ปชป.ดัน “กำนันเล็ก” ลงเลือกตั้งซ่อม สนามสุราษฎร์ “ชุมพล” ป้อง 12 ส.ส.ไม่ต้องไขก๊อก เผย “เทพเทือก” ชิงลาออก โชว์สปิริตการเมือง ลดแรงกดดัน เตรียมฟอกตัวรอเลือกตั้งใหญ่ หลัง “มาร์ค” ยอมรับ โพลลับพรรค ปชช.ไม่แฮปปี้ผลงานรัฐบาล
วันนี้ (17 ก.ค.) นายชุมพล กาญจนะ ส.ส.สุราษฎร์ธานี ประธาน ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงการที่ นายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกฯ ประกาศลาออก จากการเป็น ส.ส.สุราษฎร์ธานี ว่า เป็นเรื่องของ นายสุเทพ ไม่เกี่ยวกับ ส.ส.อีก 12 คน ที่ถูก กกต.ชี้ว่าขาดคุณสมบัติในการเป็น ส.ส.ที่จะต้องลาออกตาม เพราะทั้ง 12 คน ไม่มีตำแหน่งอะไรในรัฐบาล ดังนั้น ก็คงจะต้องรอว่า เมื่อ กกต.ส่งเรื่องไปที่ประธานวุฒิสภาแล้ว จากนั้นต้องส่งไปศาลรัฐธรรมนูญ หากศาลรัฐธรรมนูญรับก็ต้องมาพิจารณากันอีกว่าจะปฏิบัติอย่างไร ทั้งนี้ ในวันจันทร์ที่ 20 ก.ค.นี้ คงจะได้หารือนอกรอบกับ 12 ส.ส.ที่มีปัญหา แต่ไม่ได้นัดหมายอย่างเป็นทางการ โดยจะพูดคุยกันว่าจะดำเนินการอย่างไร
นายชุมพล กล่าวอีกว่า ทั้งนี้ ในส่วนของผู้ที่จะลงสมัครรับเลือกตั้งแทนนายสุเทพนั้น ตามขั้นตอนของพรรคทางคณะกรรมการคัดเลือกผู้สมัครของพรรคคงจะมอบหมายให้ประธานสาขา และกรรมการสาขา เป็นผู้พิจารณาดูว่าใครเหมาะสม พร้อมให้ ส.ส.ในพื้นที่ร่วมพิจารณาถึงความเหมาะสมด้วย ซึ่งใน จ.สุราษฎร์ธานี มีคนเหมาะสมหลายคน โดยความเป็นไปได้น่าจะเป็น นายธานี เทือกสุบรรณ หรือ กำนันเล็ก น้องชาย นายสุเทพ ที่ไม่ได้ลงสมัครรับเลือกตั้งในสนามนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัด (อบจ.) สุราษฎร์ธานีอีกครั้ง หลังจากที่ถูกศาลแจกใบเหลืองมาแล้ว ซึ่งจะไม่มีปัญหาทางกฎหมาย เพราะศาลไม่ได้วินิจฉัยว่า นายธานี กระทำผิดกฎหมายเลือกตั้ง
อย่างไรก็ตาม มีการประเมินของ ส.ส.ในพรรคประชาธิปัตย์ ว่า เหตุผลการตัดสินใจชิงลาออกจากตำแหน่ง ส.ส.ของนายสุเทพ ทันทีที่ กกต.วินิจฉัย ว่า น่าจะมีสาเหตุหลักมาจากต้องการสร้างภาทางการเมือง คือ เท่ากับได้แสดงภาพลักษณ์ ว่า เป็นคนที่มีสปิริต เพราะได้ทำตามที่เคยประกาศไว้ว่า หาก กกต.วินิจฉัยว่ามีความผิดก็จะลาออกทันที และการลาออกจากตำแหน่ง ส.ส.ไม่กระทบต่อรัฐบาล เพราะยังคงเป็นรองนายกฯอยู่ต่อไป และจะลดกระแสแรงทางการเมืองได้อีกด้วย เพราะเชื่อว่า หาก นายสุเทพ ยังเป็น ส.ส.ต่อไป จะเข้าทางฝ่ายตรงข้ามที่จะนำไปเป็นประเด็นที่โจมตีได้มากขึ้น
