xs
xsm
sm
md
lg

“หางแดงทาสแม้ว” ดันทุรังยื่นฎีกา 17 ส.ค.นี้ เฉไฉอ้างไม่ยอมให้รัฐกีดกัน

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

วีระ มุสิกพงศ์ แกนนำหางแดง
แก๊งหางแดง เผย 17 ส.ค.ยื่นทูลเกล้าฯ ถวายฎีการายชื่อแน่ โอ่เตรียมจัดขบวน โดยมีพานรองรับฎีกาขนาดใหญ่ที่จัดทำขึ้น แถมยังใช้คนเป็นพันลำเลียงรายชื่อในส่วนที่เหลือ ยันไม่มีชุมนุม “ไข่แม้วดำ” ปากดีท้า รบ.ตรวจสอบรายชื่อ อัดรัฐข่มขู่ ปชช.ถอนชื่อใช้อำนาจรัฐละเมิดสิทธิ ปชช. “ณัฐวุฒิ” ถามกลับภูมิใจไทยออกโรงค้านเสื้อแดง หวังล้มคดีกล้ายางหรือไม่

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันนี้ (3 ส.ค.) ที่ห้างสรรพสินค้าอิมพีเรียลเวิลด์ ลาดพร้าว สถานีโทรทัศน์ ดีสเตชั่น แกนนำแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) นำโดยนายวีระ มุสิกพงศ์ นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ นายจตุพร พรหมพันธุ์ ร่วมแถลงข่าวถึงความคืบหนาในการยื่นถวายฎีกา โดยแกนนำทั้งหมดต่างแต่งกายด้วยชุดสีดำ เพื่อไว้อาลัยแก่นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกฯ ด้วย

นายวีระกล่าวว่า ขอบคุณพี่น้องคนไทยที่ร่วมกันกันลงชื่อถวายฎีกาเกินกว่า 5 ล้านคน สำหรับกระบวนการนับและตรวจสอบจะแล้วเสร็จในวันที่ 15 หรือ 16 ส.ค. จากนั้นจะนำรายชื่อขึ้น ทูลเกล้าฯ ในวันที่ 17 ส.ค. จำนวนรายชื่อทั้งหมดกว่า 5 ล้านรายชื่อ เราจะจัดเป็นขบวน โดยจะมีพานรองรับถวายฎีกาขนาดใหญ่ที่ถูกประดิษฐ์ขึ้น สามารถรองรับได้เป็นแสนรายชื่อ ส่วนที่เหลือจะใช้คนลำเลียงไม่น้อยกว่า 1 พันคน ในวันถวายฎีกาจะไม่มีการชุมนุมใหญ่ ผู้ที่จะมาร่วมกิจกรรมก็เป็นเรื่องต่างจิตต่างใจ

ส่วนกรณีที่รัฐบาลนำโดยนายกรัฐมนตรี รมว.มหาดไทย โต้แย้งการถวายฎีกา พวกเราก็พร้อมที่จะแถลงให้พี่น้องประชาชนฟังในทุกประเด็น และจะไม่ยอมให้คนพวกนี้ใช้อำนาจรัฐกีดกันพี่น้องประชาชนถวายฎีกาต่อพระประมุข ทั้งนี้ นายอภิสิทธิ์ มีข้อท้าทายคนเสื้อแดงเกี่ยวกับกรณีดังกล่าวอยู่ 2 ประการ คือ 1.สั่งการให้หน่วยงานรัฐชี้แจงว่าการเข้าชื่อถวายฎีกาไม่สามารถทำได้ พร้อมทั้งทำหนังสือไปยังสำนักราชเลขาธิการ เพื่อยืนยันในหลักกฎหมายว่า ไม่สามารถทำได้ และ 2.รัฐบาลออกมาระบุว่าจะตรวจสอบรายชื่อทั้ง 5 ล้านรายชื่อ เสมือนว่า ไม่เชื่อถือ ท้าทายเกียรติยศ ศักดิ์ศรี และเราก็พร้อมที่จะรับคำท้าทายนั้น และขอยืนยันในสิทธิการถวายฎีกาว่าสามารถทำได้ รวมทั้งยอดคนที่เข้าชื่อเป็นไปตามจำนวนดังกล่าว

อย่างไรก็ตาม ตนไม่อยากจะเดิมพันอะไรกับนายอภิสิทธิ์ เพราะกระบวนการทุกอย่างเราดำเนินการอย่างถูกต้อง หากจะเดิมพันอะไร ตนคงคิดไม่ออก เพราะคนคนนี้มันต่ำทรามเกินที่จะรับคำท้า จิตใจไม่มีความเป็นผู้นำ ไม่ควรเป็นผู้นำ ประชากรทั้ง 63 ล้านคน ประเทศไทยถือว่าตกต่ำที่สุดที่มีนายกฯ ที่มีความคิดที่เลวทรามเช่นนี้

