“ยะใส” ระบุ “นช.แม้ว” พยายามจุดชนวนหวังเหลือง-แดง ประจันหน้า เย้ยหากกลับมาติดคุกจะเซอร์ไพรส์มาก เตือนล่ารายชื่อปลอมเข้าข่ายหมิ่นฯ แนะ “มาร์ค” เอา ปชช.หนุนหลัง ลุยคดี “สนธิ” ขณะที่ “ไชยันต์” ระบุบิ๊กเซอร์ไพรส์ไม่ตื่นเต้น เชื่ออาจพลิกลิ้นเล่นบทพระเอกตีหน้าซื่อ รัก “ในหลวง” เรียกเรตติ้ง
คลิกที่นี่ เพื่อฟังรายการ "คนในข่าว"
รายการ “คนในข่าว” ออกอากาศทางสถานีโทรทัศน์เอเอสทีวี-ทีวีของประชาชน ช่วงเวลา 20.30-21.30 น.วันที่ 23 กรกฎาคม โดยมีนายเติมศักดิ์ จารุปราณ เป็นผู้ดำเนินรายการ ซึ่งได้รับเกียรติจาก นายสุริยะใส กตะศิลา เลขาธิการพรรคการเมืองใหม่ และนายไชยันต์ ไชยพร อาจารย์คณะรัฐศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย มาร่วมพูดคุยให้ประชาชนรู้ทันบิ๊กเซอร์ไพรส์ ของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร
นายสุริยะใสกล่าวว่า บิ๊กเซอร์ไพรส์ที่ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี จะประกาศในวันที่ 26 เป็นเรื่องที่ไม่ได้สร้างความฮือฮามากขึ้นไปกว่าเดิม เพราะประเทศไทยก็มีเรื่องเซอร์ไพรส์ให้เห็นเป็นประจำ อย่างเช่น พรรคการเมืองที่ครองเสียงข้างมากอย่างท่วมท้นมี ส.ส.มากกว่ากึ่งหนึ่งในสภา แต่ไม่ได้รับความไว้วางใจจากประชาชนจนบริหารบ้านเมืองไม่ได้ อันนี้ก็เป็นเรื่องเซอร์ไพรส์ และการที่พ.ต.ท.ทักษิณ พยายามสร้างข่าวเช่นนี้ถือเป็นการตลาดชนิดหนี่ง
ส่วนคำว่าเซอร์ไพรส์นั้น ถ้าจะให้วิเคราะห์มีความเป็นไปได้สูงหากจะนำเรื่องการล่ารายชื่อถวายฎีกามาพูด อย่างไรก็ดีตอนนี้มีข่าววงในบอกว่าคนเสื้อแดงล่ารายชื่อได้แค่ 2 แสนรายชื่อ ถ้าในวันที่ 26 บอกว่าล่ารายชื่อได้ 5 ล้านคน ก็ต้องมาดูอีกว่ามันมีการปลอมแปลงหรือไม่ เพราะถ้ามีการปลอมแปลงถือได้ว่าเป็นการหมิ่นพระบรมเดชานุภาพเหมือนกัน ซึ่งตัวเลขจะมีกี่ล้านคนก็ไม่สำคัญ เพราะของอย่างนี้มันสมมุติกันได้ ถ้าไม่ให้ตรวจสอบ อย่างไรก็ดีหากมีการยื่นถวายฎีกาจริง เชื่อว่าจุดประสงค์น่าจะเพื่อ กดดันสำนักราชเลขาและสถาบันเบื้องสูงว่าจะตอบคน 5 ล้านอย่างไร และเป็น กระชับกำลังปริมาณคนเสื้อแดง อย่างไรก็ดีหากการยื่นรายชื่อถวายฏีกา มีวาระซ่อนเร้นทางการเมือง ประตูนี้อาจถูกปิด เพราะหากเอะอะอะไรก็ยื่นจะทำให้สถาบันพระมหากษัตริย์ ด้านบวกเสื่อม
นายสุริยะใสกล่าวต่อว่า หาก พ.ต.ท.ทักษิณ จะกลับมาติดคุก ตรงนี้ถือเป็นเรื่องเซอร์ไพรส์ แต่ตนคิดว่าคนอย่าง พ.ต.ท.ทักษิณ ไม่ทำอย่างนั้นเพราะเป็นคนไม่กล้าที่จะสู้กับความจริง นอกจากจะมีการเจรจากันแล้ว ว่า ถ้ามาจะโดนติดคุกแค่วันสองวันแล้วก็มีการอภัยโทษ อย่างไรก็ดีหากมีการวางหมากเข้ามา เพื่อให้เกิดการจลาจลถึงขั้นรัฐประหารนั้น มีโอกาสเป็นไปได้ ทั้งนี้ปัจจุบันการเมืองไทยอยู่ในเงื่อนไขที่จะทำการรัฐประหารได้ตลอดเวลา และตอนนี้ผู้นำทหารอยู่ในจุดที่ไม่เอาทั้งเหลืองและแดง แต่พร้อมที่จะจับมือกับทุกส่วน สูตรแบบนี้พ.ต.ท.ทักษิณ อาจจะไม่ได้เป็นผู้บงการรัฐประหารเองแต่เข้าเป็นหุ้นส่วนของการรัฐประหาร แล้วเอานายกฯที่เป็นกลางมาบริหารบ้านเมืองให้สงบสักปี ค่อยแก้ไขรัฐธรรมนูญ ตรงนี้ก็อาจเป็นไปได้
