“สดศรี” เผย กกต.เตรียมวินิจฉัย ส.ส.อีก 6 คนที่ถือหุ้นบริษัทสื่อสารมวลชน และบริษัทสัมปทานรัฐ ต้นเดือน ส.ค.ยันใช้มาตรฐานเดียวกับ 13 ส.ส.ปชป. เตือน 6 ส.ส. ขณะนี้ยังไม่ได้เข้าชี้แจงข้อกล่าวหาต่อ กกต.ชี้หากไม่มาถือว่าสละสิทธิ์ ระบุอนุฯ กกต.ได้ลงพื้นที่หาหลักฐานเพิ่มเติมที่ตลาดหลักทรัพย์แล้ว ขณะเดียวกัน กกต.เล็งจัดทำคู่มือการเลือกตั้ง พร้อมอบรมให้ความรู้ระเบียบเกี่ยวกับ ก.ม.
วันนี้ (20 ก.ค.) นางสดศรี สัตยธรรม กรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ด้านกิจการพรรคการเมือง เปิดเผยว่า ขณะนี้ยังเหลือ ส.ส.ที่ถือหุ้นบริษัทสื่อสารมวลชน และบริษัทสัมปทานรัฐ อีกจำนวน 6 คนที่ยังอยู่ในการพิจารณาของอนุฯ กกต.ซึ่งยังไม่ได้มีการสรุปผลสอบ โดยตนจำไม่ได้ว่ามีใครบ้าง ทั้งนี้ ในวันที่ 22 กรกฎาคม อนุกรรมการ กกต.จะรายงานความคืบหน้าการพิจารณาต่อที่ประชุมใหญ่ และคาดว่าประมาณต้นเดือนสิงหาคมจะสามารถเริ่มวินิจฉัยได้ โดยยืนยันจะใช้มาตรฐานเดียวกับ 13 ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ ที่ถูกวินิจฉัยไปก่อนหน้านี้
สำหรับ ส.ส.ทั้ง 6 คน ขณะนี้ยังไม่ได้เข้าชี้แจงข้อกล่าวหาต่อ กกต. ซึ่งหากไม่มาก็ถือว่าสละสิทธิ์ อย่างไรก็ตาม อนุฯ กกต.ได้ลงพื้นที่หาหลักฐานเพิ่มเติมที่ตลาดหลักทรัพย์แล้ว
ด้าน นายประพันธ์ นัยโกวิท กรรมการการเลือกตั้ง ด้านบริหารการเลือกตั้ง กล่าวว่า ในปี 2552 เป็นปีที่มีการจัดการเลือกตั้งองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นมากที่สุด เท่าที่เคยมีการเลือกตั้งมา โดยในช่วงปลายเดือนกรกฎาคมนี้ จะมีองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น 3,814 แห่ง ครบวาระ และจะมีการเลือกตั้งในวันที่ 6 กันยายนนี้ กกต.จึงมีความจำเป็นต้องเตรียมวิทยากรครู ก. เพื่อให้ความรู้แก่กรรมการประจำหน่วย หรือครู ข. โดยมีโครงการฝึกอบรมครู ก. หรือวิทยากรต้นแบบทั่วประเทศ ให้ได้ประมาณ 800 คน เช่นในวันนี้จะจัดอบรมที่กรุงเทพมหานครประมาณ 90 คน ซึ่งจะคัดเลือกจากผู้บริหารในท้องถิ่น ผู้ทรงคุณวุฒิในแต่ละจังหวัดมาอบรมให้ความรู้เกี่ยวกับเรื่องระเบียบกฎหมาย พร้อมจัดทำคู่มือการเลือกตั้ง ในการเผยแพร่ความรู้ด้านประชาธิปไตย และกระบวนการเลือกตั้งที่ถูกต้องให้ประชาชนในท้องถิ่นเข้าใจ
สำหรับการเลือกตั้งท้องถิ่นในครั้งที่ผ่านมา นายประพันธ์กล่าวว่า มีประชาชนให้ความสำคัญมาใช้สิทธิเลือกตั้งเป็นจำนวนมาก ทั้งนี้ เนื่องจากตำแหน่งผู้บริหารองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น เป็นการทำงานที่ใกล้ชิดกับประชาชนมากที่สุด