"บิ๊กตู่" ตอกย้ำเหตุควรปลด ผบ.ตร. อื้อ ระบุหาก"มาร์ค"ยังเก้ๆกังๆ ตั้ง ผบ.ตร. คนใหม่ ตนยินดีให้คำเสนอแนะ รับคดี"สนธิ" คลี่คลายยากแต่เชื่อมือ"ธานี" สางคดีจนลุล่วงได้ จี้หาก"พัชรวาท"บริสุทธิ์ใจจริงควรลาออก ขณะที่"ชัชวาลย์" ซ้ำแค่ปล่อยม็อบแดงล้มประชุมอาเซียนพัทยากับคดี 7 ต.ค. ก็เกินเหตุสมควรปลดแล้ว เตือนนายกฯอย่าอุ้มงูเห่า ระวังมันจะกัดตาย
คลิกที่นี่ เพื่อฟังรายการ "คนในข่าว"
รายการ “คนในข่าว” ออกอากาศทางสถานีโทรทัศน์เอเอสทีวี-ทีวีของประชาชน ช่วงเวลา 20.30-21.30 น.วันที่ 4 สิงหาคม โดยมีนายเติมศักดิ์ จารุปราณ เป็นผู้ดำเนินรายการ ซึ่งได้รับเกียรติจาก พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียาเวส อดีตผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ และ นายชัชวาลย์ ชาติสุทธิชัย นักวิชาการอิสระ มาร่วมพูดคุยถึงเรื่องความชอบธรรมในการปลด พล.ต.อ.พัชรวาท
พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ กล่าวว่า สาเหตุที่ควรปลด พล.ต.อ.พัชรวาท วงษ์สุวรรณ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เริ่มตั้งแต่ช่วงที่ตนอยู่ในตำแหน่ง ได้มีการทุจริตงบจัดซื้อจัดจ้างโฆษณา 18 ล้าน ซึ่งก่อนที่ตนจะพ้นจากตำแหน่งได้ตรวจสอบข้อเท็จจริง แต่เกิดอุปสรรคนายสมัคร สุนทรเวช อดีตนายกรัฐมนตรี ได้ตั้งคณะกรรมการสวนตน แล้วย้ายมาอยู่สำนักนายกรัฐมนตรีทำให้ตนไม่สามารถทำหน้าที่ต่อไม่ได้ ก็เลยทำหนังสือรายงานข้อเท็จจริง ถึงนายสมัคร ให้ตั้งคณะกรรมการสอบสวนทางวินัยร้ายแรง แก่ พล.ต.อ.พัชรวาท และได้เตือนนายสมัครถึงสามครั้งก็ยังเฉย ตนก็เลยฟ้องนายสมัครละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ ซึ่งขณะนี้เรื่องก็อยู่ที่ ป.ป.ช. ต่อมาพอมาถึงยุคสมชาย วงศ์สวัสดิ์ เป็นนายกรัฐมนตรี ตนได้ทำหนังสือสอบถามถึงสองครั้ง นายสมชาย จึงได้เซ็นแต่งตั้งคณะกรรมการสอบสวน แล้วให้ พล.ต.อ.พัชรวาท มาอยู่สำนักนายก แต่ระหว่างที่พนักงานสอบสวนเตรียมการแต่งว่าใครจำทำหน้าที่ใด นายสมชาย ก็พ้นตำแหน่งเสียก่อน
ทั้งนี้พอมาถึงยุคนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ เป็นนายกรัฐมนตรี ตนก็มีหนังสือเสนอไป ถึงสี่ครั้ง ครั้งล่าสุดก็เดือนมิถุนายน พ่วงกับกรณีที่ พล.ต.อ.พัชรวาท ละเมิดอำนาจศาลปกครองเข้าไปด้วย แต่ก็ยังไม่คืบหน้า อย่างไรก็ดีตนจะยังไม่ฟ้องนายอภิสิทธ์ เพราะเห็นว่ามีเจตนาทำงานดี ก็ยังอยากจะให้โอกาสทำงานต่อ (2.) ไม่สามารถปฏิบัติหน้าที่ดูแลความสบงเรียบร้อยได้ระหว่างการประชุมอาเซียนที่พัทยาและที่กระทรวงมหาดไทย (3.) มีส่วนเกี่ยวข้องกับคดีสลายการชุมนุม 7 ต.ค. และ(4.) กระทำผิดขั้นตอนการแต่งตั้งโยกย้ายข้าราชการตำรวจ
“เมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา มีคนมาหาตน บอกว่าเคยร้องเรียน นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ว่า พล.ต.อ.พัชรวาทไปเป็นกรรมการ บริษัทบริษัท ไดนาสตี้ มหาชนจำกัด แล้วใช้เวลาราชการไปประชุมได้รับเบี้ยเลี้ยงครั้งละ 50,000 บาท ซึ่งจะได้รับเบี้ยเลี้ยงเท่าไรไม่สำคัญ ประเด็นมันอยู่ตรงใช้เวลาราชการไปประชุม เอาเวลาราชการไปทำประโยชน์ส่วนตน และเมื่อวานนี้ 4 สิงหาคม ตนก็ได้ส่งหนังสือเตือนไปถึงนายกฯ อีกครั้งเป็นครั้งที่ 5 โดยเพิ่มเรื่องนี้เข้าไปด้วย” พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ กล่าว
พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ กล่าวต่อว่า ตนในฐานะผู้มีประสบการณ์ เห็นว่าการแต่งตังไม่มีความโปร่งใส มีการวิ่งเต้นเพื่อต่อรองตำแหน่ง ดังนี้เมื่อมีผลประโยชน์เข้ามาเกี่ยวข้อง ทำให้ต้องรีบดำเนินการ โดยการวางตำแหน่งไว้ล่วงหน้า ถ้ามีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าลงมาวันที่ 16 ส.ค.นี้ วันที่ 17 ส.ค. ก็สามารถเซ็นอนุมัติได้เลย อย่างไรก็ดีเมื่อการแต่งตั้ง 152 นายพล ตีกลับมาก็สามารถนำกลับมาแก้ไขได้ ยกตัวอย่างให้เห็น ก่อนที่จะมีการปฏิวัติ 19 ก.ย. ก็มีการแต่งตั้งโยกย้ายตำรวจ ซึ่งโผผ่าน ผบ.ตร. ผ่านนายกรัฐมนตรี และในหลวงก็ทรงลงพระปรมาภิไธยแล้วด้วย เหลือเพียงการรอลงนามรับสนองก็มีผล ปรากฏว่ามีการยึดอำนาจเสียก่อน จากนั้น คมช. ได้แต่งตั้ง พล.ต.อ.โกวิท วัฒนะ เป็นประธาน ก.ตร. ซึ่งก็ได้รื้อโผลแต่งตั้งใหม่ กลั่นแกล้งตนย้ายจากจเรตำรวจแห่งชาติไปเป็นที่ปรึกษา ตนก็เลยฟ้องศาลปกครอง ปรากฏว่าศาลปกครองพิพากษาว่า พล.ต.อ.โกวิท สามารถทำได้
“อยากให้ประชาชนเทียบสมัย นายสมัคร สุนทรเวช เป็นนายกรัฐมนตรี มีการส่งเรื่องกล่าวหาตนวันที่ 28 ต่อมาวันที่ 29 ก็สั่งให้ตนพักราชการไว้ก่อน อ้างถ้าอยู่จะเป็นอุปสรรค์ต่อการสอบสวน แต่กรณีของ พล.ต.อ.พัชรวาท มีการตรวจสอบแล้ว ว่า มีความผิดจริง ตรงนี้สะท้อนประสิทธิภาพการทำงานของรัฐบาลได้อย่างดี” พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ กล่าว
พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ กล่าวว่า หากวันที่ 5 พล.ต.อ.พัชรวาท ไม่กลับเข้ามาประเทศ ทางป.ป.ช.จะมีหนังสือแจ้งให้มาปฎิบัติหน้าที่ใน 15 วัน ก็ปาเข้าไปวันที่ 20 แล้ว ซึ่งพอถึงตอนนั้นกว่าจะมีการสอบพยาน สรุปเรื่องเข้าที่ประชุมใหญ่ชี้มูล และส่งเรื่องกลับมาให้สำนักงานนายกฯแจ้งเรื่องอีก ดีไม่ดีอาจจะมีการอุทธรณ์ ดังนี้ไม่รู้ว่าท้ายที่สุดแล้ว จะเกษียรก่อนที่คดีจะเสร็จหรือป่าว
พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ กล่าวว่า การเลือกผบ.ตร.คนใหม่ เป็นอำนาจของนายกฯ ที่จะคัดเลือกจากข้าราชการยศ พล.ต.อ. ขึ้นไป เป็นที่รู้ดีว่าข้าราชการตำรวจมี รอง ผบ.ตร. เยอะ ดังนี้หากมีคนดีแต่อยู่ในฐานะอาวุโสน้อยกว่าคนอื่น แล้วไปเอาคนนั้นมาเป็น ผบ.ตร ก็จะเป็นการข้ามขั้นอาวุโส ข้าราชการชั้นเล็กๆ ก็จะไม่ให้การยอมรับ ส่งผลการทำงานข้อนข้างลำบาก อย่างไรก็ดีนายกฯ มาเล่นการเมืองอาจไม่รู้จักข้อมูลของแต่ละคนดีเหมือนตน ที่รู้จักมาตั้งแต่สมัยเป็นนักเรียนนายร้อย ดังนี้ถ้าหากนายกฯ มาปรึกษากับตน ก็สามารถให้คำแนะนำได้
พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ กล่าวอีกว่า ทุกคดีที่ผู้มีอิทธิพลอยู่เบื้องย่อมหลังมีอุปสรรคในการทำงานทั้งนั้น ยกตัวอย่าง กรณีที่ตนไปจับบ่อนปอประตูน้ำ ก็มีนายทหาร พล.ต. ดร.ขัตติยะ สวัสดิผล เข้ามายืนยัน ป.เป็นคนดี ไม่ใช่เจ้าของบ่อน มิหนำซ้ำยังมากล่าวหาตนอีก ทำให้ตนต้องสวนกลับ แล้วเขาก็ไปร้องเรียน พลตำรวจเอก โกวิท วัฒนะ ทำให้ตนโดนตั้งคณะกรรมการสอบสวน สำหรับคดีลอบยิงนายสนธิ ก็เหมือนกัน หากไม่มีอิทธิพลจริงใครจะกล้าทำ อย่างไรก็ดีตนเชื่อว่าพนักงานสอบสวน พล.ต.อ.ธานี สมบูรณ์ทรัพย์ รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ มีความสามารถและกล้าหาญที่จะทำ แต่งานจะเดินได้อย่างราบรื่นหรือไม่ก็อยู่ที่ทีมงานด้วยว่าทีมงานใครตั้งมา มีการสอดไส้หรือไม่ อีกอย่างหากผู้มีอำนาจเปิดทางให้ เชื่อว่าคดีนี้จะลุล่วงไปได้
“หาก พล.ต.อ.พัชรวาท สุจริตใจ ควรช่วยกันทำหน้าที่ให้เกิดความกระจ่าง ไม่ใช่มาขัดขวางทั้งเบื้องหน้าเบื้องหลัง หรือถ้าจะแสดงความสุจริตใจจริงๆก็ลาออกไปเลย เพื่อให้ทุกฝ่ายสบายใจ” พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ กล่าว
