“ปลัดกลาโหม” ลั่นกองทัพไม่กลัวการเมืองล้วงลูกโยกย้ายทหาร ปัดวิจารณ์โผตร.ถูกนักการเมืองซื้อตำแหน่ง เชื่อ ผบ.ตร.ไม่เช่นนั้น จี้ ยธ.รับผิดชอบ “แดงถ่อย” ยื่น "ฎีกาทรพี" ชี้ สังคมไทยวิกฤต คนขาดสำนึก บูชานักการเมืองเก่งแต่ชอบโกง แนะรัฐเร่งทำความเข้าใจ ปชช.ไม่ให้ถูกล่อลวงไปทำในสิ่งผิด
วันนี้ (6 ส.ค.) พล.อ.อภิชาติ เพ็ญกิตติ ปลัดกระทรวงกลาโหม ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีความวุ่นวายในสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (สตช.) ในเรื่องการแต่งตั้งโยกย้ายนายตำรวจ ว่า เรื่องนี้คงไม่ขอออกความคิดเห็น เพราะขณะนี้ยังไม่เห็นถึงความกระจ่างเรื่องนี้ ว่าจะจบลงเช่นไร เมื่อถามว่า มีปัญหาเรื่องการปรับโครงสร้าง และการซื้อตำแหน่งว่าจะกระทบต่อภาพรวมของข้าราชการหรือไม่ พล.อ.อภิชาติ กล่าวว่า ตำรวจมี พ.ร.บ.ตำรวจอยู่แล้ว ดังนั้น ต้องว่ากันไปตามนั้น ส่วนของพลเรือนก็มี พ.ร.บ.ข้าราชการพลเรือน อยู่ ด้านกองทัพก็มี พ.ร.บ.กระทรวงกลาโหม จึงแยกออกจากกันอย่างชัดเจน
สำหรับกรณีที่มีกระแสข่าวว่ามีการล้วงลูกโผโยกย้ายนายตำรวจด้วยซื้อตำแหน่งผ่านทางนักการเมือง พล.อ.อภิชาติ กล่าวว่า เรื่องนี้ไม่ขอวิจารณ์เช่นกัน แต่เท่าที่ได้สัมผัสกับ พล.อ.พัชรวาท วงษ์สุวรรณ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) ท่านเป็นคนตรง ไม่มีปัญหา การจะฝากฝังใครก็ดูตามความถูกต้องและหลักอาวุโส เชื่อได้ว่าท่านจะไม่ทำอะไรในสิ่งที่ไม่ถูกต้อง ขณะที่กรณี กองทัพกลัวการเมืองจะเข้ามาล้วงลูกโผปรับย้ายทหารประจำปีหรือไม่ พล.อ.อภิชาติ กล่าวว่า ขณะนี้ยังไม่มีการล้วงลูกแต่อย่างใด
นอกจากนี้ พล.อ.อภิชาติ ยังได้ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่กลุ่มคนเสื้อแดงพยายามล่ารายชื่อยื่นถวายฎีกาขอพระราชทานอภัยโทษให้แก่ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ว่า เป็นเรื่องที่กองทัพจะต้องพยายามชี้แจงทำความเข้าใจให้ประชาชนทราบถึงข้อมูลที่ถูกต้อง ซึ่งทางกระทรวงยุติธรรมได้ชี้แจงไปแล้วในแง่ของกฎหมาย เพราะกระทรวงยุติธรรมต้องรับผิดชอบในขั้นตอนการถวายฎีกา ส่วนที่มีหลายฝ่ายออกมาท้วงติงว่า การดำเนินการดังกล่าว ถือว่าล่าช้าไปหรือไม่ เพราะกลุ่มคนเสื้อแดงใกล้ยื่นถวายฎีกาแล้ว พล.อ.อภิชาติ กล่าวว่า ล่าช้าก็ยังดีกว่าไม่ทำ เรื่องนี้ตนได้เปิดประเด็นมาตั้งแต่เขาเริ่มล่ารายชื่อว่า เรื่องนี้เป็นความรับผิดชอบของกระทรวงยุติธรรมในแง่ของกฎหมาย ว่า จะสามารถดำเนินการได้แค่ไหน
