นายกฯกำชับ ตำรวจ ขอความร่วมมือ “กทช.” จับตา “แม้ว” โฟนอินถี่ ผ่านวิทยุชุมชน ยันจะลงพื้นที่พบประชาชนทุกภาค วอน ส.ส.เพื่อไทย เข้าใจ รัฐบาลไม่คิดเปิดสงครามประชาชน
วันนี้ (19 ก.ค.) นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ถึงการประชุมรัฐมนตรีต่างประเทศอาเซียน ที่มี 4 ประเทศส่งตัวแทนมา ว่า 4 ประเทศที่เข้าใจ มี เกาหลีเหนือ เป็นประเด็นที่ไม่น่าจะเกี่ยวข้องกับไทยเท่ากับจุดยืนของเขา หลังจากที่มีมติของสหประชาชาติออกมาและประเด็นที่เขาบอกไม่เจรจา 6 ฝ่าย ส่วนอีก 3 ประเทศ คือ ปาปัวนิวกินี มองโกเลีย แคนาดา เป็นการส่งตัวแทนเข้ามาร่วมประชุมเรื่องความมั่นคงภูมิภาคและหนึ่งในนั้นเป็นประเทศคู่เจรจา ส่วนอื่นก็มากันครบถ้วน ส่วนเรื่องการดูแลรักษาความปลอดภัยขณะนี้เรียบร้อยดี
เมื่อถามว่า กรณีเสื้อแดง ส.ส.ลำพูน พรรคเพื่อไทย นายสงวน พงษ์มณี ออกมาพูดปลุกประชาชนให้ต่อต้านรัฐบาลเพราะรัฐบาลเป็นคนเปิดสงครามประชาชนรอบใหม่ นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า ไม่มี รัฐบาลไม่เคยเปิดสงครามกับใคร อยากจะทำความเข้าใจกับทาง ส.ส.พรรคเพื่อไทย ว่า การปฏิบัติหน้าที่ของรัฐบาล และรัฐมนตรีเป็นไปโดยปกติ การลงพื้นที่จะไม่มีลักษณะการยั่วยุ ทำให้เกิดความขัดแย้ง การลงพื้นที่ คือ การไปทำงาน ฉะนั้น ไม่มีเหตุผลไรที่จะต้องการมาปะทะ หรือบอกว่าเป็นการทำสงครามอะไรทั้งสิ้น
เมื่อถามว่า การโฟนอินผ่านวิทยุชุมชนของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี บ่อยครั้งจะเป็นอุปสรรคต่อการลงพื้นที่ของนายกฯและรัฐมนตรีหรือไม่ นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า ขณะนี้เรายีงเดินหน้าลงพื้นที่ และวันนี้มีรัฐมนตรีอีกหลายท่านที่ลงพื้นที่ ตนก็ติดตามอยู่ทั้งภาคเหนือ อีสาน ทุกภาค ฉะนั้น ยังสามารถทำงานกันได้ เมื่อถามว่า สิ่งที่ ส.ส.เพื่อไทย ออกมาพูดว่ารัฐบาลลงในพื้นที่ที่มีการต่อต้านเหมือนเป็นการสร้างเงื่อนไข จะทำให้ประชาชนเข้าใจผิดหรือเปล่า นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ตนย้ำกับพี่น้องประชาชนชัดเจน การทำงานไม่น่าเป็นเรื่อ่งการสร้างความขัดแย้ง รัฐมนตรีทุกท่านที่ลงพื้นที่ตนก็ย้ำเรื่องการไปทำงาน เชื่อว่า พี่น้องประชาชนส่วนใหญ่ต้องการเห็นรัฐมนตรีเข้าไปตามงานและติดตามเรื่องราวต่างๆ ได้ในทุกพื้นที่ ส่วนคนที่ไม่เห็นด้วยมาต่อต้านก็ย้ำว่าขอให้แสดงออกในลักษรระที่อยู่ในขอบเขตของกฎหมาย แต่ถ้ามาขัดขวางและมีอาวุธก็ไม่ได้ ทางเจ้าหน้าที่ตอ้งดำเนินการ
