“นายกฯ” ปัดคุย “ชวรัตน์” เคลียร์ใจ อ้างแค่ทักทายกันปกติ หลังดอดกินอาหารญี่ปุ่นกับครอบครัว ยืนยันแก้ปัญหาตั้ง ผบ.ตร.ได้ บอกยังเห็น “ปทีป” เหมาะสม มีคุณสมบัติครบถ้วน ทั้งลดความขัดแย้ง เชื่อ คุย ก.ตร.เข้าใจได้ พร้อมยอมรับผลโพลทำกระทบความเชื่อมั่นประชาชน แต่มั่นใจแก้ไขปัญหาได้
วันนี้ (23 ส.ค.) เมื่อเวลา 11.30 น.นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี เดินทางออกจากอาคารชาเลนเจอร์ 2 ศูนย์แสดงสินค้าอิมแพค เมืองทองธานี ภายหลังเป็นประธานเปิดงาน “โอทอป ช็อปช่วยชาติ OTOP MIDYEAR 2009” ทันที โดย นายอภิสิทธิ์ ยกเลิกการเยี่ยมชมงานมหกรรมวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ 2552 ซึ่งจัดอยู่ที่อาคารอิมแพค ชาเลนเจอร์ ที่อยู่ฝั่งตรงข้าม โดย นายอภิสิทธิ์ ได้เดินทางมายังร้านอาหารญี่ปุ่น “NIPPON-TEI” อาคารเพรสซิเด้นท์ทาวเวอร์ เพื่อรับประทานอาหารกลางวันกับครอบครัว ประกอบด้วยนางพิมพ์เพ็ญ เวชชาชีวะ ภริยา และ น้องปราง เวชชาชีวะ ลูกสาวและมารดาของ นางพิมพ์เพ็ญ
ภายหลังรับประทานอาหารกับครอบครัวในเวลา 13.00 น.นายอภิสิทธิ์ ให้สัมภาษณ์ถึงการหารือกับ นายชวรัตน์ ชาญวีรกูล รมว.มหาดไทย ระหว่างการรอเปิดงานโอทอป ที่อิมแพค เมืองทองธานี ว่า “ไม่มีอะไรเป็นพิเศษก็ทักทายกันตามปกติก่อนที่จะเข้างาน”
เมื่อถามว่า มีการหารือถึงการประชุม ก.ต.ช.นัดใหม่หรือไม่ นายกรัฐมนตรี กล่าวปฏิเสธว่า ยังไม่ได้หารือ เพราะตนบอกแล้วว่าไม่ใช่เรื่องที่ต้องรีบร้อน เมื่อถามว่าท่าทีของนายชวรัตน์เป็นอย่างไรบ้าง นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ก็ปกติดี
เมื่อถามว่า จะมีปัญหาเกี่ยวกับการตั้งรอง ผบ.ตร.หรือไม่ นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ไม่มี ทาง ก.ตร.สามารถเดินหน้าไปได้ถ้าเขาต้องการจะทำ เมื่อถามว่า แต่โดยปกติจะต้องมีเวลาเพื่อให้ผบ.ตร.คนเก่ามอบงานให้กับ ผบ.ตร.คนใหม่ นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า ที่ตนได้สอบถามไปก็มีการชี้แจงว่าทำได้ทั้ง 2 แบบ ซึ่งทาง พล.ต.อ.พัชรวาท วงษ์สุวรรณ ผบ.ตร.ก็บอกกับตนว่า ทาง ก.ตร.จะทำในระดับรองก่อนก็ได้
ผู้สื่อข่าวถามว่า ยังคิดว่าจะสามารถประสานความเห็นที่ต่างใน ก.ต.ช.ให้กลับมามีเอกภาพได้หรือไม่ นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า คิดว่า ควรจะทำอย่างนั้น เมื่อถามว่า คิดว่า ในการประชุม ก.ต.ช.นัดต่อไปจะมีความเห็นไปในทิศทางเดียวกัน และได้ตัว ผบ.ตร.คนใหม่เลยหรือไม่ นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า ก็เป็นหน้าที่ของตนที่ต้องทำให้ได้
เมื่อถามว่า ยังยืนยันที่จะเสนอชื่อคนเดิมหรือไม่ นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า “ผมยืนยันว่า จะต้องตัดสินใจในสิ่งที่ผมคิดว่ามีความเหมาะสมเพื่อประโยชน์ส่วนรวม และต้องการที่จะให้กลไกต่างๆเดินไปอย่างมีเอกภาพได้” เมื่อถามถึงการตัดสินใจเลือก พล.ต.อ.ปทีป ตันประเสริฐ รอง ผบ.ตร.เป็น ผบ.ตร.คนใหม่นั้น พิจารณาจากอะไร นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า ตนได้อธิบายไปในรายการเชื่อมั่นประเทศไทยฯ แล้ว ว่ามี พล.ต.อ.ปทีป มีคุณสมบัติครบ 3 ข้อ
เมื่อถามว่า โพลล่าสุดระบุว่า อำนาจการต่อรอง และการเป็นผู้นำของนายกรัฐมนตรีลดลงจากกรณีการแต่งตั้ง ผบ.ตร.คนใหม่ นายอภิสิทธิ์ กล่าวยอมรับว่า ก็เป็นธรรมดา เวลาที่ไปทำโพลก็จะเอาเหตุการณ์ที่เป็นปัญหาไปถามด้วยตัวเลขก็จะออกมาอย่างนี้ ครั้งแล้วก็ไปถามว่าตัวเลขทางเศรษฐกิจปีนี้เทียบกับปีที่แล้วเป็นอย่างไร จากนั้นก็ถามความเห็นต่อก็เป็นธรรมดา ตนเองก็เรียนสถิติมาเช่นกัน
เมื่อถามว่า แต่ในขณะเดียวกัน ผลโพลก็สนับสนุน พล.ต.อ.ปทีป มากกว่า พล.ต.อ.จุมพล มั่นหมาย รอง ผบ.ตร.อีกคน นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ใช่ ซึ่งตนคิดว่าเป็นเสียงสะท้อน แต่ก็ไม่เป็นปัญหาตนก็ทราบว่าเวลาเกิดเหตุอย่างนี้ประชาชนก็รู้สึกวิตกกังวลเกี่ยวกับสถานภาพของรัฐบาล และเรื่องอื่นๆ แต่ก็เป็นหน้าที่ของตนที่ต้องแก้ไข ต่อข้อถามว่าผลโพลที่ออกมาเช่นนี้จะช่วยทำให้เสียงใน ก.ต.ช.มีเอกภาพมากขึ้นหรือไม่ นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า “ต้องไปถาม ก.ต.ช.ว่า ก.ต.ช.ฟังเสียงสะท้อนเหล่านี้หรือไม่”
ต่อข้อถามว่า มีความมั่นใจแค่ไหนที่จะแก้ปัญหาที่เกิดขึ้นได้ นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ตนต้องแก้ให้ได้ เป็นหน้าที่ของตนที่จะต้องแก้ไขให้ได้ เมื่อถามว่า จะต้องทำความเข้าใจกับกรรมการ ก.ต.ช.ที่เห็นไม่ตรงกับนายกรัฐมนตรี หรือไม่ นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า คงค่อยๆ คุยและสอบถามเหตุผลกัน เพราะบางคนก็ไม่ได้อภิปราย