“พลังของกลุ่มเสื้อแดงมี แต่เป็นพลังของการการขัดขวาง พลังเชิงลบ ยึดติดกับตัวบุคคลทำเพื่อคนๆเดียว ที่คนเสื้อแดงชอบพูดอยู่เสมอว่าต้อง พ.ต.ท.ทักษิณ เท่านั้นประเทศถึงจะไปรอด ตรงนี้มันเป็นความคิดที่ผิด หากเอามุมดีๆ มาพูดอาจได้รับการยอมรับ เช่นเรื่องเป็นแบบอย่างในการเข้าถึงภาคสังคม แต่นี่เอาตัวบุคคลมาพูด เหมือนเป็นการเอากำปั้นทุบดินหัวชนฝาอย่างไรก็ต้อง พ.ต.ท.ทักษิณ ไม่รับฟังความคิดเห็นคนอื่น เมื่อเป็นดังนี้หากหลุดจากภาพลักษณ์เหล่านี้ได้ พรรคประชาธิปัตย์จะอยู่ลำบาก”นายสุริยะใส กล่าว
นายสุริยะใสกล่าวว่า น่าเสียดายสื่อของเสื้อแดงหลายๆอย่างที่ออกมา น่าจะทำประโยชน์ให้กับประชาชนได้มากกว่านี้ ยอมรับในความริเริ่มสร้างสรรค์ที่นำต้นแบบทางวัฒนธรรม มาปรับประยุกต์ใช้กับสื่อ เช่น เอาหมอลำมาร่ายบทกลอน รำพึงรำพันสะท้อนปัญหาสังคม ขณะเดียวกันก็สอดแทรกความดีของ พ.ต.ท.ทักษิณ ด้วยความเป็นวัฒนธรรมวิถีพื้นบ้านทำให้คนฟังไม่เครียด เกิดความเพลิดเพลิน ดีทำให้คนคล้อยตามได้ง่าย ขนาดตนยังฟังได้ถึง 3 ชม. ดังนี้ถ้าหากเป็นคนเฒ่าคนแก่คงไม่ต้องพูดถึง ด้วยเหตุนี้จึงไม่แปลกที่คนอีสานจะนิยมชมชอบพ.ต.ท.ทักษิณ อย่างไรก็ดีสิ่งทั้งหลายเหล่านี้สอดคล้องกับการประกาศอยากกลับบ้านของ พ.ต.ท.ทักษิณ ตรงนี้รัฐบาลอย่ามองข้าม
นายสุริยะใสกล่าวถึงคดีลอบยิงนายสนธิ ลิ้มทองกุล ว่าเป็นเรื่องยากหากนายกฯ จะจัดการ เพราะรัฐบาลประชาธิปัตย์ในขณะนี้ก็ไม่ได้มีอำนาจที่เด็ดขาดอย่างแท้จริง ก็เลยทุลักทุเลอยู่อย่างนี้ โดยโอกาสที่จะมีการเปลี่ยนขั้วโดยการทำรัฐประหารเงียบก็มีความเป็นไปได้ ดังนี้นายกฯต้องกล้าเอาประชาชนหนุนหลัง อย่าเอาสีเขียวหนุนหลัง เพราะมันไม่ยั่งยืนเหมือนประชาชน และคดีนี้สันนิษฐาน ว่า สุดท้ายจะถูกรัฐประหารก่อนที่คดีจะถึงปลายทาง และมีโอกาสเป็นไปได้มาก เพราะตอนนี้ไม่ว่าจะเป็นรัฐบาล ฝ่ายค้าน หรือเหลือง-แดง อยู่ในภาวะก้ำกึ่งไม่มีฝ่ายไหนมีกำลังมากอย่างเด็ดขาด ดังนี้หากลมพัดไปทางไหนก็อาจเปลี่ยนทิศได้เสมอ
เลขาธิการ ก.ม.ม.กล่าวถึงพรรคการเมืองใหม่ว่า ตอนนี้พรรคเพื่อไทยหรือพรรคประชาธิปัตย์ ไม่ใช่คู่แข่ง ซึ่งการเมืองใหม่ได้มองข้ามตรงนี้ไปแล้ว คู่แข่งจริงๆ คือตัวเองที่จะต้อง ปลูกฝังให้ประชาชนได้เรียนรู้ระบอบประชาธิปไตยในเชิงลึกและกว้างขึ้น อันจะนำไปสู่การเมืองที่ดีในอนาคต
