นายกรัฐมนตรีกล่าวสุนทรพจน์ “The Making of Progressive Thailand” ที่โรงแรมพลาซ่า แอทธินี กรุงเทพฯ พร้อมมั่นใจรัฐบาลเดินหน้าถูกทางด้วยแนวทางสร้างสรรค์ และน้อมนำหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงดำเนินชีวิตตามทางสายกลาง โดยมีศาสตราจารย์ Joseph Stiglitz นักเศรษฐศาสตร์รางวัลโนเบล มาร่วมงานด้วย
วันนี้ (21 ส.ค.) นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี กล่าวสุนทรพจน์ “The Making of Progressive Thailand” ที่โรงแรมพลาซ่า แอทธินี กรุงเทพฯ โดยมีศาสตราจารย์ Joseph Stiglitz นักเศรษฐศาสตร์รางวัลโนเบล มาร่วมงานด้วย
นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า สภาพทั่วไปของปัญหาการเมืองของไทย และสถานการณ์วิกฤตเศรษฐกิจโลก ซึ่งขณะนี้ไทยมีพัฒนาการที่ดี โดยทางรัฐบาลนั้นได้นำแนวทาง “Progressive Approach” ซึ่งเป็นแนวทางการพัฒนามาใช้แก้ปัญหา และมั่นใจว่ารัฐบาลดำเนินการในแนวทางที่สร้างสรรค์ เพื่อประโยชน์สุขของประเทศโดยรวม นับตั้งแต่รัฐบาลเข้ามาบริหารประเทศ โดยมีภารกิจที่สำคัญ 2 ประการ คือ การสร้างความสมานฉันท์ทางการเมือง ควบคู่ไปกับการฟื้นฟูเศรษฐกิจ ซึ่งตระหนักดีว่าสวัสดิการความเป็นอยู่ของประชาชน คือ ศูนย์กลางของงานของรัฐบาล และเป็นหัวใจในการดำเนินการต่างๆ จึงมุ่งมั่นที่จะทำทุกวิถีทางเพื่อให้การเมืองก้าวไปข้างหน้า เศรษฐกิจได้รับการแก้ไข และประชาชนมีศักยภาพในการแข่งขันมากขึ้น
นอกจากนี้ ประเทศไทยยังได้น้อมนำหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงในพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ซึ่งเป็นที่รู้จักไปทั่วโลก ซึ่งมีแนวคิดหลักการดำเนินชีวิตตามทางสายกลาง และสอนการใช้ชีวิตอย่างเป็นกลางและมีเหตุมีผล และใช้ทรัพยากรธรรมชาติอย่างพอเหมาะพอควรและยั่งยืน ดังนั้น รัฐบาลจึงได้ยึดแนวทางนี้และมุ่งมั่นที่จะก่อให้เกิดการพัฒนาอย่างยั่งยืน และประเทศไทยมีศักยภาพสูงสำหรับการเป็น “อู่ข้าวอู่น้ำ” ของโลก และสามารถผลิตและส่งออกอาหาร ในขณะที่ประเทศอื่นๆ ประสบกับปัญหาความมั่นคงทางอาหาร
ทั้งนี้ จุดมั่งหมายและการดำเนินการของรัฐบาลจะสำเร็จได้ จะต้องได้รับความร่วมมือจากภาคส่วน โดยเฉพาะความเป็นหุ้นส่วนระหว่างภาครัฐและเอกชน เพื่อมุ่งไปสู่ทิศทางและเป้าหมายเดียวกันที่จะทำให้ประเทศไทยเจริญก้าวหน้าต่อไป