"กลาโหม" สรุปสถิติเหตุร้าย 3 จังหวัดชายแดนใต้ พบสางปมแล้ว 118 คดี เหลืออีก 67 คดีกำลังพิจารณา ด้าน "บิ๊กป้อม" เผย จำนวนก่อเหตุลดลง เพราะประชาชนเริ่มให้ความร่วมมือมากขึ้น แจง ชนวนเหตุก่อคาร์บอมม์รายวัน มีผู้ไม่หวังดีปลุกปั่น-บิดเบือนพระคัมภีร์ อ้างใครก่อเหตุช่วงเดือนรอมฎอน ได้ขึ้นสวรรค์ เหตุร้ายจึงคุกรุ่น
วันนี้ (27 ส.ค.) พ.อ.ธนาธิป สว่างแสง โฆษกกระทรวงกลาโหม แถลงผลการประชุมสภากลาโหม ว่า ที่ประชุมสภากลาโหม มีการสรุปคดีความที่เกิดขึ้นในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ตั้งแต่ปี 2547 จนถึงปัจจุบัน มีคดีทั้งสิ้น 178 คดี ศาลตัดสินไปแล้ว 118 คดี ประหารชีวิต 18 คดี จำคุกตลอดชีวิต 33 คดี และจำคุก 50 ปีลงมา มี 67 คดี และอยู่ในระหว่างการพิจารณา 67 คดี ซึ่งทาง พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ในฐานะประธานสภากลาโหม ได้ตั้งข้อสังเกต 2 ประเด็น ว่า การก่อเหตุในปัจจุบันส่วนใหญ่เป็นการลอบยิงหรือซุ่มยิง โดย พล.อ.ประวิตร กำชับให้หามาตรการให้ระงับเหตุให้น้อยที่สุด โดยเฉพาะที่ทำกับผู้บริสุทธิ์ ทั้งนี้ ประเด็นการลอบวางระเบิด พล.อ.ประวิตร สั่งให้หน่วยงานรับผิดชอบจำกัดอย่าให้เหตุร้ายกระจายพื้นที่ไปบริเวณอื่น ส่วนสถานการณ์โดยรวมในพื้นที่ ตอนนี้เริ่มดีขึ้น หลังจากที่ประชาชนยอมรับและมีการช่วยเหลือส่วนราชการมากขึ้น โดย 1 ปีที่ผ่านมาจะไม่มีการประท้วงการทำงานของเจ้าหน้ารัฐแต่อย่างใด
เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่า ทางกระทรวงกลาโหม ระบุว่าปัญหาภาคใต้ดีขึ้นได้อย่างไร ในเมื่อมีเหตุคาร์บอมม์รุนแรงเกิดขึ้นรายวัน พ.อ.ธนาธิป กล่าวว่า จากการตรวจสอบสถิติย้อนหลังในรอบ 2 – 3 ปีที่ผ่านมา พบว่าเกิดเหตุน้อยลง แต่เพิ่งมารุนแรงมากช่วงนี้ เพราะเป็นช่วงเดือนรอมฎอน ซึ่งหากใครได้รับข่าวสารที่ผิดไปจากคัมภีร์อัลกุรอานว่าใครที่ก่อเหตุช่วงนี้จะได้ขึ้นสวรรค์ ถือเป็นจุดหนึ่งที่ทำให้เกิดสถานการณ์รุนแรงในช่วงนี้