เลขาธิการ ปชป.พลิกวิกฤตเป็นโอกาสหลัง กกต.ชี้พ้นสภาพ ส.ส.เปิดทางน้องชายลงสมัครรับเลือกตั้งซ่อมเขต 1 สุราษฎร์ฯ แทนที่ตัวเองลาออก แต่ยังแทงกั๊กให้ กก.บห.พรรคเป็นผู้พิจารณาอีกครั้ง ด้าน “ธานี” หนีใบเหลืองเวทีท้องถิ่น ขึ้นแท่นสนามเลือกตั้งระดับชาติ ไม่หวั่นฝ่ายค้านจ้องถล่ม
วันนี้ (20 ก.ค.) นายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรีด้านความมั่นคง กล่าวถึงกรณีที่นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี เดินทางไปที่ จ.ภูเก็ต ในการประชุมรัฐมนตรีต่างประเทศอาเซียน ว่าเป็นการลงไปปฏิบัติหน้าที่ตามปกติ ไม่มีอะไรเป็นพิเศษ โดยจะไปดูแลมาตรการรักษาความสงบเรียบร้อยภายในพื้นที่ เพื่อให้การประชุมเป็นไปอย่างราบรื่น พร้อมยืนยันว่าการตัดสินใจลาออกจากการเป็น ส.ส.ของตน ภายหลังคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) วินิจฉัยว่าขาดคุณสมบัติจากกรณีการถือครองหุ้นบริษัทที่เป็นคู่สัมปทานรัฐนั้น ไม่ได้เป็นการตัดสินใจแบบสายฟ้าแลบ
ทั้งนี้ ในส่วนของพื้นที่ที่จะมีการเลือกตั้งซ่อมนั้น ได้ให้ผู้บริหารของพรรคพิจารณาบุคคลที่จะลงสมัครรับเลือกตั้งเอง พร้อมย้ำว่าไม่ต้องการให้ ส.ส.ที่ถูก กกต.วินิจฉัยขาดคุณสมบัติทั้ง 12 คน ลาออกตามตนเอง แต่ต้องการให้ไปสู้คดีในชั้นศาล
นอกจากนี้ รองนายกรัฐมนตรียังกล่าวถึงสถานการณ์ความไม่สงบใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ด้วยว่า หากงบประมาณลงไปในพื้นที่แล้วเชื่อว่าสถานการณ์จะดีขึ้น โดยในวันที่ 23 กรกฎาคมนี้ ตนจะลงพื้นที่ไปตรวจดูความเรียบร้อย และให้กำลังใจแก่เจ้าหน้าที่ที่ปฏิบัติงานและประชาชนใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ด้วย
ด้าน นายธานี เทือกสุบรรณ น้องชายนายสุเทพ ยอมรับว่าพร้อมจะลงเลือกตั้งเขต 1 จ.สุราษฎร์ธานี แทนพี่ชาย หลังจากที่ได้ตัดสินใจลาออกเพราะถูก กกต.วินิจฉัยถือหุ้นบริษัทเข้าข่ายลักษณะต้องห้าม โดยตนได้มีการพูดคุยกับนายสุเทพแล้ว รอเพียงการตัดสินใจจากที่ประชุมกรรมการบริหารพรรคประชาธิปัตย์ ส่วนการที่ กกต.ให้ใบเหลืองในการเลือกตั้ง อบจ.นั้น ตนได้หาคนมาลงเลือกตั้งแทนแล้ว และไม่ใช่เป็นการพลิกวิกฤตเป็นโอกาส ทั้งที่จะต้องสู้ศึกเลือกตั้งสนามท้องถิ่น แต่กลับได้รับอานิสงส์จากพี่ชายให้มาลงสมัครชิงตำแหน่ง ส.ส.แทน เพราะตำแหน่งนี้พรรคประชาธิปัตย์ต้องเห็นชอบก่อน และการที่ตนทำงานในพื้นที่มานานก็เป็นที่ยอมรับของประชาชน
นายธานีกล่าวว่า ตนไม่ห่วงที่จะถูกฝ่ายค้านหยิบประเด็นนี้มาโจมตี เพราะคนจะโจมตีก็สามารถนำทุกประเด็นมากล่าวหาได้ สวนกระแสข่าวที่ลูกชายของนายสุเทพถูกวางตัวเป็นตัวเก็งเพื่อจะมาแทนนางนิภา พริ้งศุลกะ ส.ส.เขต 2 จ.สุราษฎร์ธานี ซึ่งถูก กกต.วินิจฉัยเช่นกันนั้น ตนไม่ทราบเรื่องนี้