“ศุภชัย” อัดหางแดงจัด “แซยิดแม้ว” ตีตนเสมอเจ้า

โฆษกภูมิใจไทยอัดคนเสื้อแดงจัดงานวันเกิด “นช.แม้ว” ไม่เหมาะสม ซัดเป็นสามัญชนกลับทำตนเสมอเจ้า เผยพรรคเรียกถกประเด็นถวายฎีกาพรุ่งนี้ เชื่อไม่ได้หวังขออภัยโทษ แต่หวังเพียงเล่นเกมการเมือง รับรัฐบาลมีจุดอ่อนทั้งเจอปัญหารุมเร้าหลายทาง จี้เร่งทำความเข้าใจประชาชน

วันนี้ (27 ก.ค.) ที่ทำเนียบรัฐบาล นายศุภชัย ใจสมุทร รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี และโฆษกพรรคภูมิใจไทย กล่าวถึงกรณีการจัดงานแซยิด พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีว่า กลุ่มคนเสื้อแดง พรรคเพื่อไทย และ พ.ต.ท.ทักษิณ ก็คงมีวิธีทางการเมืองที่จะเดินหน้าเพื่อจะทำกิจกรรมทางการเมืองต่อไป ประเด็นแรกที่ตนอยากออกความเห็น คือ เรื่องของการจัดงานวันเกิดให้กับอดีตนายกฯ สังคมควรจะคิดแล้วว่าสิ่งที่ทำมันเกินสมควร ถือเป็นการกระทำที่ถือได้ว่ามีความเหมาะสมมากน้อยเพียงไหน ต้องยอมรับว่าพี่น้องคนไทยส่วนใหญ่การจัดงานวันเกิดของคนสามัญชนนั้น ไม่ควรที่จะจัดกันแบบนี้ ถ้าพูดกันตรงๆ การทำอย่างนี้ คือ สามัญชนทำตนเสมอเจ้า เรื่องนี้ พ.ต.ท.ทักษิณ ควรตระหนักว่าความไม่บังควรตรงนี้นั้นเป็นเรื่องที่ไม่ควรกระทำ และยังเดินหน้าทำงานอย่างนี้ทำเพื่ออะไร

ส่วนกรณีการล่าชื่อถวายฎีกาเพื่อขอพระราชทานอภัยโทษนั้น นายศุภชัยกล่าวว่า วันนี้กลุ่มคนเสื้อแดงมีพฤติกรรมที่ทำให้เห็นว่ากำลังทำในเรื่องที่สังคมกำลังคัดค้าน ถามว่ามีจุดประสงค์อะไร ซึ่งเรื่องนี้พรรคภูมิใจไทยจะหยิบเรื่องนี้มาหารือในวันพรุ่งนี้ด้วยว่าความไม่เหมาะสมนี้ ไม่ชอบด้วยกฎหมาย ทำไมยังมีการเดินหน้ากันอยู่

“วันนี้ถ้าดูตามกฎหมาย การขอพระราชทานอภัยโทษนั้น คนที่จะทำได้มีเพียง พ.ต.ท.ทักษิณ หรือบุตรทั้ง 3 คนที่จะทำได้และถูกกฎหมายด้วย แต่กลับใช้คน 1 ล้าน 2 ล้าน 3 ล้านคน ดำเนินการ ซึ่งเป็นการดำเนินการอย่างไม่ถูกกฎหมาย แต่ก็ยังจะมีการดำเนินการ วันนี้เป้าประสงค์ของ พ.ต.ท.ทักษิณ และคนเสื้อแดง ทราบว่ายังมีการดำเนินการ และยังไม่มีการห้ามปรามแสดงว่าพวกคุณไม่สนใจว่า สิ่งต่างๆ ที่เกิดขึ้นในการกระทำอย่างนี้เป็นการกระทำที่บังควรหรือไม่ วันนี้กลุ่มคนเสื้อแดงต้องตอบสังคมด้วยว่าเรื่องนี้เหมาะหรือไม่ เพราะสิ่งที่เขาทำนั้น เป็นการดึงฟ้าต่ำและเป็นการแบ่งแยกประชาชน กลุ่มคนเสื้อแดงไม่ได้มีเป้าหมายที่จะขอพระราชทานอภัยโทษอย่างจริงจังแต่เขาต้องการที่จะเล่นเกมทางการเมืองเพื่อให้กระทบต่อรัฐบาลด้วย” นายศุภชัย กล่าว

