ปัตตานี – สุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรีฝ่ายความมั่นคงเผย ตั้งเป้าหมายว่าภายใน 3 ปี ชีวิตความเป็นอยู่ของประชาชนจะต้องมีคุณภาพชีวิตความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น เหตุร้ายรายวันจะยุติลงซึ่งรัฐบาลใช้งบประมาณกว่า 36,000 ล้านบาท ในการพัฒนาโครงการต่างสู่ชุมชน
นายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรีฝ่ายความมั่นคง ได้เปิดเผยภายหลังเดินทางมาปฏิบัติราชการที่จังหวัดปัตตานี ถึงการแก้ปัญหาจังหวัดชายแดนภาคใต้ว่า รัฐบาลจะต้องทำให้สำเร็จ โดยตั้งเป้าหมายว่าภายใน 3 ปี ชีวิตความเป็นอยู่ของประชาชนจะต้องมีคุณภาพชีวิตความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น เหตุร้ายรายวันจะยุติลง
รัฐบาลใช้งบประมาณกว่า 36,000 ล้านบาท ในการพัฒนาโครงการต่างสู่ชุมชน เช่น ที่อยู่อาศัย ส่งเสริมอาชีพชาวประมง การเกษตร โดยไม่เลือกปฏิบัติทั้งไทยพุทธและมุสลิม ซึ่งตนเชื่อว่าหากประชาชนในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้มีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น มีความเชื่อมั่นในการปฏิบัติของรัฐบาลและได้รับความเป็นธรรมคงไม่มีใครดิ้นรนไปทำอย่างอื่น
“ได้เร่งรัดการปฏิบัติโครงการต่างๆ ตามแนวทาง เข้าใจ เข้าถึง พัฒนา ที่รัฐบาลได้น้อมรับพระราชดำรัสของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมาเป็นแนวทางปฏิบัติ ซึ่งโครงการทั้งหมด 18,000 ล้านบาท มุ่งการพัฒนายกระดับชีวิตความเป็นอยู่ รายได้ รัฐบาลตั้งเป้าหมายว่าคนจนใน 696 หมู่บ้านจะต้องมีรายได้อย่างต่ำ120,000 บาท/ปี สามารถดำรงชีวิตอยู่ได้อย่างมีความสุข ประชาชนในแต่ละหมู่บ้านมีส่วนร่วมในการดำเนินโครงการ มีผู้นำท้องถิ่น ผู้นำศาสนาเป็นกรรมการ”
นายสุเทพ กล่าวว่า วันนี้ได้เดินทางมาร่วมกับผู้บัญชาการสำนักงานตำรวจแห่งชาติ พล.ต.อ.พัชรวาท วงษ์สุวรรณ เพื่อเร่งรัดการสืบสวน จับกุมผู้กระทำความผิดคดีสำคัญๆ หลายคดี เช่น การยิงชาวบ้านในมัสยิดไอร์ปาแย จ.นราธิวาส ที่ได้มีการประกาศให้รางวัลนำจับ ติดโปสเตอร์ผู้ต้องหา รางวัล 200,000 บาท เราทำทุกวิถีทางที่จะจับกุมผู้กระทำความผิดมาดำเนินคดีให้ได้
ต่อข้อถามถึงข่าวที่มีการกล่าวหากันว่า มีการวิ่งเต้นซื้อขายตำแหน่งในการโยกย้ายตำรวจนั้น นายสุเทพ กล่าวว่า ตนในฐานะประธานคณะกรรมการตำรวจได้ทำหนังสือถึงนายศิริโชค โสภา ให้ช่วยรวบรวมพยานหลักฐานส่งมาให้ด้วย เพื่อจะได้เป็นประโยชน์ในการสืบสวนข้อเท็จจริง หากพบว่ามีการวิ่งเต้นซื้อขายตำแหน่งจริงจะต้องมีการดำเนินคดีทางอาญา
นายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรีฝ่ายความมั่นคง ได้เปิดเผยภายหลังเดินทางมาปฏิบัติราชการที่จังหวัดปัตตานี ถึงการแก้ปัญหาจังหวัดชายแดนภาคใต้ว่า รัฐบาลจะต้องทำให้สำเร็จ โดยตั้งเป้าหมายว่าภายใน 3 ปี ชีวิตความเป็นอยู่ของประชาชนจะต้องมีคุณภาพชีวิตความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น เหตุร้ายรายวันจะยุติลง
รัฐบาลใช้งบประมาณกว่า 36,000 ล้านบาท ในการพัฒนาโครงการต่างสู่ชุมชน เช่น ที่อยู่อาศัย ส่งเสริมอาชีพชาวประมง การเกษตร โดยไม่เลือกปฏิบัติทั้งไทยพุทธและมุสลิม ซึ่งตนเชื่อว่าหากประชาชนในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้มีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น มีความเชื่อมั่นในการปฏิบัติของรัฐบาลและได้รับความเป็นธรรมคงไม่มีใครดิ้นรนไปทำอย่างอื่น
“ได้เร่งรัดการปฏิบัติโครงการต่างๆ ตามแนวทาง เข้าใจ เข้าถึง พัฒนา ที่รัฐบาลได้น้อมรับพระราชดำรัสของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมาเป็นแนวทางปฏิบัติ ซึ่งโครงการทั้งหมด 18,000 ล้านบาท มุ่งการพัฒนายกระดับชีวิตความเป็นอยู่ รายได้ รัฐบาลตั้งเป้าหมายว่าคนจนใน 696 หมู่บ้านจะต้องมีรายได้อย่างต่ำ120,000 บาท/ปี สามารถดำรงชีวิตอยู่ได้อย่างมีความสุข ประชาชนในแต่ละหมู่บ้านมีส่วนร่วมในการดำเนินโครงการ มีผู้นำท้องถิ่น ผู้นำศาสนาเป็นกรรมการ”
นายสุเทพ กล่าวว่า วันนี้ได้เดินทางมาร่วมกับผู้บัญชาการสำนักงานตำรวจแห่งชาติ พล.ต.อ.พัชรวาท วงษ์สุวรรณ เพื่อเร่งรัดการสืบสวน จับกุมผู้กระทำความผิดคดีสำคัญๆ หลายคดี เช่น การยิงชาวบ้านในมัสยิดไอร์ปาแย จ.นราธิวาส ที่ได้มีการประกาศให้รางวัลนำจับ ติดโปสเตอร์ผู้ต้องหา รางวัล 200,000 บาท เราทำทุกวิถีทางที่จะจับกุมผู้กระทำความผิดมาดำเนินคดีให้ได้
ต่อข้อถามถึงข่าวที่มีการกล่าวหากันว่า มีการวิ่งเต้นซื้อขายตำแหน่งในการโยกย้ายตำรวจนั้น นายสุเทพ กล่าวว่า ตนในฐานะประธานคณะกรรมการตำรวจได้ทำหนังสือถึงนายศิริโชค โสภา ให้ช่วยรวบรวมพยานหลักฐานส่งมาให้ด้วย เพื่อจะได้เป็นประโยชน์ในการสืบสวนข้อเท็จจริง หากพบว่ามีการวิ่งเต้นซื้อขายตำแหน่งจริงจะต้องมีการดำเนินคดีทางอาญา