นายไชยันต์กล่าวว่า กล่าวว่าการที่ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร จะประกาศเหตุ บิ๊กเซอร์ไพรส์ นั้นมันไม่เซอรไพรส์เลย เพราะเป็นการสร้างข่าวเรื่อยเปื่อย หวังอยากให้เป็นข่าว แต่ถ้าหากจะให้เซอร์ไพรส์ในตัวเลขรายชื่อทีเตรียมยื่นถวายฏีกาที่หาได้มาก และเป็นไปได้ที่ พ.ต.ท.ทักษิณ จะบอกว่าเปลี่ยนใจไม่ยื่นถวายฎีกาแล้ว อาจจะอ้างเพราะไม่ต้องการให้ระคายเบื้องพระยุคลบาท ก็เพื่อต้องการยกเครดิสให้ตัวเอง ว่าจงรักภัคดี
ส่วนจะเป็นเซอร์ไพรส์ในกรณีที่ยอมกลับมาติดคุกตรงนี้อาจเป็นไปได้ หากกลับมาแล้วมันจะเกิดจลาจน อันจะนำไปสู่เงื่อนไขการปฎิวัติ เพราะถ้า พ.ต.ท.ทักษิณ กลับมา พันธมิตรฯต้องออกมาเคลื่อนไหวแน่ จากนั้นปล่อยให้เสื้อเหลือง-แดงฟาดฟันกันสักระยะ เพื่อให้ต่างประเทศมองว่า เป็นความชอบธรรมหากจะปราบจลาจน ซึ่งมันก็เข้าแผนให้ทหารล้มกระดาน
นายไชยันต์กล่าวต่อว่า การยื่นถวายฎีกาของนักวิชาการที่มารวมตัวกัน 99 คน ที่รู้จักกันในฎีกา99 ปี2531 ที่ต้องการให้ พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ ประธานองคมนตรีและรัฐบุรุษ ยกเลิกบทบาท เพราะเขามองว่าได้รับการสนับสนุนจากสถาบันกษัตริย์และกองทัพให้ดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีต่อเนื่องในประชาธิปไตยครึ่งใบ ซึ่งการยื่นตรงนี้จุดประสงค์มันคือประชาธิปไตย แต่การยื่นฎีกาปัจจุบันถือเสมือนเป็นการดึงเอาระบอบสมบูรณาญาสิทธิราชมาใช้ อย่างไรก็ดีรัฐธรรมนูญปัจจุบันระบุไว้ว่าการปกครองอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นองค์ประมุข ดังนั้นพระมหากษัตริย์ ไม่สามารถยกเลิกคำสั่งศาลได้ นอกเสียจาก พ.ต.ท.ทักษิณจะยอมมาติดคุกเสียก่อนตามเงื่อนไขในกฎหมาย ถึงจะมีสิทธิขอพระราชทานอภัยโทษได้
อาจารย์จุฬาฯ กล่าวว่า เมื่อย้อนกลับไปดูเมื่อเดือนพฤศจิกายน 2548 สิ่งที่พ.ต.ท.ทักษิณ บอกจะมีเซอร์ไพรส์ ก็มีการโฟนอินเข้ามาเป็นครั้งแรก โดยการพูดในลักษณะต้องการกลับเมืองไทยโดยขอพึ่งพระบารมี หรือพลังประชาชน ในลักษณะขู่ กรรโชคสถาบัน คล้ายๆมือหนึ่งไหว้มือหนึ่งถือลูกละเบิด และใครที่มองว่า พ.ต.ท.ทักษิณ กำลังกลับมาแรง ขณะนี้โดยดูการเลือกตั้งที่จังหวัดสกลนคร กับจังหวัดศรีษะเกษ ตรงนี้มันไม่ใช่การวัดความศรัทธา ส่วนที่พ.ต.ท.ทักษิณประกาศ ว่า จะเอาติวเตอร์จากต่างประเทศ ชั่วโมงละหมื่น มาสอนหนังสือให้เด็กไทย อาจเป็นการส่งสัญญาณชดเชยอะไรบางอย่าง เพื่อเรียกเหรดติ้งกลับคืน
นายไชยันต์ กล่าวว่าการลอบสังหารนายสนธิ ลิ้มทองกุล จุดประสงค์คือต้องการเปลี่ยนบทบาททางการเมือง ตั้งแต่ช่วงสงกรานต์เหตุการณ์สืบเนื่องกันตลอด ต้องการล้มทั้งแดง เหลือง ศูนย์อำนาจที่แท้จริงไม่มีทางสาวถึง ปัญหามีอยู่ว่า จะแก้อย่างไรไม่ให้เปลี่ยนการเมืองล้มกระดาน