นายชัชวาลย์ กล่าวว่า ถ้าถามถึงเหตุผลที่สมควรปลดพล.ต.อ.พัชรวาท วงษ์สุวรรณ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เอาแค่การประชุมอาเซียนที่พัทยา ที่ทำให้ผู้นำประเทศต้องหนีหัวซุกหัวซุน ตรงนี้ถ้าหากถามความรับผิดชอบเอากันจริงๆ นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ต้องรับผิดชอบด้วย แต่เราเห็นใจว่าไม่ได้อยู่ในฐานะตัวปฎิบัติการณ์โดยตรง โดยคนที่สมควรต้องรับผิดโดยตรงมี 1. นายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะที่มีหน้าที่ดูแลความมั่นคง 2. พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม และ 3. พล.ต.อ.พัชรวาท วงษ์สุวรรณ ในฐานะที่ต้องกำกับดูแลตำรวจ และกรณี 7 ต.ค. ในฐานะที่เป็นคนสั่งให้เคลื่อนกำลังพลสลายชุมนุมพันธมิตรฯ ทั้งนี้หากนายกฯ จะรับผิดชอบต่อบ้านเมือง ต้องปลด ผบ.ตร. เพราะมันสมควรที่สุด ผิดซ้ำแล้วซ้ำเล่า มากเกินกว่าที่ประชาชนจะให้อภัยในความผิดนี้ได้
“มีคนรู้มาว่า การคุยกันที่บ้านพิษณุโลก นายกฯ อยากให้ พล.ต.อ.พัชรวาท ลาพักร้อนระยะยาว แต่ ผบ.ตร. บอกว่าถ้าหากให้ลาพักร้อนยาวปลดผมเสียดีกว่า นายกฯ ก็บอกลาพักยาวเป็นทางออกที่ดีที่สุด ซึ่งตอนตกลงกัน พล.ต.อ.พัชรวาท ก็มีทีท่าว่าจะรับข้อตกลงดังกล่าว ทำให้นายกฯมั่นใจออกมาพูดตอนสี่โมงเย็นว่าทุกอย่างจบแล้ว ต่อมาคืนนั้นพัชรวาทก็สวนออกมาทันที ว่าไม่มีการลาพักร้อน แต่ไปปฏิบัติราชการต่างประเทศกลับมาก็จะมาปฏิบัติหน้าที่ต่อ” นายชัชวาลย์ กล่าว
นายชัชวาลย์ กล่าวว่า ฝากถึงนายกฯ เพราะอาจจะไม่รู้ถึงเงื่อนงำ การแต่งตั้งโยกย้ายข้าราชการตำรวจของ พล.ต.อ.พัชรวาท จึงอยากให้ลองทำโผดู เพราะมีคนพูดกันหนาหูว่าช่วงนั้นมีเงินสะพัดอย่างมาก และมีการซื้อเพชรกันมาก ซึ่งเพชรดังกล่าวก็ไปอยู่แถวบ้านตำรวจชั้นผู้ใหญ่บางคน และทำไมการแต่งตั้งโยกย้ายครั้งนี้ถึงได้รีบร้อนผิดปกติ เพราะมีมติ ครม. กำหนดห้าม ผบ.ตร. แต่งตั้งโยกย้ายข้าราชการตำรวจในระยะ 60 วันก่อนเกษียณอายุราชการ ดังนี้จะเห็นได้ว่าหากถึงเดือนสิงหาคม พล.ต.อ.พัชรวาท จะไม่สามารถแต่งตั้งได้
นายชัชวาลย์ กล่าวว่า นายกฯไม่สมควรจะมาทุกข์ กับพล.ต.อ.พัชรวาท เพราะรู้ดีว่าได้ทำผิดไว้มากมาย ดังนี้นายกฯจะมาติดอยู่แค่คนๆ เดียวไม่ได้ ควรเอาเวลานั้นบริหารประเทศจะเกิดประโยชน์ให้กับบ้านเมืองกว่า ดังนี้อยากฝากให้ผู้ใหญ่ในพรรคประชาธิปัตย์ ลองชวน พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียาเวส ไปปรึกษาเพราะท่านเคยทำหน้าที่เกี่ยวกับวงการตำรวจมานาน
“การอุ้มงูเห่าไว้ในมือมันกัดแล้วตาย มันไม่สนใจว่าจะเป็นนายกฯ ฉะนั้นกรณีการถอดยศ มีคนในกรมตำรวจบอกมาว่า ได้ส่งเรื่องแล้ว แต่ไปค้างอยู่ที่รองนายกฯ ดังนี้นายกฯต้องรีบทำอะไรซักอย่าง เพื่อให้เกิดความกระจ่าง เดินหน้าคดีต่อไปได้” นายชัชวาลย์ กล่าว