“วิเชียร” แจงหนังสือคำสั่งห้ามเข้าพระราชวัง ยกเลิกนานแล้ว

“สุเทพ” เรียก “นิพนธ์-วิเชียร” พบหลังแถลงผลงานรัฐบาล พร้อมปิดปากเงียบไม่เผยหารือเรื่องอะไร ขณะที่ “วิเชียร” อ้ำอึ้งแจงหนังสือ 2 ฉบับที่ถูกห้ามเข้าพระราชวัง ยกเลิกนานแล้ว ถึงได้รับการแต่งตั้ง ยันมีเวลาจะเอาหนังสือให้ดู



วันนี้ (6 ส.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานจากทำเนียบรัฐบาลว่า หลังจากร่วมแถลงผลงานที่ตึกสันติไมตรีในช่วงเช้าแล้ว นายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรี ได้เชิญนายนิพนธ์ พร้อมพันธุ์ เลขาธิการนายกรัฐมนตรี รวมทั้งเรียก พล.ต.อ.วิเชียร พจน์โพธิ์ศรี รักษาราชการแทนผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เข้าพบที่ห้องทำงานภายในตึกบัญชาการ 1 ทำเนียบรัฐบาล

ทั้งนี้ ในเวลา 09.30 น. นายสุเทพเป็นประธานการประชุมคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด ณ ห้องประชุม 501 ชั้น 5 ตึกบัญชาการ 1 ทำเนียบรัฐบาล ขณะที่ พล.ต.อ.วิเชียร ก็ร่วมประชุมด้วย

ต่อมาในเวลา 12.30 น. พล.ต.อ.วิเชียร ได้ลงมาจากตึกบัญชาการ 1 โดยพยายามที่จะเดินขึ้นรถประจำตำแหน่งซึ่งจอดอยู่ห่างตึกบัญชาการ 1 ไปทันที โดยผู้สื่อข่าวได้สอบถามรักษาการ ผบ.ตร.ว่า กระแสข่าวว่ามีหนังสือ 2 ฉบับจากกรมราชองครักษ์และหนังสือจากสำนักงานนายตำรวจราชสำนักประจำสวนจิตรลดา ที่ห้ามตัวรักษาการ ผบ.ตร.เข้าเขตพระราชวัง มีข้อเท็จจริงอย่างไร มีการยกเลิกหรือไม่ พล.ต.อ.วิเชียร กล่าวเพียงสั้นๆ ว่า “มีการยกเลิกไปแล้ว มีการสอบสวนไปแล้ว ไม่มีอะไร” เมื่อถามย้ำว่า มีการยกเลิกหนังสือทั้ง 2 ฉบับ ทั้งจากกรมราชองครักษ์ และหนังสือจากสำนักงานนายตำรวจราชสำนักประจำสวนจิตรลดา แล้วหรือไม่ พล.ต.อ.วิเชียร กล่าวเสียงอ้ำอึ้งว่า “ยกเลิกแล้ว ถึงแต่งตั้งได้ไง มีเวลาแล้วผมจะเอามาให้ดูครับ แล้วก็ยกเลิกมานานแล้ว”

ขณะที่ นายสุเทพ เดินลงมาภายหลังหารือ พร้อมพูดว่า “ตามสัญญา ผมจะพูดวันละหนึ่งครั้ง” ส่วนนายนิพนธ์ปฏิเสธที่จะให้สัมภาษณ์พร้อมขึ้นรถออกจากทำเนียบรัฐบาลทันที

ล่าสุดเวลา 13.00 น.พล.ต.อ.วิเชียร ตอบคำถาม ผู้สื่อข่าวที่ สตช.ถึงเรื่องดังกล่าวอีกครั้งว่า เรื่องดังกล่าวมีการสอบสวนและยุติไปนานแล้ว ส่วนที่มีการนำเรื่องดังกล่าวมาเผยแพร่อีกนั้น พล.ต.อ.วิเชียร กล่าวว่า ก็เป็นเรื่องธรรมดาที่การทำหน้าที่ไปถูกใจใครหรือไม่ถูกใจใคร ส่วนจะมีการกลั่นแกล้งหรือไม่นั้น พล.ต.อ.วิเชียร กล่าวว่า ไม่เป็นไร ตนมีหน้าที่ โดยได้รับคำสั่งจากผู้บังคับบัญชาให้รักษาราชการแทนก็ต้องปฎิบัติหน้าที่ไป และไม่คาดหวังว่าจะได้รับการพิจารณาในตำแหน่งผบ.ตร. ที่จะมีการคัดเลือกในการประชุม คณะกรรมการตำรวจแห่งชาติ (ก.ต.ช.)ภายในเดือนสิงหาคมนี้