกนนำ นปช.ถูกมองว่า เป็นเรื่องผลประโยชน์ไม่ลงตัว หรือเป็นปัญหาเรื่องช่วงชิงการนำ มากกว่าปัญหาเชิงอุดมการณ์” นายสุริยะใส กล่าว