ผู้สื่อข่าวถามว่า การที่มีสำนักวิจัยออกมาระบุว่า พ.ต.ท.ทักษิณ มีคะแนนนิยมมากกว่านายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี โฆษกพรรคภูมิใจไทยกล่าวว่า ถ้ามีโพลออกมาอย่างนี้ รัฐบาลก็ต้องกลับมาดูว่ามีสิ่งไหนที่เราทำแล้วยังไม่โดนใจประชาชน ซึ่งในส่วนของรัฐบาลก็มีส่วนที่จะต้องปรับปรุงการทำงาน อาจจะเป็นไปได้ว่า 6 เดือนที่ผ่านมา อาจจะมีปัญหาเข้ามารุมล้อมมาก ซึ่งรัฐบาลก็พยามที่แก้ไขปัญหาให้ดีขึ้น แต่อาจจะไม่เป็นที่พึงพอใจของประชาชน

“แต่จริงๆ แล้วสถานการณ์ในตอนนี้กับตอนที่ พ.ต.ท.ทักษิณ เป็นนายกฯ จะเปรียบเทียบกันไม่ได้ แต่อย่างไรก็ตาม เรื่องนี้รัฐบาลก็ต้องมาทบทวนในเรื่องนี้ และเชื่อว่ารัฐบาลจะทบทวนในเรื่องนี้และก็จะมีการปรับปรุงให้ถูกใจประชาชนมากขึ้น” นายศุภชัยกล่าว

เมื่อถามว่าได้มีการประเมินในเบื้องต้นกันบ้างหรือไม่ เนื่องจากคะแนนนิยมของอดีตนายกฯในกรุงเทพนั้นยังมากกว่า นายศุภชัยกล่าวว่า วันนี้ตนได้ลงพื้นที่ภาคอีสานพบว่าคนที่ไม่เอาพ.ต.ท.ทักษิณ ก็มีอยู่จำนวนมาก ขนาดว่าพื้นที่อีสานเป็นพื้นที่สีแดง คนที่ต่อต้านและอยากให้พ.ต.ท.ทักษิณ หยุดกิจกรรมที่กำลังทำอยู่ เพราะเช่นนั้นมันก็แล้วมุมมอง

เมื่อถามว่าที่นายประชา ประสพดี ส.ส.สมุทรปราการ พรรคเพื่อไทย ออกมาบอกว่าสิ้นปีจะมีการจัดงานอีกครั้ง นายศุภชัยกล่าวว่า จริงๆ ขณะนี้อดีตนายกฯ คนเสื้อแดง และพรรคเพื่อไทย ซึ่งนายประชาก็เป็น ส.ส.ของพรรคเพื่อไทย ก็มีแผนการทำงานโดยแบ่งหน้าที่ เป้าหมายหลักคือต้องการที่จะล้มรัฐบาล แต่สิ่งที่อยากจะถามกลับไปว่า การมุ่งเน้นในการที่จะล้มรัฐบาลและจะทำให้รัฐบาลสั่นคลอนก็เป็นเรื่องที่ทำได้ แต่รัฐบาลก็มีหน้าที่ที่จะพิสูจน์ให้เห็นว่าเราสามารถที่จะแก้ไขปัญหาให้พี่น้องประชาชนได้ แต่ตนอยากขอร้องต่อกลุ่มๆนี้ คิดจะทำอะไร ก็ขอให้ระมัดระวังอย่าแบ่งแยกประชาชน อยากระทำการใดที่มีผลกระทบกับสถาบันเบื้องสูง

เมื่อถามว่าการชุมนุมถือเป็นการกดดันรัฐบาลหรือไม่ นายศุภชัยกล่าวว่า แน่นอน การมาชุมนุมก็ทำให้รัฐบาลเสียสมาธิ เราก็เข้าใจว่าถ้าเป็นการชุมนุมที่อยู่ในกรอบของรัฐธรรมนูญให้ไว้ ก็มีสิทธิที่จะทำแต่วันนี้รัฐบาลเองก็มีหน้าที่จะต้องปกป้องสถาบันไว้เป็นหน้าที่หลัก แต่วันนี้การกระทำของคนเสื้อแดงนั้นถ้าเกี่ยวข้องกับการหมิ่นสถาบัน รัฐบาลก็ต้องกลับมาคิดดูว่าการชุมนุมนั้นเหมาะสมหรือไม่ และต้องแก้ปัญหาเรื่องนี้อย่างไร

นายศุภชัย ฐานะโฆษกกระทรวงมหาดไทยกล่าวอีกว่า แต่สิ่งที่สำคัญ คือ รัฐบาลต้องอธิบายกับประชาชน โดยมอบหมายผ่านทางผู้ว่าราชการจังหวัด นายอำเภอ กำนัน และผู้ใหญ่บ้าน ว่าการดำเนินการของกลุ่มเสื้อแดงโดยเฉพาะเรื่องการถวายฎีกาเป็นเรื่องที่ไม่บังควร เพราะไม่ชอบด้วยกฎหมาย ก่อให้เกิดการระคายเคืองต่อเบื้องพระยุคลบาท