xs
xsm
sm
md
lg

“เทพไท” หนุน “หล่อเล็ก” นั่งโฆษก รบ. ชี้เข้าใจสื่อ-ตลาดเจ๋ง

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

เทพไท เสนพงศ์
โฆษกส่วนนายกฯ สวนกลับเพื่อไทย ส่งนักการเมืองนอกสภา ออกมาเรียงหน้าวิจารณ์ผลงานรัฐบาลในลักษณะบิดเบือนคลาดเคลื่อน ปัด เสียบเก้าอี้ “โฆษก รบ.” หนุน “หล่อเล็ก” เหมาะสม เข้าใจสื่อ-เก่งการตลาด มั่นใจรัฐบาล ไม่ถูกรถดับเพลิงพุ่งชน


วันนี้ (11 ส.ค.) นายเทพไท เสนพงศ์ โฆษกประจำตัวหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกรณีที่พรรคเพื่อไทยออกมาวิพากษ์วิจารณ์ผลงานของรัฐบาล 6 เดือนที่ผ่านมาว่า น่าเสียดายที่ไม่มี ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง ประธาน ส.ส.พรรคเพื่อไทย มาร่วมแถลงด้วย แต่กลับปล่อยให้นักการเมืองนอกสภา ที่เป็นกรรมการเฝ้าพรรค ออกมาเรียงหน้าวิจารณ์ผลงานรัฐบาล ซึ่งมีความคลาดเคลื่อนกับข้อเท็จจริง 5 ประการ คือ 1.กรณีที่ นายปานปรีย์ พหิทธานุกร รองหัวหน้าพรรค ระบุว่า มองไม่เห็นสัญญาณว่าเศรษฐกิจไทยจะฟื้นตัวตามที่นายกรัฐมนตรีได้แถลง ซึ่งหากไปดูตัวเลขทางเศรษฐกิจที่ นางธาริษา วัฒนเกส ผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ที่ออกมาระบุว่า ในไตรมาสที่ 2 เศรษฐกิจไทยมีแนวโน้มที่ดีขึ้น และนักวิเคราะห์เศรษฐกิจ นักวิชาการ หรือความเห็นจากภาคธุรกิจทั้งประธานหอการค้า และการท่องเที่ยวก็เริ่มฟื้นตัว จึงมีเพียงพรรคเพื่อไทยที่แสดงความเห็นเป็นอคติ ซึ่งทำให้ประชาชนเข้าใจผิด

นายเทพไทกล่าวต่อว่า 2.ในส่วนของราคาน้ำมันมีการให้ข่าวบิดเบือนว่าปล่อยให้ราคาน้ำมันสูงขึ้นเรื่อยๆ จนกระทบการภาคธุรกิจการลงทุน และต้นทุนทางธุรกิจ ยอมรับว่าราคาน้ำมันมีส่วนกระทบ แต่ที่ผ่านมารัฐบาลสมัย นายสมัคร สุนทรเวช อดีตนายกฯ เคยปล่อยให้ราคาน้ำมันสูงถึงลิตรละ 42 บาท ขณะที่รัฐบาลพยายามควบคุมราคาน้ำมันดีเซลไม่ให้สูงกว่าลิตรละ 30 บาท โดยจะมีการลดราคาลงมาอีก 2 บาท โดยลดจากการจัดเก็บเงินเข้ากองทุนน้ำมัน 3.กรณีที่ระบุว่านโยบายเช็คช่วยชาติ 2,000 บาท ล้มเหลว เพราะได้ประโยชน์เพียงคนกลุ่มเดียว แต่ละเลยคนที่เป็นรากหญ้านั้น ขอชี้แจงว่าไม่เป็นความจริง เพราะล่าสุดคณะเศรษฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ได้ประเมินและวิจัยออกมาแล้วว่า เช็คช่วยชาติของรัฐบาลเป็นการกระตุ้นเศรษฐกิจดีที่สุด โดยให้คะแนน 7 เต็ม 10 ว่า ได้ผล ส่วนที่บอกว่าคนชนบทไม่ได้รับเช็คช่วยชาตินั้น เราให้ประชาชนที่อยู่ในเครือข่ายของประกันสังคม ส่วนประชาชนในชนบทรัฐบาลก็มีการชดเชยในเรื่องอื่น เบี้ยกตัญญูผู้สูงอายุ เงิน อสม.และ 5 มาตรการในการช่วยเหลือทางเศรษฐกิจเพื่อลดรายจ่ายภาคครัวเรือน รวมทั้งโครงการถนนไร้ฝุ่น โครงการระบบชลประทานในภาคอีสาน ซึ่งลงทุนนับหลายหมื่นล้านบาทที่กระตุ้นเศรษฐกิจในส่วนนี้

โฆษกประจำตัวหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า 4.กรณีที่ นายปลอดประสพ สุรัสวดี ที่ระบุว่า รัฐล้มเหลวในการแก้ไขราคาผลผลิตการเกษตร ทำให้ราคาตกต่ำ ขอชี้แจงว่า รัฐบาลพยายามแก้ไขปัญหานี้ และขณะนี้ราคาสินค้าเกษตรก็ทรงตัวอยู่ในราคาที่น่าพอใจ หากเทียบกับตัวเลขของสินค้าราคาเกษตรรัฐบาลชุดก่อน เช่น การเอาเงิน 4.8 พันล้านบาทไปรับจำนำลำไย และเสียหายกว่า 3 พันล้านบาท จนทำให้รัฐบาลปัจจุบันต้องรับภาระในการทำลาย โดยใช้งบประมาณไปกว่า 90 ล้านบาท นอกจากนี้ ยังพบอุปสรรคและปัญหาจำนวนมากเกี่ยวกับการรับจำนำสินค้าเกษตรของรัฐบาลที่ผ่านมา แต่รัฐบาลชุดนี้ก็มาปรับเปลี่ยนจากการแทรกแซง จำนำ มาเป็นการประกันราคาพืชผลแทน ซึ่งเป็นการแก้ไขปัญหาที่ต้นเหตุและยั่งยืน

นายเทพไทกล่าวต่อว่า 5.ที่พรรคเพื่อไทยระบุว่าการมีนโยบายออกโฉนดชุมชน โดยแบ่งพื้นที่เขตทำกินจากป่าเสื่อมโทรม เพื่อให้ประชาชนได้ใช้สิทธิอย่างเต็มที่ก็มีเสียงวิจารณ์จากนายปลอดประสพ ว่า รัฐบาลกำลังจะเอาพระออกจากป่า ซึ่งจะสร้างปัญหาในอนาคตนั้น ตนขอชี้แจงว่า รัฐบาลไม่มีนโยบายเอาพระออกจากป่า แต่นายปลอดประสพต่างหากที่มีนโยบายเอาเสือออกจากกรงนำส่งไปยังประเทศจีน จนที่สุดต้องโดนมติให้ไล่ออกจากการเป็นข้าราชการ ทั้งหมดตนคิดว่าเป็นการวิจารณ์ที่บิดเบือน คลาดเคลื่อนกับข้อเท็จจริง ส่วนข้อเสนอ 9 ข้อ ที่นายปานปรีย์ระบุว่า เป็นเรื่องจำเป็นเร่งด่วนที่ต้องรีบดำเนินการนั้น ก็เป็นเรื่องที่รัฐบาลได้ดำเนินการมาแล้วทั้งสิ้น ทั้งนี้ ยืนยันว่าทั้ง 9 ข้อ รัฐบาลเต็มใจรับฟังคำชี้แนะ ซึ่งรัฐบาลได้พยายามทำอยู่

นายเทพไทกล่าวว่า โดยเฉพาะการวิจารณ์จากหัวหน้าพรรคเพื่อไทยที่ระบุว่ารัฐบาลล้มเหลวโดยสิ้นเชิงในผลงาน 6 เดือนนั้น ตนอยากให้เปรียบเทียบกับผลงานในรอบ 9 เดือนของรัฐบาลนายสมัคร และบวกกับ 3 เดือนของรัฐบาล นายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ อดีตนายกฯ จะพบว่า ต่างกันโดยสิ้นเชิง คือ พยายามแก้รัฐธรรมนูญปี 50 จนป็นต้นเหตุของการชุมนุมกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย จนสร้างความแตกแยกมาจนถึงปัจจุบัน การโยกย้ายข้าราชการในระดับอธิบดีในกระทรวงยุติธรรม เพื่อช่วยคดีความของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ การปล่อยให้ราคาน้ำมันสูงมากที่สุดเป็นประวัติการณ์ลิตรละ 42 บาท และการขึ้นราคาน้ำตาลอีกกิโลละ 5 บาท ซึ่งไม่เคยมีมาก่อน และที่สำคัญ คือ การเสียดินแดนเขาพระวิหารให้กับประเทศเพื่อนบ้าน ส่วนรัฐบาลสมชายที่มีผลงานประทับใจประชาชนคือ การใช้กำลังเจ้าหน้าที่ปราบปรามประชาชนเมื่อวันที่ 7 ต.ค.2551

