“ปลัดกลาโหม” แอ่นอกยัน “กองทัพ” พร้อมปกป้องสถาบัน-พลีชีพเพื่อ “ในหลวง” ย้ำ ไม่เคยเพิกเฉยต่อการก้าวล่วงสถาบัน แต่การแสดงท่าทีโอนเอียงข้างใดข้างหนึ่ง อาจเกิดผลกระทบสองด้าน พร้อมการันตี ความจงภักดี ผบ.ทุกเหล่าทัพ เกินร้อย แย้มสัมพันธ์ “กองทัพ-รัฐบาล” ไม่ร้าวฉาน ปัดข่าวมูลเหตุส่วนตัว "ประวิตร" ก่อชนวนกระแสปฏิวัติ
วันนี้ (20 ส.ค.) ที่กระทรวงกลาโหม พล.อ.อภิชาติ เพ็ญกิตติ ปลัดกระทรวงกลาโหม ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีมีความพยายามเสนอร่าง พ.ร.บ.นิรโทษกรรม ให้กับพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย รวมทั้งกลุ่มคนเสื้อแดงต่อการกระทำความผิดที่ผ่านมา ว่า เรื่องนี้ทางรัฐสภาต้องเป็นผู้ดูแล ในส่วนตนยังไม่ได้ศึกษารายละเอียดใดๆ ต้องขอดูร่าง พ.ร.บ.ที่จะถูกเสนอก่อนว่าเป็นอย่างไร แต่เท่าที่คิด เป้าหมายของการออกกฎหมายนิรโทษกรรมครั้งนี้ คงต้องการให้เกิดความสมานฉันท์ในชาติ แต่หากเป็นการออกมาเพื่อ ส.ส.ในสภาที่ทำความผิด ตนคงไม่เห็นด้วย โดยหากสามารถทำสิ่งที่ก่อให้เกิดความสมานฉันท์ในชาติได้แล้ว จะถือเป็นชัยชนะของคนไทยทุกคน
“วันนี้ประเทศเพื่อนบ้านเราเดินหน้าไปมาก แต่เรามามีปัญหาการแบ่งฝักแบ่งฝ่าย ทั้งที่ความจริงแล้วทุกฝ่ายต้องการเห็นความเจริญของชาติ เพียงแต่มีแนวคิดไม่ตรงกัน ดังนั้น จึงต้องทำความเข้าใจกับประชาชนให้เห็นถึงประโยชน์ที่ได้รับจากความสามัคคีของทุกฝ่าย โดยทุกคนจะเรียกร้องระบอบประชาธิปไตยที่มีประสิทธิภาพและเดินหน้าไปอย่างแท้จริง เพราะที่มามีการโต้แย้งคัดค้าน ทำให้เราเดินไปข้างหน้าไม่ได้ ต้องมาแก้ไขปัญหาการเมืองมากกว่าแก้ปัญหาเศรษฐกิจที่เป็นปัญหาในขณะนี้” พล.อ.อภิชาติ กล่าว
เมื่อถามว่า หลายฝ่ายโจมตีจุดยืนของกองทัพในการปกป้องสถาบัน พล.อ.อภิชาติ กล่าวว่า ตนในฐานะเป็นปลัดกระทรวงกลาโหม เป็นนักเรียนเตรียมทหารผ่านการรับพระราชทานกระบี่และปริญญาบัตรจาก พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และทาง ผบ.เหล่าทัพทุกคนก็ผ่านพิธีนี้มาเช่นกัน ดังนั้น เรื่องความจงรักภักดีขอยืนยันว่าทุกคนเกินร้อย ไม่ยอมให้ใครมาทำลายสถาบันแน่นอน
“สิ่งใดที่กระทบกระเทือน หรือระคายเคืองเบื้องพระยุคลบาท เราไม่ยอมเด็ดขาด แต่ที่ไม่ออกมา ดูเหมือนกับว่ากองทัพนิ่งเฉย ไม่ทำอะไร ความจริงไม่ใช่อย่างนั้น เราพร้อมจะตายเพื่อพระองค์ท่านได้ทุกคน ทั้งนี้ เรื่องการวางตัวที่ผ่านมา เรานิ่งไม่ตอบโต้ก็โดน ออกมาพูดอะไรก็โดน จึงเป็นเรื่องยากที่จะวางตัวว่าอยู่ในสถานะใด จึงต้องใช้ความอดทนในการวิพากษ์วิจารณ์ ตัวผมไม่ได้ไปลงชื่อคัดค้านถวายฎีกา เพราะไม่มีใครมาถามผม และไม่มีการติดต่อให้ผมร่วมลงชื่อ แต่มาตำหนิว่าทำไมไม่ลงชื่อ ผม และ ผบ.เหล่าทัพเป็นทหารของ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เราพร้อมปกป้องสถาบันทุกโอกาส โดยทุกอย่างอยู่ที่ใจ” พล.อ.อภิชาติ กล่าว
เมื่อถามว่า กรณีที่กลุ่มคนเสื้อแดงยื่นถวายฎีกาจะกระทบต่อสถาบันในอนาคตหรือไม่ พล.อ. อภิชาติ กล่าว่า เป็นเรื่องของรัฐบาล ซึ่ง นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ได้พยายามดูแลเรื่องนี้อย่างดีที่สุด โดยไม่คิดว่ารัฐบาลจะดึงเรื่องนี้ไว้ เพราะเป็นหน้าที่ของกระทรวงยุติธรรมต้องพิจารณาว่าเป็นการถวายฎีกาหรือร้องขอความเป็นธรรม หากเป็นกรณีใดก็สุดแล้วแต่ทางกระทรวงยุติธรรมจะดูแลพิจารณารายละเอียด
เมื่อถามว่า ความสัมพันธ์ระหว่างกองทัพและรัฐบาลเป็นเช่นไร พล.อ.อภิชาติ กล่าวว่า ไม่มีอะไร ทุกอย่างโอเค และทาง พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ก็ไม่มีปฏิกิริยาอะไร ทำงานปกติ เมื่อถามว่า ที่ผ่านมา มีกระแสข่าวว่าทหารไม่พอใจจะทำการปฏิวัติ พล.อ.อภิชาติ กล่าวว่า ไม่มีการปฏิวัติ ขอยืนยันว่า ไม่มี เรื่องนี้ พล.อ.ประวิตร เข้มแข็งพอ ไม่แสดงปฏิกิริยาให้เห็นว่าไม่พอใจ ไม่เคยแสดงออก และไม่เคยเอาเหล่าทัพเข้าไปยุ่งเกี่ยวกับเรื่องส่วนตัว