แหล่งข่าวกล่าวว่า การลาออกดังกล่าวยังเป็นการล้างมลทินข้อกล่าวหาในเรื่องดังกล่าว เพราะนายสุเทพได้ขายหุ้นทั้งหมดที่เป็นปัญหาออกไปหมดแล้ว ถือว่าเคลียร์ตัวเองให้ขาวสะอาด และหยุดพักการเลือกตั้งไว้ชั่วคราว โดยการให้บุคคลที่ใกล้ชิดลงสมัครแทน เพราะถึงอย่างไรก็สามารถชนะในสนามสุราษฎร์ธานีอยู่แล้ว การเอา นายธานี มาลงเลือกตั้งซ่อมแทน เท่ากับให้น้องชายมารักษาฐานที่มั่นเอาไว้ และยังหนีปัญหาการเลือกตั้งซ่อมนายก อบจ.อีกด้วย
นอกจากนี้ แม้จะดูภายนอกว่าเสถียรภาพของรัฐบาลยังนิ่งไม่มีปัญหา แต่แกนนำพรรคประชาธิปัตย์ ยอมรับว่า มีความกังวลใจอยู่พอสมควร โดยในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ นายสุเทพ เทือกสุบรรณ เลขาธิการพรรค และนายกรณ์ จาติกวณิช รมว.คลัง รองหัวหน้าพรรค ที่รับผิดชอบพื้นที่ในเขต กทม.ได้มีการหารือกับ ส.ส.กทม.เพื่อวิเคราะห์สถานการณ์ โดย นายอภิสิทธิ์ ได้ยอมรับกับ ส.ส.ว่า ขณะนี้ประชาชนไม่ค่อยจะพอใจต่อผลการทำงานของพรรคประชาธิปัตย์ในการเป็นรัฐบาล โดยผลสำรวจเอแบคโพลล์ ที่ออกมานั่นไม่ผิดพลาด เพราะใกล้เคียงกับผลการสำรวจความนิยมของพรรคที่ทำในเชิงลับ ดังนั้น ขอให้ ส.ส.อย่าประมาท และให้เร่งทำงานในพื้นที่อย่างหนัก ขณะที่ นายกรณ์ เสนอว่า ควรจะเร่งหาตัวผู้สมัคร ส.ส.ในเขตที่พรรคไม่ได้ที่นั่ง เพราะไม่แน่ใจว่าจะเกิดอุบัติเหตุทางการเมือง ส่งผลให้ยุบสภาเมื่อไหร่ ดังนั้น ทุกคนต้องเตรียมพร้อม อย่างไรก็ตาม จะพยายามยืดอายุให้ได้อยู่นานที่สุด โดยอย่างน้อยขอให้การใช้งบประมาณต่างๆ ที่ลงไปแล้วเริ่มได้ผล และให้เริ่มใช้งบประมาณ ปี 2553 ไปแล้ว ซึ่งคาดการณ์ว่าหากจะมีการเปลี่ยนแปลงทางการเมืองเกิดขึ้น ก็ตงจะเป็นช่วงปลายปีนี้ หรือไม่ก็ต้นปีหน้า
“การชิงลาออกของ นายสุเทพ โดยไม่ลงสมัครเลือกตั้งซ่อมอีก มองได้ว่า เขาต้องการตัดไฟแต่ต้นลม เพราะถ้าต้องการต่อสู้ต่อไป ไม่มีใครรู้ว่าผลจะออกมาเป็นซ้าย หรือขวา อีกทั้งกระบวนการนี้ศาลรัฐธรรมนูญ อาจจะใช้เวลาวินิจฉัยยาวนาน และอาจจะมีการยุบสภาก่อนก็ได้ หาก นายสุเทพ ต้องลงสมัครเลือกตั้งใหญ่ อาจจะมีการร้องให้ตีความในเรื่องคุณสมบัติว่ามีคดีค้างคาในชั้นศาล หรือมีมลทิน ดังนั้น งานนี้เท่ากับยิงปืนนัดเดียวได้นกสองตัว คือ ได้ภาพออกมาดีว่ามีสปิริตทางการเมือง ลดกระแสต่อต้านจากการเมืองภายนอก และเคลียร์ปัญหาต่างๆ ให้หมดไป เพื่อเตรียมรับมือกับการเลือกตั้งครั้งใหญ่ที่อาจจะมาถึงเร็วอย่างไม่คาดคิด”