“รัฐบาลนี้ที่ผ่านมา 6 เดือน ร้อยมาตรการ หลายล้านความสุข ชัดเจนแล้วว่านโยบายชุดนี้ อย่างน้อยมีเกือบ 20 ล้านคนที่เข้าถึงนโยบายนี้ ทั้งผู้สูงอายุ เจ้าหน้าที่ อสม. และนักเรียนทั่วประเทศที่เรียนฟรี เพราะฉะนั้น การบริหารงานภายใต้ข้อจำกัดด้านงบประมาณของรัฐบาลชุดนี้ ภายใต้เศรษฐกิจวิกฤตทั่วโลก และความขัดแย้งของคนในชาติ รวมทั้งปัญหาการเมืองในชาติ จึงคิดว่าผลงาน 6 เดือนของรัฐบาลถือว่าประสบความสำเร็จไม่เป็นไปตามที่พรรคเพื่อไทยวิจารณ์อย่างแน่นอน” นายเทพไทกล่าว

นายเทพไทให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่มีข่าวว่านายกรัฐมนตรีกำลังจะหาโฆษกรัฐบาลคนใหม่ว่า ให้ไปถาม นายศิริโชค โสภา ส.ส.สงขลา พรรคประชาธิปัตย์ แต่สำหรับตนอยู่ในตำแหน่งนี้ก็พอใจแล้ว เพราะสามารถทำงานให้กับนายกฯ ได้อยู่แล้ว และหากจะไปเป็นโฆษกรัฐบาลก็ต้องลาออกจากการเป็น ส.ส. ไม่เช่นนั้นจะขัดรัฐธรรมนูญ มาตรา 265-266 ดังนั้น จึงควรหาคนที่ไม่มีผลกระทบ หรือคนที่เป็น ส.ส.ซึ่งนายกฯ ก็ยอมรับว่า ได้มองบุคลากรในพรรคไว้หลายคน หากเป็น ส.ส.ก็น่าจะเป็น ส.ส.สัดส่วน เพราะไม่ต้องมีการเลือกตั้งซ่อม สามารถเลื่อนลำดับต่อไปขึ้นมาได้เลย นอกจากนี้ ยังคัดจากบุคคลที่เป็นนักการเมืองในพรรคที่ไม่ได้เป็น ส.ส.ได้เช่นกัน

เมื่อถามว่า มีการระบุถึงนายอภิรักษ์ โกษะโยธิน ที่ปรึกษานายกฯ คิดว่าเหมาะสมหรือไม่ โฆษกประจำตัวหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า ตนยังไม่เจอหรือได้พูดคุยกับนายอภิรักษ์ว่าจะรับตำแหน่งนี้หรือไม่ แต่โดยส่วนตัวเห็นว่ามีความเหมาะสม เพราะนายอภิรักษ์เข้าใจสื่อ มีความรู้เชี่ยวชาญด้านการตลาด เคยผ่านตำแหน่งผู้บริหารมาแล้ว คุณวุฒิ วัยวุฒิก็เหมาะสม และตำแหน่งนี้โดยข้อเท็จจริงนายกฯ จะเป็นผู้เลือกเข้ามาทำหน้าที่นี้เอง

เมื่อถามต่อว่า นายอภิรักษ์ยังติดคดีการจัดซื้อรถและเรือดับเพลิงของ กทม.ไม่กลัวว่ารถดับเพลิงจะชนแล้วกระทบกับ ครม.หรือไม่ นายเทพไทกล่าวว่า กรณีคดีรถดับเพลิงอยู่ในระหว่างการดำเนินการ ซึ่งขณะนี้นายอภิรักษ์มีตำแหน่งเป็นที่ปรึกษานายกฯ หากมาทำหน้าที่โฆษกรัฐบาลก็ถือว่าไม่แตกต่างกัน เพราะถือว่าเป็นตำแหน่งทางการเมืองเหมือนกัน
กำลังโหลดความคิดเห็น