เด็กปั้น “เป็ดเหลิม” งานเข้า แหกปากโวยค้านยื่นฎีกาเป็นพวกกลัวเสียอำนาจ ปัดสวะหากเกิดเหตุรุนแรงป็นพวกจ้องสร้างสถานการณ์ สุมไฟตั้งรักษาแทน ผบ.ตร.เท่ากับย่ำยีวงการสีกากี ส่งสัญญาณบีบมากอาจระวังเจอลุกฮือ ย้อนอดีตยุค “เผ่า” เคยนำปฏิวัติมาแล้ว
วันนี้ (14 ส.ค.) นายประชา ประสพดี ส.ส.สมุทรปราการ พรรคเพื่อไทย กล่าวถึงการยื่นถวายฎีกาของกลุ่มคนเสื้อแดงว่า การที่นายอินทร์จันทร์ บุราพันธ์ รองราชเลขาธิการฯ ประสานมายังกลุ่มเสื้อแดงให้เข้ายื่นถวายฎีกานั้น ถือเป็นการสะท้อนว่าราษฎรพสกนิกรของพระองค์สามารถยื่นถวายฎีกาได้ และไม่ได้เป็นการดึงฟ้าต่ำหรือก้าวล่วงอย่างที่มีการกล่าวหา แต่สิ่งที่น่าห่วงกลายเป็นการล่ารายชื่อคัดค้านถวายฎีกาฯ ที่ไม่รู้ว่าจะนำไปยื่นที่หน่วนงานใด ทั้งนี้ เชื่อว่าวันที่ 17 ส.ค.เหตุการณ์จะผ่านไปได้ด้วยดี เพราะคนที่จะไปถวายฎีกาเมื่อเสร็จสิ้นจะแยกย้ายกันกลับ แต่ยังห่วงว่าจะมีคนบางกลุ่มจ้องสร้างสถานการณ์หรือไม่ ส่วนการล่ารายชื่อคัดค้านการถวายฎีกานั้น สะท้อนให้เห็นถึงความกลัวที่จะเสียโอกาสทางการเมืองของคนบางกลุ่ม โดยไม่คำนึงถึงความสงบในสังคม
นายประชา ในฐานะประธานคณะกรรมาธิการกฎหมาย ยุติธรรมและสิทธิมนุษยชน สภาผู้แทนราษฎร กล่าวถึงการแต่งตั้งผู้รักษาราชการแทน ผบ.ตร.ว่า สิ่งที่รัฐบาลทำต่อ สตช.วันนี้ถือเป็นการย่ำยีวงการตำรวจ เอากลไกตำรวจเป็นประโยชน์ทางการเมือง อย่าลืมว่า ผบ.ตร.ก็มีศักดิ์ศรีเทียบเท่า ผบ.ทบ. ผบ.ทอ. และผบ.ทร. และตำรวจก็มีกำลังกระจายอยู่ทั่วประเทศ มีสถานีตำรวจภูธรอยู่ทุกอำเภอ ถ้าลุกฮือขึ้นมาจะเป็นอย่างไร เพราะในอดีต พล.ต.อ.เผ่า ศรียานนท์ อดีตอธิบดีกรมตำรวจ เคยทำการปฏิวัติก็เคยมีให้เห็นกันมาแล้ว ขณะเดียวกัน เวลานี้กลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ก็กำลังย่ำยีศักดิ์ศรี ผบ.ทบ. อาจมีเหตุการณ์ไม่คาดฝันเกิดขึ้นก็ได้ สำหรับกรณีที่นายศิริโชค โสภา ส.ส.สงขลา พรรคประชาธิปัตย์ หรือที่รู้จักกันว่าวอลเปเปอร์นายกฯ นั้น ตนมองว่าเหมือนเป็นชักโครกที่คอยเดินตามหลังนายกฯ มากกว่า การที่ออกมาเปิดเผยข้อมูลการซื้อขายตำแหน่งในวงการตำรวจนั้น ตนจะเชิญนายศิริโชคมาให้ข้อมูล หากไม่มาก็ถือว่ามีความผิดที่ปกปิดข้อมูล ขณะเดียวกันจะเชิญผู้รักษาราชการแทน ผบ.ตร.และจะเชิญผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 7 มาชี้แจงต่อคณะกรรมาธิการฯด้วย รวมทั้งจะขอข้อมูลเรื่องนามบัตรของนักการเมืองด้วย