ทั้งนี้ เมื่อถามถึงกรณี การยื่นถวายฎีกาฯดังกล่าว ถือว่าเป็นสิ่งไม่เหมาะสม เพราะเป็นการหลอกลวงประชาชนหรือไม่ พล.อ.อภิชาติ กล่าวว่า เป็นความเข้าใจที่ผิดพลาด เนื่องจากไม่ได้ศึกษากฎหมายกันอย่างรอบคอบ ซึ่งขณะนี้ยังไม่มีใครออกมาชี้ถูกชี้ผิดได้ เพียงแต่สิ่งที่ทำยังไม่เหมาะสมในขณะนี้ สำหรับกรณีที่ นายวีระ มุสิกพงศ์ แกนนำกลุ่มคนเสื้อแดง เคยถวายฎีกาขอพระราชทานอภัยโทษนั้นอาจลืมไปแล้ว เรื่องที่เกิดขึ้นมันผ่านมานานแล้ว ตั้งแต่ตนเคยรับราชการอยู่กองทัพภาคที่ 1 ซึ่งเป็นเหตุที่ขณะนั้น นายวีระโดนข้อหาหมิ่นพระบรมเดชานุภาพ
ส่วนกรณีที่ กลุ่มคนเสื้อแดงยังพยายามดำเนินการเรื่องนี้อย่างต่อเนื่อง พล.อ.อภิชาติ กล่าวว่า คงต้องช่วยกันชี้แจงว่าสิ่งที่เขาทำนั้นไม่ถูกขั้นตอน หากยุติได้น่าจะยุติ แต่เป็นเรื่องที่รัฐบาลต้องเข้ามาดูแล ทำเรื่องนี้ให้ถูกต้อง เมื่อถามว่า กลุ่มคนเสื้อแดงยืนยันจะชุมนุมเพื่อล่ารายชื่อยื่นถวายฎีกา พล.อ.อภิชาติ กล่าวว่า ถ้าเป็นการชุมนุมโดยสงบ คงไปห้ามอะไรไม่ได้ แต่สิ่งที่จะทำต่อไป คือ เรื่องของการถวายฎีกาต้องเป็นไปตามขั้นตอน โดยอาจจะยื่นต่อสำนักราชเลขาธิการสำนักพระราชวัง ก็ได้ เมื่อถามว่า ผู้บัญชาการเหล่าทัพ มีการประเมินสถานการณ์อย่างไรหากกลุ่มคนเสื้อแดงยื่นถวายฎีกา พล.อ.อภิชาติ กล่าวว่า ผบ.เหล่าทัพคุยกันเรื่องการพยายามทำความเข้าใจชี้แจงกับประชาชนถึงข้อเท็จจริง
เมื่อถามว่า อยากฝากให้ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี สั่งให้กลุ่มคนเสื้อแดงหยุดการยื่นถวายฎีกาฯ หรือไม่ พล.อ.อภิชาติ กล่าวว่า คงแล้วแต่ความคิดของ พ.ต.ท.ทักษิณ เอง กองทัพคงไปชี้แจงหรือเสนอแนะไม่ได้ ซึ่ง พ.ต.ท.ทักษิณ ก็เป็นคนเก่ง คงคิดเองได้ว่า อะไรถูกหรือผิด เมื่อถามว่า ขณะนี้คนไทยขาดจิตสำนึกในสิ่งที่ควรทำกับไม่ควรทำ พล.อ.อภิชาต กล่าวว่า อาจจะวิวัฒนาการในทางที่ไม่ถูกต้อง เราต้องพยายามปลูกฝังทำความเข้าใจในเรื่องจริยธรรมและคุณธรรมให้แก่ประชาชนมากยิ่งขึ้น
“ขณะนี้มองกันว่า นักการเมืองถ้ามีการทุจริตคอร์รัปชัน ถ้ายังทำงานมีประโยชน์ให้กับประเทศชาติ ก็ยังถือว่าดีกว่า นักการเมืองที่ทุจริตและไม่ทำอะไรให้แก่ประเทศชาติเลย ดังนั้น จึงกลายเป็นแนวความคิดที่ว่า ทุจริตไม่น่าจะผิดมากนัก ถ้าหากยังทำประโยชน์ให้กับประเทศชาติได้ แต่ในความเป็นจริงแล้ว ทุจริตก็ผิดทั้งนั้น ไม่ว่าจะทุจริตด้วยการทำประโยชน์หรือไม่ทำประโยชน์ก็ตาม ถือเป็นปัญหาของสังคมที่ต้องช่วยกันแก้ไข และทำความเข้าใจกับประชาชน” พล.อ.อภิชาต กล่าว
