นปช.บุกมหาดไทย ยื่นหนังสือ พร้อมเผาหุ่น “ชวรัตน์” อย่าขวางล่ารายชื่อฎีกา “พ่อแม้ว” เฉไฉโวยวายอ้างถูกสกัดความจงรักภักดี ทำยอกย้อนถามคนเสื้อแดงไม่มีสิทธิ์แสดงความจงรักภักดี-เทิดทูนสถาบันหรือไง เพ้อมีคนพยายามยึดอำนาจ
วันนี้ (3 ส.ค.) ที่กระทรวงมหาดไทย เวลา 09.40 น. กลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) หรือกลุ่มคนเสื้อแดง พร้อมด้วยกลุ่มต่อต้านอภิสิทธิ์ชนประมาณ 70 คน นำโดยนายวรัญชัย โชคชนะ นายสิรวิชญ์ พิมพ์กลาง ว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.สกลนคร พรรคเพื่อไทย เดินทางมาชุมนุมบริเวณด้านหน้ากระทรวงมหาดไทย เพื่อยื่นหนังสือประท้วงและประณาม นายชวรัตน์ ชาญวีรกูล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย และ ม.ล.ปนัดดา ดิศกุล โฆษกกระทรวงมหาดไทย ฝ่ายข้าราชการประจำ ที่สั่งการให้ผู้ว่าราชการจังหวัดทั่วประเทศตั้งโต๊ะให้ประชาชนถอนชื่อจากการถวายฎีกาพระราชทานอภัยโทษให้กับ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ผ่านทาง นายพีรสิญจ์ พันธุ์เพ็ง หัวหน้าสำนักงานรัฐมนตรี
นายสิรวิชญ์กล่าวบนรถขยายเสียง อ้างว่า การที่กลุ่มคนเสื้อแดงได้รวบรวมรายชื่อถวายฎีกาให้กับ พ.ต.ท.ทักษิณ เป็นสิ่งที่กระทำโดยชอบ แต่กระทรวงมหาดไทย กลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย กลุ่มราชนิกูล มีความพยายามที่จะสกัดกั้นความจงรักภักดีของกลุ่มคนเสื้อแดง จึงขอถามว่ากลุ่มคนเสื้อแดงจงรักภักดีไม่เป็นอย่างนั้นหรือ ไม่มีสิทธิ์เทิดทูนพระมหากษัตริย์ใช่หรือไม่ นอกจากนี้ ตนยังทราบข่าวมาว่าขณะนี้มีกลุ่มหนึ่งพยายามยึดอำนาจอีกแล้ว
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ผู้ที่มาชุมนุมได้สวมเสื้อสีดำ โดยอ้างว่าเพื่อเป็นการไว้ทุกข์ให้กับนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี และไว้อาลัยให้กับผลการดำเนินงานของรัฐบาล 6 เดือนที่ผ่านมา ขณะที่บางคนสวมเสื้อแจ๊กเก็ตสีดำที่มีโลโก้ของพรรคเพื่อไทย ติดอยู่บริเวณด้านหลัง พร้อมทั้งถือป้ายที่มีข้อความว่า “การถวายฎีกาเป็นสิทธิ์ของข้าละอองธุลีพระบาท” “อย่าผูกขาดความจงรักภักดีเพื่อพรรคตัวเอง” “ไอ้ห้อย ไอ้โหน อย่าโยนความผิดให้คนอื่นล่ากระแสหวังรอดคดีกล้ายาง” อย่างไรก็ตาม ภายหลังการยื่นหนังสือ กลุ่มผู้ชุมนุมได้เผาหุ่นฟาง นายชวรัตน์ พร้อมทั้งได้นำพวงหรีดมาแขวนไว้หน้าประตูรั้ว เพื่อเป็นการคัดค้านต่อต้านการยื่นถวายฎีกาของกลุ่มคนเสื้อแดง
รายงานข่าวแจ้งอีกว่า การสวมเสื้อดำและเผาหุ่นประท้วงในครั้งนี้ เป็นความพยายามเบี่ยงเบนประเด็นของคนเสื้อแดง หลังจากประชาชน นักวิชาการ กลุ่ม ส.ว. ราชนิกุล กระทรวงมหาดไทยและกองทัพ ออกมาคัดค้านการล่าชื่อถวายฎีกาเพื่อขอพระราชทานอภัยโทษให้ พ.ต.ท.ทักษิณ ซึ่งทำผิดขั้นตอนและวิธีปฏิบัติ เนื่องจาก พ.ต.ท.ทักษิณยังไม่ได้สำนึกผิดและกลับมารับโทษ และผู้ถวายฎีกาไม่ใช่ตัวนักโทษหรือญาติพี่น้องตามระเบียบปฏิบัติ แต่กลับเป้นการล่ารายชื่อคนจำนวนมากมาถวายฎีกา ซึ่งถือเป็นการใช้มวลขนกดดันพระบรมราชวินิจฉัย นอกจากนี้ในเนื้อหาของฎีกายังมีการกล่าวโจมตีกระบวนการยุติธรรมของไทยและมีข้อความที่หมิ่นเหม่ต่อการละเมิดพระราชอำนาจด้วย