นายณัฐวุฒิกล่าวว่า ขณะนี้ทุกองคาพยพของอำมาตยาธิไตย ได้ออกมาขับเคลื่อนคัดค้าน ซึ่งเป็นเกมล้มฎีกา โดยเฉพาะการรณรงค์ให้พี่น้องประชาชนถอนชื่อการถอนฎีกา ซึ่งระบุว่าน่าสุ่มเสี่ยงต่อการหมิ่นพระบรมเดชานุภาพ แต่เรื่องนี้ไม่เป็นผลจึงได้ตั้งโต๊ะล่ารายชื่อเพื่อคัดค้านการถวายฎีกาแทน อยากถามว่ากรณีนี้เป็นการใช้อำนาจรัฐสกัดขัดขวางประชาชนที่จะถวายฎีกาต่อพระประมุขหรือไม่ การกระทำเช่นนี้ถูกต้องชอบธรรมหรือไม่ กระทรวงมหาดไทยที่มี 2 รัฐมนตรีจากพรรคภูมิใจไทย และมีนายเนวิน ชิดชอบ แกนนำพรรคภูมิใจไทย เป็นเจ้าของ ออกมาเคลื่อนไหวในเรื่องนี้ เป็นการกระทำโดยบริสุทธิ์ใจหรือไม่ อยากถามว่าพรรคภูมิใจไทยต้องการที่จะล้มฎีกา หรือล้มคดีกล้ายางกันแน่

นายณัฐวุฒิกล่าวอีกว่า กลุ่ม นปช.จะรวบรวมรายชื่อผู้ที่เห็นด้วยและสนับสนุนการถวายฎีกา ซึ่งรายชื่อ จะไม่ซ้ำกับคนที่เคยเข้าชื่อถวายฎีกา ถ้ารัฐบาลอยากทราบว่ามีผู้ที่สนับสนุนหรือ คัดค้านการถวายฎีกามากกว่ากัน หรือถ้ารัฐบาลใจถึง อยากให้รัฐบาลทำประชามติไปเลย จะได้รู้ว่าประชาชนเห็นด้วยหรือไม่เห็นด้วย สำหรับกลุ่มคนที่อ้างอิงสถาบันเพื่อประโยชน์ทางการเมือง และออกมาคัดค้านการถวายฎีกา ล้วนเป็นกลุ่มบุคคลที่เคยโค่นล้ม พ.ต.ท.ทักษิณ มาแล้วทั้งสิ้น ขณะนี้ฝ่ายอำมาตยาธิปไตยได้ออกแรงและใช้กำลังขับเคลื่อนกันมาก บางคนก็ ทำไปอย่างขาดสติและน่าสมเพศ อย่างเช่นกรณี พล.อ.สมเจตน์ บุญถนอม ในฐานะตัวแทนกลุ่มสยามสามัคคี ที่ก่อนหน้านี้ออกมาบอกว่าการถวายฎีกาทำไม่ได้ แต่ตอนนี้กลับจะมาระดมคนเพื่อให้เข้าชื่อถวายฎีกาเพื่อที่จะคัดค้าน รวมทั้งกรณีอธิการบดีมหาวิทยาลัยต่างๆ 26 สถาบัน ออกมาคัดค้าน อยากให้กลุ่มบุคคลดังกล่าวไปสำรวจตัวเองที่เคยเข้าชื่อขอนายกฯ พระราชทานตามมาตรา 7 ว่าใช้หลักการอะไร ยืนยันว่าการเข้าชื่อถวายฎีกาเป็นสิทธิของประชาชนที่สามารถทำได้ตามรัฐธรรมนูญ

นายณัฐวุฒิกล่าวว่า ส่วนการที่รัฐบาลเลื่อนการแถลงผลงานมา 2 รอบ ล่าสุดจะแถลงผลงาน ในวันที่ 6 ส.ค.นี้ จึงอยากให้พรรคประชาธิปัตย์ได้ใช้โอกาสนี้แถลงผลงาน 60 ปี ของพรรคประชาธิปัตย์ด้วยว่าที่ผ่านมาได้ทำอะไรให้ประชาชนบ้าง

นายจตุพรกล่าวว่า การที่นายอภิสิทธิ์จะตรวจสอบรายชื่อประชาชนที่ลงชื่อถวายฎีกา การทำเช่นนี้เหมือนกับการข่มขู่ประชาชน นายอภิสิทธิ์ควรทำหน้าที่นายกฯ ไปตรวจสอบคนใกล้ชิดตัวเองที่ไปแทรกแซง ใช้นามบัตรโยกย้ายโผข้าราชการตำรวจ อย่างนี้ผิดกฎหมายรัฐธรรมนูญชัดเจน ทำไมไม่ไปตรวจสอบ และเร็วๆ นี้จะมีคนไปตรวจสอบ โดยจะยื่นไปที่ ป.ป.ช.และกกต. รวมทั้งหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง กรณีนายชวรัตน์ ชาญวีรกูล ถือหุ้นสัมปทานของรัฐ และกรณีที่เสี่ยหนู หรือนายอนุทิน ชาญวีรกูล ถือหุ้น บ.ซิโนไทย แล้วได้สัมปทานรถไฟฟ้าสายสีม่วง อย่างนี้ผิดกฎหมายมาตรา 267 ตามรัฐธรรมนูญหรือไม่
กำลังโหลดความคิดเห็น