“เทพไท” ย้อน “เพื่อไทย”อย่าปั้นน้ำเป็นตัว สร้างเรื่องเกาเหลา “เทพเทือก-บัญญัติ” หวังโกยคะแนนเสียง แนะเร่งพื้นที่หาเสียงดีกว่า คุยส่งขุนพลพรรคลุยหาเสียงช่วยศึกเลือกซ่อม ท้า “ปชป.-พท.” ต้องพิสูจน์ศรัทธาจากประชาชน ขณะที่ “ประพันธ์” เตือนรัฐมนตรีลงพื้นที่ช่วยหาเสียงระวังอย่าใช้ตำแหน่งหน้าที่ ชี้ผิด กม.
วันนี้ (5 ส.ค.) นายเทพไท เสนพงศ์ โฆษกประจำตัวหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงการเลือกตั้งซ่อม จ.สุราษฎร์ธานี ว่าที่ฝ่ายยุทธศาสตร์ของพรรคเพื่อไทยจะทุ่มเทอย่างเต็มที่เพื่อตอกลิ่มรอยร้าวของนายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรีฝ่ายความมั่นคง และนายบัญญัติ บรรทัดฐาน กรรมการสภาที่ปรึกษาพรรคประชาธิปัตย์ ที่มีความขัดแย้งอย่างรุนแรง ที่ทำให้พ่ายแพ้การเลือกตั้งองค์การบริหารส่วนจังหวัด (อบจ.) มาแล้วนั้น ขอชี้แจงว่าพรรคประชาธิปัตย์ไม่มีร้อยราวใดๆเกิดขึ้น ไม่ว่าจะเป็นนายสุเทพหรือนายบัญญัติหรือกับใครก็ตาม เพราะพรรคในวันนี้มีเพียงหนึ่งเดียว และมีความเป็นเอกภาพสูงสุด
“การเลือกตั้งซ่อมใน จ.สุราษฎร์ฯ ครั้งนี้ ไม่อยากให้พรรคเพื่อไทยบิดเบือนข้อเท็จจริง เพื่อหวังผลในคะแนนเสียงจากประชาชน และการแข่งขันครั้งนี้ไม่ใช่เรื่องการแข่งขันระหว่างตระกูลเทือกสุบรรณ กับวิชัยดิษฐ เพราะทั้ง 2 ตระกูลเป็นเครือญาติกัน” นายเทพไทกล่าว
นายเทพไทกล่าวต่อว่า รูปแบบการหาเสียงของพรรคก็คงจะใช้รูปแบบหาเสียงตามแนวทางเดิมของพรรคที่จะมีการกำหนดจุดปราศรัยในพื้นที่ต่างๆ ทั้งระดับชุมชนและอำเภอ ซึ่งถือว่าเป็นวัฒนธรรมทางการเมืองของภาคใต้ที่รับสืบทอดกันมาเป็นระยะเวลานาน ซึ่งจะมีขุนพลของพรรคระดมกำลังลงในพื้นที่อย่างพร้อมเพรียง โดยเฉพาะอย่างยิ่งนายสุเทพเจ้าของพื้นที่เดิม ที่จะลงไปช่วยเสียงในครั้งนี้ ทุกวันศุกร์ เสาร์ อาทิตย์ ซึ่งเป็นเวลานอกราชการ
“พรรคยังหวังว่าศรัทธาของพี่น้องประชาชนที่มีต่อพรรคประชาธิปัตย์ ยังเหนียวแน่นเหมือนเดิม และจะไม่ประมาทคู่ต่อสู้ในการเลือกตั้งครั้งนี้ ทุกคนที่เป็น ส.ส.ของพรรคก็จะระดมกำลังไปช่วยเลือกตั้งอย่างพร้อมเพรียงกัน และอยากจะเรียกร้องให้พรรคเพื่อไทยมาต่อสู้ทางการเมืองในสนามเลือกตั้งนี้ภายใต้กรอบกติกาที่ถูกต้องตามกฎหมาย อย่านำแนวทางการหาเสียงของพรรคเพื่อไทยมาทำลายวัฒนธรรมทางการเมืองของภาคใต้เลย” นายเทพไทกล่าว
นายเทพไทกล่าวว่า ในอดีต ดร.ธวัช วิชัยดิษฐ พี่ใหญ่ของตระกูลนี้เคยเป็นเลขาธิการนายกรัฐมนตรี สมัยนายชวน หลีกภัย และเป็น ส.ส.สุราษฎร์ธานี ของพรรคประชาธิปัตย์หลายสมัย แต่การเลือกตั้งครั้งนี้เป็นการแข่งขันทางการเมือง ระหว่างพรรคประชาธิปัตย์ และพรรคเพื่อไทย ที่ต้องพิสูจน์ศรัทธาประชาชนว่าใครจะได้รับการสนับสนุนมากกว่ากัน และเป็นเรื่องที่น่ายินดีที่พรรคเพื่อไทยได้ประกาศระดมแกนนำของพรรคลงพื้นที่ช่วยหาเสียง โดยเฉพาะผลักดันให้คนในตระกูลชินวัตรลงไปเป็นแม่ทัพใหญ่บัญชาการด้วยตัวเอง ซึ่งอาจทำให้บรรยากาศการเลือกตั้งเข้มข้นมากยิ่งขึ้น แต่ไม่อยากให้พรรคเพื่อไทยใช้ยุทธวิธีการหาเสียงเหมือนในอดีตที่ผ่านมา ซึ่งเคยใช้แนวทางหาเสียงเลือกตั้งซ่อมนำร่องใน จ.สงขลา เมื่อ พ.ศ.2547 แทนนายไพร พัธโน อดีต ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ ที่ได้ระดมทุนลงไปในพื้นที่นับร้อยล้าน แต่ก็ได้รับบทเรียนจากคน จ.สงขลา ในการเลือกตั้งครั้งนั้นอย่างเจ็บปวดที่สุด
ขณะที่ นายประพันธ์ นัยโกวิท กกต.ด้านบริหารการเลือกตั้ง กล่าวว่า วันนี้ (5 ส.ค.) เป็นวันแรกของการเปิดรับสมัครเลือกตั้งซ่อม ส.ส.สุราษฎร์ธานี เขต 1 โดย กกต.จังหวัดได้ดำเนินการเตรียมการทุกอย่างไว้เรียบร้อยแล้ว และตนก็ได้กำชับเจ้าหน้าที่ว่าให้ดูแลจัดการ การเลือกตั้งให้เรียบร้อย ให้ข้าราชการวางตัวให้เป็นกลาง การหาเสียงก็ต้องระมัดระวัง โดยเฉพาะรัฐมนตรีจะลงไปช่วยหาเสียงก็ทำได้ แต่ต้องแยกว่าไปในฐานะกรรมการบริหารพรรคต้องไม่มีการใช้ตำแหน่งทางการเมืองเข้าไปช่วยเหลือ ทั้งนี้ แม้ชาวสุราษฎร์ฯ จะเพิ่งผ่านการเลือกตั้งนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดแต่ก็ขออย่าได้เบื่อหน่ายการเลือกตั้ง ขอให้ออกมาใช้สิทธิเลือกตั้ง ส.ส.กันให้มาก โดยครั้งที่ผ่านมามีผู้มาใช้สิทธิร้อยละ 70 ครั้งนี้ขอแค่ร้อยละ 60 ก็พอใจแล้ว
