“เกลอหัวขวด” ถือฤกษ์ 13.30 น.ส่ง 1,500 ลิ่อล้อเข้าวังยื่นฎีกา ท้า “มาร์ค” แลกตรวจชื่อ

“เกลอหัวขวด” น้ำลายแตกฟอง บอกอยู่ระหว่างตรวจสอบรายชื่อ เชื่อ หากจัดแจงเอกสารเสร็จชื่ออาจเพิ่มเป็น 6 ล้าน นัด “หางแดง” ก่อการสนามหลวง ถือฤกษ์ 13.30 น.วันที่ 17 ส.ค.ส่ง 1,500 ลิ่วล้อ เข้าวังยื่นรายชื่อฎีกาขอพระราชทานอภัยโทษ “พ่อแม้ว” ด้าน “ไอ้ก้าน” นัดลงพื้นที่โต้รัฐสกัดรายชื่อ นั่งยันนอนยันยื่นฎีกาไม่ผิดกฎหมาย เป็นสิทธิ์ พร้อมท้า “อภิสิทธิ์” แลกรายชื่อกันตรวจสอบ หากใครมั่วให้เข้าคุก

วันนี้ (6 ส.ค.) ที่อิมพีเรียล ลาดพร้าว เมื่อเวลา 13.30 น.กลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยขับไล่เผด็จการแห่งชาติ (นปช.) แดงทั้งแผ่นดิน นำโดย นายวีระ มุสิกพงศ์ ประธาน นปช. นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ โฆษก นปช.และ นายจตุพร พรหมพันธุ์ แกนนำ นปช.ร่วมแถลงถึงการยื่นถวายฎีกาขอพระราชทานอภัยโทษให้ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี

โดย นายวีระ กล่าวว่า ขณะนี้เจ้าหน้าที่กำลังตรวจสอบรายชื่อผู้ที่ยื่นฎีกาและถ่ายเอกสาร รวมทั้งข้อมูลลงในคอมพิวเตอร์ เพื่อเก็บไว้เป็นหลักฐาน ซึ่งตัวเลขตอนต้นที่แจ้งไว้ คือ 5.4 ล้านชื่อ แต่หากตรวจสอบหมดสิ้น อาจจะมีชื่อร่วมถวายฎีกาถึง 6 ล้านชื่อก็ได้ ดังนั้น จึงขอนัดวันเวลาในการยื่นถวายฎีกาโดยชัดเจน เป็นวันที่ 17 ส.ค.เวลา 13.30 น.เป็นฤกษ์ที่เหมาะสม โดยจะมีตัวแทนเข้ายื่นชื่อถวายฎีกาจำนวน 1,500 คน เพื่อขนรายชื่อเข้าไปในพระบรมมหาราชวัง ทั้งนี้ ขอให้ประชาชนที่จะมาร่วมเป็นสักขีพยานมาร่วมได้ที่ท้องสนามหลวง โดยสามารถมาได้ตั้งแต่เช้า โดยคนเสื้อแดงจะจัดเวทีไว้ต้อนรับ แต่จะไม่มีการปราศรัยเรื่องการเมือง แต่อาจจะเปิดเพลง หรือชี้แจงข้อเท็จจริงตามปกติ เพราะถือเป็นวันดี เมื่อเสร็จสิ้นกระบวนการการยื่นถวายฎีกา จะร้องเพลงสรรเสริญพระบารมีร่วมกัน และทยอยเดินทางกลับทันที และจะไม่มีการติดตาม หรือพูดถึงการถวายฎีกาครั้งนี้อีก โดยจะรอให้เป็นไปตามพระบรมราชวินิจฉัย

