“อภิสิทธิ์” ขึ้นโพเดียมปาฐกถางานวันสตรีไทย ยันเร่งเดินหน้าแก้ไขปัญหาสังคมใช้งบไทยเข้มแข็ง หวังพัฒนาศูนย์เด็กเล็กให้อยู่ใกล้สถานที่ทำงานของผู้ปกครอง ฟุ้งดันบทบาทสตรีเทียบเท่าในสังคม พร้อมค่าตอบแทนที่เป็นมาตรฐานเดียวกัน ก่อนกลับเข้าทำเนียบถกทีมสอบสวนคดียิง “สนธิ”
วันนี้ (1 ส.ค.) นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี เป็นประธานปาฐกถาพิเศษในงานวันสตรีไทยว่า ปัญหาวิกฤตเศรษฐกิจที่ชะลอตัวได้ส่งผลกระทบต่อโครงสร้างทางเศรษฐกิจและสังคมให้เปลี่ยนแปลงไป โดยเฉพาะการทำให้ประชาชนผู้มีรายได้น้อยและสตรีต้องรับภาระหนัก เพื่อต่อสู้กับภาวะรายจ่ายที่ไม่เพียงต่อต่อรายได้ และจาการศึกษาพบว่า สัดส่วนเด็กเล็กที่ไม่ได้อาศัยอยู่กับพ่อแม่มีมากขึ้น ถือเป็นการเริ่มต้นที่เสี่ยงต่อการสร้างความเข้มแข็งของสถาบันครอบครัวในอนาคต ดังนั้น หน่วยงานที่เกี่ยวข้องต้องช่วยกันกำหนดกลไก และสร้างค่านิยมที่ถูกต้องทั้งในองค์กรภาครัฐและเอกชน ในการสร้างสภาวะแวดล้อมที่เอื้อต่อการรักษาบทบาทครอบครัวโดยไม่กระทบความมั่นคงด้านหน้าที่การงาน ขณะที่รัฐบาลมีมาตรการแก้ไขปัญหาสังคม โดยจัดสรรงบประมาณภายใต้แผนปฏิบัติการไทยเข้มแข็ง พัฒนาศูนย์เด็กเล็กในชุมชนให้อยู่ใกล้ชิดสถานที่ทำงานของผู้ปกครอง ขณะนี้อยู่ระหว่างรวบรวมข้อมูลจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อกำหนดเป็นยุทธศาสตร์ เชื่อว่าถ้าแก้ไขปัญหาจุดนี้ได้ จะส่งผลให้การดูแลคุณภาพคนในสังคมง่ายขึ้น
นอกจากนี้ นายอภิสิทธิ์ระบุว่า รัฐบาลจะเน้นแก้ไขปัญหาความไม่เป็นธรรมในส่วนรายได้ของสตรีให้เท่าเทียมมากกว่าในปัจจุบัน รวมทั้งจะส่งเสริมค่านิยมและทัศนคติ ไม่ให้เป็นอุปสรรคต่อความก้าวหน้าของสตรี โดยจะเพิ่มสัดส่วนให้สตรีสามารถเข้ามามีบทบาทด้านการเมืองมากขึ้น
อย่างไรก็ตาม ก่อนนายกรัฐมนตรีจะขึ้นปาฐกถา ได้เดินเยี่ยมชมหอเกียรติภูมินายกรัฐมนตรี ซึ่งมีนิทรรศการภาพถ่ายของอดีตนายกรัฐมนตรีทุกคน ขณะนายกรัฐมนตรีเดินผ่านภาพถ่ายของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี เพียงแต่เหลือบมองก่อนเดินผ่านไปดูภาพถ่ายนายชวน หลีกภัย อดีตนายกรัฐมนตรี และประธานสภาที่ปรึกษาพรรคประชาธิปัตย์
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังร่วมกิจกรรมวันสตรีไทย นายอภิสิทธิ์ได้เดินทางเข้าทำเนียบรัฐบาลทันที โดยมี พล.ต.อ.ธานี สมบูรณ์ทรัพย์ รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ในฐานะหัวหน้าพนักงานสอบสวนคดียิงนายสนธิ ลิ้มทองกุล แกนนำพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย และ พล.ต.ท.อัศวิน ขวัญเมือง ผู้ช่วยผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ในฐานะพนักงานสอบสวนคดียิงนายสนธิเข้าพบ
