อดีตนายทหารราชองครักษ์ ร่วมกับตำรวจ ประชาชน และทนายความพันธมิตรฯ นัดพร้อมกันที่กองปราบปราม 10 โมง พรุ่งนี้ เพื่อยื่นแจ้งความจับ 3 เกลอหัวขวด พร้อมกันในข้อหาช่วยคนผิดไม่ให้ต้องรับโทษ และดูหมิ่นศาล กรณีล่าชื่อถวายฎีกาช่วย “นช.แม้ว” ด้าน “พล.อ.กิตติศักดิ์” เผยทำหน้าที่ตามรัฐธรรมนูญ และในฐานะอดีตทหารราชองครักษ์ เห็นว่าแก๊งเสื้อแดงจาบจ้วงเบื้องสูง และกระทำผิดสำเร็จแล้ว
นายสุวัตร อภัยภักดิ์ ทนายความพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย เปิดเผยว่า ในเวลา 10.00 น.พรุ่งนี้ (15 ส.ค.) ตนพร้อมด้วย พล.อ.กิตติศักดิ์ รัฐประเสริฐ อดีตนายทหารราชองครักษ์ และ พ.ต.ท.พชรเกรียงชัย ศรีหนาท พร้อมด้วยประชาชนจำนวนหนึ่งได้นัดพบกันที่กองบัญชาการกองปราบปราม (ถ.พหลโยธิน เขตจตุจักร ใกล้แดนเนรมิตเก่า) เพื่อแจ้งความร้องทุกข์ต่อเจ้าหน้าที่ตำรวจพร้อมกัน ให้ดำเนินคดีต่อ 3 แกนนำกลุ่มคนเสื้อแดง คือ นายวีระ มุสิกพงศ์ นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ และนายจตุพร พรหมพันธุ์ ในข้อหาให้การช่วยเหลือผู้ต้องหาที่กระทำความเพื่อไม่ให้ต้องโทษ และดูหมิ่นศาล ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 189 และมาตรา 198 ตามลำดับ กรณีที่ทั้ง 3 ได้ดำเนินการล่ารายชื่อประชาชนเพื่อลงชื่อถวายฎีกาขอพระราชทานอภัยโทษให้แก่ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อย่างมิบังควร
พล.อ.กิตติศักดิ์ กล่าวว่า จะไปยื่นแจ้งความร้องทุกข์ร่วมกับประชาชนและตำรวจ ซึ่งถือเป็นการทำหน้าที่ตามรัฐธรรมนูญมาตรา 77 ในฐานะที่ตนเป็นอดีตทหารรักษาพระองค์และนายทหารราชองครักษ์เวร เห็นว่าการล่าชื่อถวายฎีกาครั้งนี้เป็นการจาบจ้วงเบื้องสูง ดึงสถาบันกษัตริย์ลงมาโดยมิบังควร ซึ่งถือว่าทั้ง 3 คนได้กระทำความผิดสำเร็จแล้ว เพราะมีการล่ารายชื่อระดมคนจากทุกแห่งทั่วประเทศ และให้สถานีโทรทัศน์ดีสเตชั่นออกอากาศไปทั่ว นอกจากนี้ยังมีการประกาศจะยื่นถวายฎีกาในวันที่ 7 ส.ค. ก่อนที่จะมีการเลื่อนมาเป็นวันที่ 12 ส.ค. และเลื่อนครั้งสุดท้ายไปเป็นวันที่ 17 ส.ค.นี้
อดีตนายทหารราชองครักษ์ กล่าวต่อว่า เรายื่นแจ้งความร้องทุกข์เพื่อให้การจัดการเรื่องนี้เข้าสู่กระบวนการของเจ้าหน้าที่ที่รับผิดชอบ และเข้าสู่กระบวนการของศาล เพื่อให้พิจารณาตัดสินว่าการกระทำของแกนนำคนเสื้อแดงครั้งนี้เข้าข่ายดูหมิ่นศาลด้วยหรือไม่ เพราะศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง ได้ตัดสินแล้วว่า พ.ต.ท.ทักษิณ กระทำผิด ทั้งนี้ หลังแจ้งความเราจะรอดูภายใน 3-7 วัน ว่าเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ดำเนินการอย่างไรบ้าง มีการเรียกทั้ง 3 คนมาแจ้งข้อกล่าวหาหรือไม่ ถ้ายังไม่ดำเนินการเราจะต้องติดตามเร่งรัดต่อไป
“เราคาดหวังว่าทุกอย่างคงเข้าสู่กระบวนการยุติธรรม ทั้งในขั้นตอนของตำรวจ และศาล ไม่เช่นนั้นเหตุการณ์จะบานปลายไปเรื่อยๆ จนถึงขณะนี้ก็ยังมีการรวบรวมประชาชน ซึ่งคนที่ได้ข้อมูลไม่ครบถ้วน หรือรู้เท่าไม่ถึงการณ์ ก็ตกเป็นเครื่องมือ ความแตกแยกก็รุนแรงมากขึ้นเรื่อยๆ เพราะมีอีกฝ่ายมาขึ้นคัตเอาต์ล่าชื่อคัดค้าน ซึ่งจริงๆ แล้ว เรื่องควรจะไปยุติที่ศาล” พล.อ.กิตติศักดิ์ กล่าว