นายวีระ กล่าวว่า หลังจากที่กลุ่มคนเสื้อแดงจะถวายฎีกา ได้มีการดำเนินการของรัฐบาลหลายกรณี ไม่ว่าจะเป็นการตั้งโต๊ะรวบรวมรายชื่อคนที่อยากถอนชื่อถวายฎีกา ซึ่งไม่สำเร็จ เพราะไม่มีใครไปถอนชื่อ จึงต้องเปลี่ยนเป็นหารายชื่อคนต่อต้าน ไปจนถึงให้นักเรียนมาลงชื่อ หรือให้หน่วยราชการในสังกัดกระทรวงมหาดไทย หรือกรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่นออกใบปลิวโจมตีคนที่ถวายฎีกา หรือการระดมนักวิชาการออกมาบอกว่าการถวายฎีกาผิดกฎหมาย จึงทำให้เราต้องเดินสายลงพื้นที่ตั้งเวทีทำความเข้าใจกับประชาชนในจังหวัดต่างๆ ก่อนวันที่ 17 ส.ค.และขอให้พี่น้องที่ลงชื่อใน กทม.และปริมณฑลออกมาแสดงพลังในวันที่ 17 ส.ค.นี้ ให้คนที่ท้าทายว่าชื่อทั้งหมดเป็นการหลอกลวง เห็นเจตนารมณ์ที่แท้จริงของคนเสื้อแดง

นายณัฐวุฒิ กล่าวว่า กลุ่ม นปช.จะลงพื้นที่ตั้งแต่วันที่ 8 ส.ค.ที่ นนทบุรี 9 ส.ค.ที่ อุดรธานี 10 ส.ค.ที่ เชียงใหม่ 13 ส.ค.ที่ ราชบุรี 14 ส.ค.ที่ ชลบุรี 15 ส.ค.ที่ มุกดาหาร และ 16 ส.ค.ที่นครสวรรค์ เพื่อตั้งเวทีสัญจรชี้แจงให้ประชาชนเข้าใจข้อมูลที่แท้จริง ว่า การถวายฎีกาสามารถทำได้ตามรัฐธรรมนูญมาตรา 190 และการถวายฎีกานั้น ถือเป็นธรรมเนียมปฏิบัติมาตั้งแต่สมัยสุโขทัย ที่ราษฎรที่เป็นทุกข์เดือดร้อนจะร้องขอความเป็นธรรมจากองค์พระประมุข แต่ที่ไม่เคยมีธรรมเนียมปฏิบัติ คือ การรวบรวมรายชื่อเพื่อล้มการถวายฎีกาของประชาชน ซึ่งเกิดขึ้นครั้งแรกในรัฐบาล นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ

นายณัฐวุฒิ กล่าวว่า อยากถามไปถึง นายอภิสิทธิ์ ว่า ต่อไปนี้การถวายฎีกาของประชาชนจะต้องผ่านความเห็นชอบจาก นายอภิสิทธิ์ และรัฐบาลก่อนใช่หรือไม่ และถือเป็นหน้าที่ของรัฐบาลที่จะดูว่าใครถวายฎีกาได้หรือไม่ใช่หรือไม่ และการต่อต้านการถวายฎีกานี้ ขึ้นอยู่กับการรวบรวมรายชื่อให้มีจำนวนมากกว่าคนที่ถวายฎีกาได้ใช่หรือไม่ หมายถึงว่า ต่อไปหากมีคนร้ายที่ถูกกล่าวหาว่าฆ่าคนตาย มีคำพิพากษา จะยื่นถวายฎีกา แต่ญาติผู้เสียชีวิตไปรวมรายชื่อให้มากกว่านักโทษ ฎีกานั้นก็ยื่นไม่ได้ใช่หรือไม่ หรือหากประชาชนมีปัญหากับหน่วยงานของรัฐ อยากร้องทุกข์โดยถวายฎีกา ถ้าหน่วยงานรัฐรู้แล้วระดมคนในสังกัดมาลงชื่อคัดค้าน ฎีกานั้นก็ถวายไม่ได้ใช่หรือไม่