เมื่อถามว่า จะจัดการอย่างไรกับวิทยุชุมชุนที่มีการเผยแพร่ในลักษณะที่ไม่เหมาะสม นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า ทาง กทช.จะเป็นผู้ดำเนินการในเรื่องนี้ และได้มีการออกหลักเกณฑ์อะไรต่างๆ ออกมาในช่วงระยะหลังนี้ เราจะขอให้ทาง กทช.ติดตามสอดส่องให้ละเอียด เมื่อถามว่า จะทันหรือไม่ เพราะการปุกระดมผ่านวิทยุชุมชนทำมาอย่างต่อเนื่อง นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า จะย้ำเรื่องนี้ไปกับทาง กทช.และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพราะเราต้องระมัดระวังหากเป็นเรื่องมที่ฝ่ายบริหารเข้าไปจัดการกับวิทยุชุมชนโดยที่ไปคาบเกี่ยวเรื่องการเมืองหรือไม่ จะเป็นการสร้างบรรทัดฐานที่ผิดอีก กลายเป็นฝ่ายบริหารเข้าไปปิดกั้นสื่อ ตนได้ย้ำกับทางตำรวจและขอความร่วมมือกับทาง กทช.หากมีการกระทำที่ผิดกฎหมายชัดเจน อันนั้นเป็นเรื่องกฎหมายคงไม่ใช่เรื่องที่เป็นความเห็นทางการเมือง
เมื่อถามว่า ยังจะลงพื้นที่อีสานตามที่กำหนดไว้หรือไม่ นายอภิสิทธิ์ กล่าวยืนยันว่า ลงทุกภาค แต่ยังไม่มีกำหนดการที่ชัดเจน ครั้งหน้านี้นัดหมายลงภาคใต้คือสงขลา แต่กำลังดูพื้นที่สุโขทัย อุบลราชธานี เชียงใหม่ ตรงนี้ยังรอคิวอยู่ เมื่อถามถึงผลสำรวจความนิยมรัฐบาลลดลงหลังจากที่ กกต.ชี้ 13 ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ ขาดคุณสมบัติ นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ข่าวลักษณะนี้ไม่ใช่ข่าวที่เป็นบวกอยู่แล้ว ก็ต้องบริหารจัดการและก้ไขปัญหาสิ่งสำคัญสุดคือเร่งเดินหน้าผลักดันงานต่างๆ ออกมา ซึ่งก็มีความคืบหน้าเกือบทุกงาน และยังมีสถานการณ์บางอย่างที่ทำให้พี่น้องประชาชนเกิดความวิตกกังวลเช่นเรื่องไข้หวัดใหญ่ 2009 ยังต้องใช้เวลาในการช่วยกันทำให้เกิดความเข้าใจว่าโรคระบาดลักษณะนี้จะต้องบริหารจัดการกันอย่างไร
ส่วนกรณีองค์การอนามัยโลก ไม่ประกาศเรื่องตัวเลขนั้น ในส่วนของไทยยังคงรายงานทุกสัปดาห์ ขณะนี้สถานการณ์ที่ใกล้เคียงไทยค่อนข้างมาก คือ อังกฤษ ออสเตรเลีย แคนาดา และอีกหลายประเทศที่เริ่มมีผู้เสียชีวิต ซึ่งเราต้องดูจุดอ่อน จุดแข็ง และตนได้ย้ำให้กระทรวงสาธารณสุขให้เร่งเรื่องของคู่มือ ซึ่งไม่ควรแจกกจ่ายที่โรงพยาบาล เพราะเราไม่ได้ต้องการให้คนทั่วๆ ไป ไปโรงพยาบาลในขณะนี้
