ไข่แม้วสุมหัวถล่ม “มาร์ค” ล้วงโผ ยอมรับคุณธรรม ตร.เลวลง

เพื่อไทยหน้าสลอนนั่งแถลงข่าวโต้ “มาร์ค” แต่งตั้งรักษาราชการแทน ผบ.ตร.ถือเป็นเรื่องผิดธรรมเนียมปฎิบัติ ยอมรับคุณธรรมวงการ ตร.เลวลง ยังตะแบงนายกฯ ก้าวก่ายโผโยกย้าย เอาสีข้างถูลั่นหากนายกฯ ไปตรวจราชการใต้จะต้องแต่งตั้งรักษาการแทนหรือไม่

วันนี้ (14 ส.ค.) ที่พรรคเพื่อไทย นายพร้อมพงศ์ นพฤทธิ์ โฆษกพรรคเพื่อไทย พร้อมด้วย พล.ต.อ.วิรุฬ พื้นแสน ส.ส.สัดส่วนพรรคเพื่อไทย และ พล.ต.ท.ชัชจ์ กุลดิลก ส.ส.สัดส่วนพรรคเพื่อไทย ร่วมกันแถลงข่าวถึงกรณีการแต่งตั้งผู้รักษาราชการแทนผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ โดย พล.ต.อ.วิรุฬ กล่าวว่า ในฐานะที่เคยเป็น ก.ตร.มาก่อน เห็นว่าการบริหารราชการของสำนักงานตำรวจแห่งชาติภายใต้การควบคุมของนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี และนายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรีฝ่ายความมั่นคง โดยเฉพาะการแต่งตั้งผู้รักษาราชการแทน ผบ.ตร.นั้น ผิดปกติ ผิดธรรมเนียมปฏิบัติที่มีมาตั้งแต่สมัยยังเป็นกรมตำรวจจนกระทั่งถึงปัจจุบัน ความจริงการไปปฏิบัติหน้าที่ที่ภาคใต้ของ ผบ.ตร.นั้น สามารถเดินทางไปเช้าเย็นกลับก็ได้ ไม่จำเป็นต้องตั้งรักษาราชการแทน การกระทำของรัฐบาลก่อให้เกิดความสับสนและแตกแยกในสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ซึ่งน่าจะมีผลประโยชน์ทางการเมืองแอบแฝง โดยเฉพาะเรื่องของการแต่งตั้ง จึงเข้าไปแทรกแซงการบริหารงานของข้าราชการตำรวจ ในส่วนของตำแหน่งประธาน ก.ตร.นั้นปกติแล้ว คือ นายกรัฐมนตรีโดยตำแหน่ง ไม่สามารถมอบให้คนอื่นทำหน้าที่แทนได้ แต่นายอภิสิทธิ์กลับแต่งตั้งนายสุเทพเป็นประธาน ก.ตร. ซึ่งขัดต่อระเบียบบริหารราชการแผ่นดิน พ.ศ.2540 จึงเป็นการกระทำที่ไม่ชอบด้วยกฎหมาย และสุดท้ายเมื่อนายสุเทพทำไม่ถูกใจ นายอภิสิทธิ์จึงเข้าไปล้วงลูกเอง

ด้าน พล.ต.ท.ชัชจ์ กล่าวว่า ในฐานะที่ตนรับราชการตำรวจจนกระทั่งเกษียณอายุ ตนเข้าใจความรู้สึกของข้าราชการตำรวจดี วันนี้ตำรวจอึดอัดที่ต้องปฏิบัติงานกับรัฐบาลชุดนี้ ข้าราชการตำรวจรู้สึกหวั่นเกรง ขาดความเชื่อมั่นในการทำตามกฎหมายและอำนวยความยุติธรรม เสียขวัญ เสียกำลังใจ เพราะมีการล้วงลูก ก้าวก่าย ทำลายขนบธรรมเนียมประเพณี ให้ ผบ.ตร.ลงไปปฏิบัติหน้าที่ภาคใต้โดยไม่ระบุหน้าที่ที่ชัดเจน ทั้งๆ ที่ไม่จำเป็นต้องทำถึงขนาดนั้น น่าจะมีจุดประสงค์อะไรบางอย่าง

“ไม่ใช่ไปข่มขวัญข้าราชการตำรวจจนหวาดกลัว แล้วก็ยัดโผลงไปตรงนั้นตรงนี้ เอาคนที่ไม่เหมาะสมมา เอาพวกตัวเองมาเพื่อเตรียมไว้เผื่อมีการเลือกตั้ง ทำให้เกิดความได้เปรียบเสียเปรียบ ซึ่งจะทำให้ระบบคุณธรรมเลวลง ประชาชนก็จะไม่ได้รับความยุติธรรม สำหรับการเดินทาง ไปประเทศฟิลิปปินส์ของนายกรัฐมนตีนั้น ได้แต่งตั้งนายสุเทพรักษาราชการแทน แต่นายสุเทพก็เดินทางไปปฏิบัติราชการที่ภาคใต้ด้วย แล้วแบบนี้จะแต่งตั้งใครรักษาราชการแทน” พล.ต.ท.ชัชจ์กล่าว

ขณะที่ นายพร้อมพงศ์กล่าวว่า ขอตั้งข้อสังเกตว่าการตั้งรักษาราชการแทน ผบ.ตร.น่าจะมีนัยทางการเมืองแอบแฝงซ่อนเร้น เพราะ พล.ต.อ.วีเชียรนั้นมีความสนิทสนมเป็นที่ปรึกษา กกต. ซึ่งกำลังพิจารณาคดียุบพรรคประชาธิปัตย์จากกรณีเงินบริจาค 258 ล้านบาท และเงินที่ได้รับจาก กกต.29 ล้านบาทหรือไม่ และอาจมีการแอบแฝงซ่อนเร้นถึงการโยกย้ายข้าราชการตำรวจทั่วประเทศเกือบ 1 แสน 5 พันคนด้วย วันนี้ ผบ.ตร.กลายเป็นนกขมิ้นเหลืองอ่อนไปแล้ว ไม่รู้ว่าต่อไปหากนายกฯ ต้องเดินทางไปต่างจังหวัดจะต้องตั้งรักษาราชการแทนเหมือนกันหรือไม่ วันนี้สิ่งที่นายกฯ ควรทำกลับไม่ทำ แต่ไปทำในเรื่องที่ไม่ควรทำ