“นายอภิสิทธิ์ รู้หรือไม่ ว่า ที่คนเขาถวายฎีกา เพราะมีความทุกข์ เพราะเขาอยู่ในสังคมที่ปิดถนนเป็นผู้ต้องขัง ปิดสนามบินเป็นผู้ก่อการดี ยึดสะพานเป็นผู้ต้องหา ยึดทำเนียบเป็นรัฐมนตรี ทำไร่เชิงเขาติดตะราง มีบ้านยอดเขาเป็นนายกรัฐมนตรี เป็นพลทหารถูกตีจนตาย คนหนีทหารมาเป็นนายคนตี ถวายฎีกาเป็นพวกล้มเจ้า กบฏยึดอำนาจคือจงรักภักดี นี่คือ สิ่งที่เป็นความทุกข์ของเขา และอยากถามนายอภิสิทธิ์ อีกว่า รายชื่อที่จะเอาไปคัดค้านการถวายฎีกา จะเอาไปยื่นที่ไหน แล้วมีกฎหมายไหนรองรับการรวบรวมรายชื่อดังกล่าว แต่หาก นายอภิสิทธิ์ อยากรู้ว่าประชาชนสนับสนุนใคร ก็ให้ทำประชามติที่มีกฎหมายรองรับ ขอให้ใช้กลไกรัฐที่มีอยู่ในมือให้เต็มที่แล้วถามประชาชนเลยว่าสนับสนุน นายอภิสิทธิ์ หรือ พ.ต.ท.ทักษิณ จะได้รู้ไปเลยว่าอะไรเป็นอะไร” นายณัฐวุฒิ กล่าว

นายณัฐวุฒิ กล่าวว่า ขอท้า นายอภิสิทธิ์ หากยืนยันว่า รายชื่อที่คนเสื้อแดงเกิดจากการหลอกลวง ข่มขู่ ตนพร้อมจะนำสำเนารายชื่อทั้งหมดมอบให้ นายอภิสิทธิ์ ไปตรวจสอบ ขณะเดียวกันเพื่อความบริสุทธิ์ใจ จะขอตรวจสอบรายชื่อที่อ้างว่าต่อต้านการถวายฎีกาที่มหาดไทยรวบรวมไว้ด้วย ถ้าในชื่อของคนเสื้อแดงมีชื่อมั่วขึ้นมา ตนพร้อมเข้าคุก ในขณะเดียวกันหากในชื่อของกระทรวงมหาดไทยมีคนที่ไม่รู้เรื่องอยู่ด้วย นายอภิสิทธิ์ ก็เข้าคุกแทนตน เอาอย่างนั้นหรือไม่ เพราะได้ยินเสียงบ่นจากประชาชนในหลายจังหวัด ว่า ไปให้ลงชื่อใช้สนามกีฬา หรือลงชื่อถวายพระพร แล้วก็แกะใบปะหน้ามาใส่ว่าเป็นการต่อต้านถวายฎีกา ถ้า นายอภิสิทธิ์พร้อม ก็ให้มาแลกข้อมูลกันอย่างยื่นหมูยื่นแมว เราพร้อมให้ตรวจสอบ แต่อย่าทำอย่างหมาลอบกัด

นายจตุพร กล่าวว่า สำหรับการนัดรวมพลในวันที่ 17 ส.ค.นี้ คนเสื้อแดงจะไม่เข้าไปยุ่งบริเวณศาลฎีกา เพราะเป็นอำนาจศาล ดังนั้น ศาลไม่จำเป็นต้องเลื่อนการอ่านคำพิพากษาคดีกล้ายางที่มี นายเนวิน ชิดชอบ เป็นผู้ต้องหา ส่วนคนเสื้อสีน้ำเงินที่จะมาให้กำลังใจก็เชิญตามสบาย แต่อย่าให้เข้ามาสร้างความปั่นป่วนในพื้นที่สนามหลวงที่คนเสื้อแดงชุมนุมอยู่ ขอให้ต่างคนต่างอยู่ อย่างไรก็ตาม เชื่อว่า จะไม่มีการเผชิญหน้ากัน เพราะเราไม่ได้ชุมนุมยืดเยื้อ เมื่อถวายฎีกาเสร็จก็เดินทางกลับ ส่วน นายอภิสิทธิ์ หากเห็นว่าการถวายฎีกาของคนเสื้อแดงผิดกฎหมาย ก็ขอให้แจ้งความดำเนินคดีเลย อย่ามัวแต่พูด คดีระหว่างตนกับ นายอภิสิทธิ์ ก็มีอยู่ เพิ่มอีกสักคดีก็ไม่เป็นไร และขอเรียกร้องให้คนเสื้อแดงทั้งหมดออกมาให้เยอะในวันที่ 17 ส.ค.ซึ่งอาจจะมากกว่าวันที่ 8 ส.ค.ที่มีคนร่วมแสนออกมาแสดงพลังกัน